อายตนะภายใน และ อาตยนะภายนอก
อายตนะภายใน และ อาตยนะภายนอก คืออะไร
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อายตนะภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ
อาตยนะภายนอก คือ สี เสียง กลิ่น รส สิ่งที่กระทบสัมผัส และ ธรรมมารมณ์
ดังนั้น หากเราข้าใจ ก็จะเข้าใจถูกว่า อายตนะ ก็ไม่พ้นจากสภาพธรรมที่มีจริงทั้งหมดที่เป็น จิต เจตสิกและรูป ดังนั้น พระสูตรทุกสูตร พระธรรมทุกบท และ ชาดกทุกเรื่อง ย่อมไม่พ้นจาก สภาพธรรมที่มีจริงที่เป็น อายตนะ ด้วย ไม่พ้นจากสิ่งที่มีจริง ที่เป็น จิต เจตสิกและรูป เพราะ ถ้าไม่มีตา ... ใจ ไม่มี สี เสียง เป็นต้น ที่เป็นอายตนะ ก็จะไม่มีการเกิดขึ้นของสภาพธรรม และก็ไม่สามารถบัญญัติ เป็นเรื่องราว ที่เป็นพระสูตร เป็นชาดก เป็นคนนั้นคนนี้ได้เลย แต่ก็มีพระสูตร ที่ เป็นชาดก ที่แสดงถึงเรื่อง อายตนะโดยตรง ที่เป็น ตา หู จมูก ที่เป็นการสำรวมอินทรีย์ คือ การสำรวม ตา หู ... ใจ ไว้ในชาดกเรื่องที่ว่า อปัณณกชาดก ครับ
เชิญคลิกอ่านที่ลิงก์นี้ ครับ
[เล่มที่ 55] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๑ - หน้าที่ 154
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สิ่งที่มีจริงๆ เป็นธรรม พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมตลอด ๔๕ พรรษา โดยละเอียดโดยประการทั้งปวง ก็เพื่อให้สัตว์โลกได้เข้าใจสิ่งที่มีจริง ตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะทรงแสดงโดยนัยของขันธ์ บ้าง ธาตุ บ้าง อายตนะ บ้าง ก็คือสภาพธรรมที่มีจริง ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งเมื่อเป็นธรรมแล้ว ก็ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เป็นแต่เพียงสภาพธรรม แต่ละอย่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไป โดยไม่ปะปนกัน แล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน หาความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน ในสภาพธรรมเหล่านั้นไม่ได้เลย แต่เพราะ ยังไม่เข้าใจ จึงจะต้องอาศัยการฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง จากที่ไม่รู้ ก็จะค่อยๆ รู้ขึ้น ด้วยความเข้าใจที่ค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
อายตนะ หมายถึง ที่เกิด บ่อเกิด ที่ประชุม ของ จิต เจตสิก รูป ซึ่งไม่เที่ยง เกิด แล้วดับไป สั้นมาก ไม่มีสาระ แต่ถ้าสติปัฏฐานเกิด ไม่ว่าจะเป็นทางตา หรือ ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ขณะนั้นอายตนะ มีสาระ มีปัญญา ค่ะ