มีปัญหาเกี่ยวกับอนันตริยกรรมต่อครับ

 
karakata999
วันที่  24 ก.ค. 2555
หมายเลข  21469
อ่าน  1,527

พอดีได้อ่านกระทู้นี้ และอยากถามละเอียดขึ้นครับ

ผู้ป่วยหนักระยะสุดท้าย

//dhammahome.com/webboard/topic/21087

ถ้ามีกรณีคล้ายๆ กันคือได้นำผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้ายกลับมาบ้านเพราะหมอบอกว่าไม่มีหวังแล้ว เพราะปอดทำงานไม่ได้แล้วเนื้อที่หายใจเหลือน้อยมากถ้าถอดท่อช่วยหายใจก็คงไป ถ้าปลุกคนไข้ตื่นมาก็ทรมานมาก หมอให้แต่หลับตลอดทั้งวันทั้งคืน หมอให้เลือกว่าจะให้ผู้ป่วยเสียไปแบบลดยาแล้วค่อยๆ จากไป หรือว่านอนไปอย่างนี้ เนื่องจากเรายังไม่เชื่อหมอ และขอให้เปลี่ยนจากท่อช่วยหายใจเป็นหน้ากากออกซิเจน เพื่อให้คนไข้พูดคุยกับเราได้บ้าง หมอก็ไม่ทำให้ บอกถ้าถอดก็ไป แต่ด้วยความที่ไม่เชื่อมั่นในตัวหมอเท่าไร จึงต้องปฏิเสธการรักษาพากลับบ้าน ตั้งใจไว้ว่าจะไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน ถ้าเปลี่ยนจากท่อช่วยหายใจเป็นหน้ากากออกซิเจนแล้ว มีถามคนไข้ช่วงตื่นว่าจะเปลี่ยนจากท่อเป็นหน้ากากไหม คนไข้กำลังเบลอๆ ด้วยฤทธิ์ยานอนหลับ มีพยักหน้า สามสี่รอบว่าเปลี่ยน แต่ก็มีครั้งสุดท้ายสั่นหัว เราก็คิดว่ามีความเสี่ยงสูงพอสมควรในการที่จะเปลี่ยนท่อช่วยหายใจเป็นหน้ากากครอบออกซิเจนเหมือนกัน แต่ยังคิดว่าผู้ป่วยคงหายใจกับหน้ากากออกซิเจนได้บ้าง เลยเสี่ยงที่จะเปลี่ยนดู และได้พาผู้ป่วยกลับบ้าน พยาบาลให้ถอดท่อเอง และเปลี่ยนใส่หน้ากากครอบออกซิเจนให้ แล้วเรารีบเรียกรถพยาบาลมารับไปเพื่อเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลใกล้บ้านรักษาต่อ แต่ไม่ทัน คนไข้เสียชีวิตก่อนรถมาในเวลาสั้นมาก

กรณีนี้เป็นอนันตริยกรรมไหมครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
karakata999
วันที่ 24 ก.ค. 2555

จุดที่สงสัยคือ ในส่วนเรารู้ว่ามีความเสี่ยงสูงในการเปลี่ยนเป็นหน้ากากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 26 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จากที่กล่าวมาไม่เป็นอนันตริยกรรม เพราะ ไม่มีเจตนาให้ผู้ป่วย มี มารดา หรือ บิดา จากไป หรือ สิ้นชีวิต แต่พยายามหาวิธีรักษาที่เหมาะสม แต่ก็รู้ว่ามีการเสี่ยงสูง การรู้ว่ามีการเสี่ยงสูง แต่ก็ทำวิธีนั้น เพื่อจะรักษาผู้ป่วย แสดงถึงเจตนาว่า ไม่ได้มีเจตนาให้ผู้ป่วยสิ้นชีวิต ไม่มีเจตนาฆ่า จึงไม่เป็นอนันตริยกรรม ครับ

ยกตัวอย่าง กรณีเปรียบเทียบ ดังเช่น แพทย์เป็นบุตร ที่ผ่าตัดรักษามารดา หรือ บิดาคิดหาวิธีรักษาขณะที่ผ่าตัด รู้ว่าวิธีนี้ มีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้คนไข้ คือ บิดา มารดา สิ้นชีวิต แต่ก็มีโอกาสรอดได้ ด้วยวิธีนี้ จึงลงมือผ่าตัดด้วยวิธีเสี่ยง ผลสุดท้าย มารดา หรือ บิดา สิ้นชีวิต กรณีนี้ ไม่เป็นอนันตริยกรรม เพราะ ไม่มีเจตนาฆ่า แต่มีเจตนาช่วยเหลือ แม้จะเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงสูงที่จะตาย และ ก็ตายด้วย แต่ การใช้วิธีที่เสี่ยง ด้วยเจตนาให้คนไข้รอดชีวิต ไม่ใช่ด้วยเจตนาฆ่า จึงไม่เป็นอนันตริยกรรม

กรณีของผู้ถามก็โดยทำนองเดียวกัน ครับ จึงไม่เป็นอนันตริยกรรม สบายใจได้ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 26 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อได้กระทำอย่างเต็มที่แล้ว ก็ไม่ควรที่จะเศร้าโศกเสียใจ ไม่ควรที่จะไปคิดมาก เพราะได้ทำหน้าที่ของลูกอย่างสุดความสามารถแล้ว เราไม่ได้ละทิ้งหน้าที่ที่บุตรจะพึงกระทำ, ที่จะเป็นเหตุให้เสียใจในภายหลัง ก็เฉพาะมีโอกาสที่จะกระทำสิ่งที่ดีให้กับท่าน แล้วไม่ได้กระทำ เมื่อท่านป่วยแล้วไม่ได้รักษา เหล่านี้ ย่อมเป็นเหตุให้เกิดความเสียใจในภายหลัง แต่เราไม่ได้เป็นอย่างนั้น เราได้กระทำอย่างเต็มที่แล้ว ด้วยมุ่งหวังที่จะพยาบาลรักษา ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น สิ่งที่ทำได้ ณ ตอนนี้ คือ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน

การเศร้าโศกเสียใจ ไม่นำมาซึ่งประโยชน์แก่ใครเลย ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 26 ก.ค. 2555

ไปตามกรรม เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน

ทำดีหรือทำชั่วก็เป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น

ถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว ไม่มีเจตนาร้าย แม้จะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ ก็ไม่เป็นอนันตริยกรรม และ

หน้าที่ของลูกคือการทำความดีแล้วอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้มีพระคุณทั้งหลาย มีบิดา มารดา

เป็นต้น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 29 ก.ค. 2555
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 21469 ความคิดเห็นที่ 3 โดย khampan.a

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อได้กระทำอย่างเต็มที่แล้ว ก็ไม่ควรที่จะเศร้าโศกเสียใจ ไม่ควรที่จะไปคิดมาก

เพราะได้ทำหน้าที่ของลูกอย่างสุดความสามารถแล้ว เราไม่ได้ละทิ้งหน้าที่ที่บุตรจะพึง

กระทำ, ที่จะเป็นเหตุให้เสียใจในภายหลังก็เฉพาะมีโอกาสที่จะกระทำสิ่งที่ดีให้กับท่าน

แล้วไม่ได้กระทำ เมื่อท่านป่วยแล้วไม่ได้รักษา เหล่านี้ ย่อมเป็นเหตุให้เกิดความเสียใจ

ในภายหลัง แต่เราไม่ได้เป็นอย่างนั้น เราได้กระทำอย่างเต็มที่แล้ว ด้วยมุ่งหวังที่จะ

พยาบาลรักษา ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น สิ่งที่ทำได้ ณ ตอนนี้ คือ ทำบุญอุทิศส่วน

กุศลไปให้ท่าน การเศร้าโศกเสียใจ ไม่นำมาซึ่งประโยชน์แก่ใครเลย ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ