*ทำดี และศึกษาพระธรรม*

 
kanchana.c
วันที่  17 ก.ค. 2555
หมายเลข  21425
อ่าน  2,260

เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว (15 ก.ค. 55) ไปฟังธรรมที่มูลนิธิฯ เห็นหลายคนใส่เสื้อยืดมีตรามูลนิธิฯ และมีข้อความปักข้างหลังว่า “ทำดี และศึกษาพระธรรม” ทราบมาว่า มีผู้มีจิตศรัทธา คือ คุณทวีชัย อยู่มั่นธรรมา นำมาบริจาคหลายร้อยตัว เราก็ได้อานิสงส์จากการไปร่วมฟังสนทนาธรรมที่วังน้ำเขียวและที่เชียงใหม่ได้รับแจกมา ๒ ตัว

เมื่อได้อ่านคำขวัญของชมรมบ้านธัมมะว่า “ทำดี และศึกษาพระธรรม” ก็เข้าใจอย่างเผินๆ ว่า ก็เหมือนอย่างที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ คือ ทำดี เพราะระหว่างความดีกับความชั่ว ควรจะทำอะไร ก็ต้องทำความดี แต่ก็รู้จากการฟังธรรมว่า เลือกไม่ได้อีกเหมือนกันว่าจะทำอะไร แล้วแต่เหตุปัจจัยที่สะสมมาที่จะโน้มเอียงในการทำดีหรือทำชั่ว จึงต้องศึกษาพระธรรมด้วย เพื่อทำความเห็นให้ตรงตามที่ทรงแสดงพระสัทธรรมไว้ดีแล้วว่า “สิ่งใดเป็นความชั่วควรระวังไม่ให้เกิดขึ้น แต่ถ้าความความชั่วเกิดขึ้นแล้วควรละ สิ่งใดเป็นความดีควรเจริญ และควรระวังรักษาความดีที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อมไป” แต่เมื่อฟังคำบรรยายธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ในวันนั้น จึงได้เข้าใจเพิ่มขึ้นว่า ทุกคนเห็นแก่ตัว (คำนี้ไม่เคยคิดว่า ตัวเองเป็น เพราะคิดเองว่า เราก็แสนดี เสียสละ ชอบช่วยผู้อื่นเสมอ) ทำอะไรทุกอย่างเพราะมีตัว เมื่อคิดตามคำบรรยายของท่าน ก็เห็นจริงด้วย อย่างที่มาฟังธรรม ก็เพราะอยากให้ตัวเองเข้าใจธรรม เพราะรู้ว่าธรรมเป็นมรดกอันล้ำค่าที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมอบไว้ให้พุทธศาสนิกชน แต่จะได้รับผลประโยชน์จากมรดกนี้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นกับความเข้าใจพระธรรมมากน้อยอย่างไรด้วย เมื่อตัวเองเข้าใจพระธรรมแล้ว ก็แน่ใจได้ว่า ตัวเองจะได้ทำความดีเพิ่มขึ้น เพื่อตัวเองจะได้รับสิ่งที่ดีเป็นผลตอบแทนทั้งในปัจจุบันชาติ และชาติต่อๆ ไปก่อนจะหลุดพ้นจากสังสารวัฏฏ์ด้วย เพราะรู้ว่า นั่นเป็นความสุขที่แท้จริง ทั้งหมดนั้นก็เพื่อตัวเองทั้งสิ้น

ท่านอาจารย์บรรยายต่อไปว่า ทำความดีมากแค่ไหนก็ยังไม่บริสุทธิ์ เพราะยังมีตัวตน แต่เมื่อใดได้ประจักษ์แจ้งว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา มีแต่จิต เจตสิก รูปที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ของตนๆ เพียง ๑ ขณะ แล้วก็ดับไป ไม่กลับมาเกิดซ้ำอีกเลย จึงหาความเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นตัวตน เป็นเรา เป็นเขาไม่ได้จากสิ่งที่เกิดแล้วดับแล้วอย่างรวดเร็วนั้น เมื่อประจักษ์แจ้งอย่างนี้ ความดีนั้นจึงจะบริสุทธิ์ แต่เมื่อยังไม่ถึงขั้นนั้น อยู่ในขั้นนี้ก็ต้องทำความดี แล้วศึกษาพระธรรมเพื่อให้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริงอย่างที่ทรงพระมหากรุณาแสดงไว้ให้ศึกษา ระลึก พิจารณาจนประจักษ์แจ้งในที่สุด ดังนั้นจึงควร “ทำดี และศึกษาพระธรรม” ต่อไป

ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

ขอกราบเท้าท่านอาจารย์ที่นำพระธรรมมาพร่ำสอนบ่อยๆ เนืองๆ โดยนัยต่างๆ

เพื่อให้ผู้ฟังได้มีโอกาสเข้าใจตามที่ได้ทรงแสดงไว้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 17 ก.ค. 2555

ขอบพระคุณและขออนุโมทนา อาจารย์กาญจนา ที่นำธรรมดีๆ มาให้อ่านกัน ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 17 ก.ค. 2555

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่แดงและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nong
วันที่ 17 ก.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 17 ก.ค. 2555

".....ทุกคนเห็นแก่ตัว ทำอะไรทุกอย่างเพราะมีตัว อย่างที่มาฟังธรรม ก็เพราะอยากให้ตัวเองเข้าใจธรรม เมื่อตัวเองเข้าใจพระธรรมแล้ว ก็แน่ใจได้ว่าตัวเองจะได้ทำความดีเพิ่มขึ้น เพื่อตัวเองจะได้รับสิ่งที่ดีเป็นผลตอบแทนทั้งในปัจจุบันชาติ และชาติต่อๆ ไปก่อนจะหลุดพ้นจากสังสารวัฏฏ์ด้วย เพราะรู้ว่า นั่นเป็นความสุขที่แท้จริง ทั้งหมดนั้นก็เพื่อตัวเองทั้งสิ้น...."

เพราะความเป็นเรา จึงทำทุกอย่างเพื่อ "เรา" และ "ของเรา" คนนี้ ปล่อยวางทางโลก แต่ไม่วายเข้าไปยึดติดทางธรรม เหมือนมือขวาที่แบออกไป แต่มือซ้ายกลับเข้าไปกำไว้แน่นดังนั้น ไม่ว่าจะทำดีมากแค่ไหน ก็ยังเป็นเราอยู่นั่นเอง ลืมไปเลยว่า...เป็นธรรม

ขอขอบคุณและขออนุโมทนาอาจารย์กาญจนาสำหรับกระทู้เตือนใจดีๆ นี้ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เข้าใจ
วันที่ 17 ก.ค. 2555

กราบขอบพระคุณครับ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
daris
วันที่ 17 ก.ค. 2555

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Graabphra
วันที่ 17 ก.ค. 2555

เพื่อประโยชน์และความสุขความสงบแก่ชาวโลกและโลกอื่นเป็นเบื้องต้น จนถึงความสุขที่แท้จริงครับ

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ผิน
วันที่ 17 ก.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 18 ก.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
rrebs10576
วันที่ 18 ก.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
khampan.a
วันที่ 19 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ไพเราะเป็นอย่างยิ่ง ครับ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของอาจารย์กาญจนา และทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 20 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

...แต่เมื่อยังไม่ถึงขั้นนั้น อยู่ในขั้นนี้ก็ต้องทำความดี แล้วศึกษาพระธรรม เพื่อให้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ตามความเป็นจริง อย่างที่ทรงพระมหากรุณาแสดงไว้ให้ศึกษา ระลึก พิจารณาจนประจักษ์แจ้งในที่สุด ดังนั้น จึงควร “ทำดี และ ศึกษาพระธรรม” ต่อไป...

กราบท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่แดงด้วยครับ

อ่านบทความของพี่แดงครั้งใด ประทับใจในความเป็นผู้ตรงและจริงใจของพี่แดง ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
เซจาน้อย
วันที่ 20 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"เพราะฉะนั้นจึงควรจะฟังพระธรรมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเข้าใจว่าไม่มีเรา"

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของอาจารย์กาญจนา และทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
pat_jesty
วันที่ 23 ก.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ประสาน
วันที่ 3 ก.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
chatchai.k
วันที่ 4 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
Wisaka
วันที่ 4 มี.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
พล.ต.อินทวัชร ลี้จินดา
วันที่ 20 ส.ค. 2567

สาธุครับ ฯ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ