ธรรมะ

 
อรรถวาที
วันที่  8 ส.ค. 2555
หมายเลข  21527
อ่าน  1,003

การปฏิบัติกรรมฐานให้ได้ผลควรเลือกกรรมฐานอย่างไหนดีครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 8 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การปฏิบัติธรรม ที่เป็นการอบรมปัญญา คือ ขณะที่สติปัฏฐานเกิดระลึกรู้ความจริงของสภาพธรรมในขณะนี้ ซึ่ง อารมณ์ที่เป็นที่ตั้งให้สติระลึก เรียกว่า กรรมฐาน เพราะฉะนั้นสภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน เช่น เห็น ได้ยิน โลภะ โทสะ สิ่งที่มีจริงที่เกิดในชีวิตประจำวัน ทางตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ เป็นที่ตั้งของสติ หรือ เรียกว่า เป็นกรรมฐาน ครับ

เพราะฉะนั้น กรรมฐาน ก็คือ สภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ เป็นกรรมฐานที่สติและปัญญา ควรรู้ จึงกลับมาสู่คำถามที่ว่า ควรเลือกกรรมฐานไหนดี ตามที่กล่าวมานั้น เป็นวิปัสสนากรรมฐาน คือ สติและปัญญาที่ระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริง

ซึ่งความเข้าใจที่ควรมีตั้งแต่ต้นและถูกต้อง คือ ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์ บุคคล มีแต่ธรรม และเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ดังนั้น มีใครปฏิบัติธรรมไหม มีใครเลือกกรรมฐานไหม ไม่มี เพราะ มีแต่ธรรมที่เกิดขึ้นทำหน้าที่เป็นไป เมื่อไหร่ที่จะเลือกกรรมฐานโดยปราศจากความเข้าใจ และ สติ ปัญญาไม่เกิด นั่นก็เป็นความต้องการที่เป็นโลภะที่จะเลือกรู้อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยที่สติและปัญญาไม่เกิด ครับ

ดังนั้น จึงไม่มีเราที่จะเลือกกรรมฐานหนึ่งกรรมฐานใด อารมณ์หนึ่ง อารมณ์ใด เพราะ ทุกอย่างจะเป็นไปตามการสะสมมาของผู้นั้น

สำคัญที่การอบรมเหตุ คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมในหนทางที่ถูกต้อง เมื่อมีการอบรมเหตุแล้ว สติและปัญญาที่เจริญขึ้น จะปฏิบัติหน้าที่ คือ เกิดเป็นไปตามการสะสม โดยเลือกไม่ได้ที่จะให้เกิด หรือ ให้เกิดตอนไหน และ ระลึกรู้อารมณ์อะไร เพราะ ไม่ใช่เรา มีแต่ธรรม ที่บังคับบัญชาไม่ได้ และ เมื่อใดที่สติและปัญญามเกิด ระลึกอารมณ์ใด ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าในขณะนั้น เป็นผู้ที่สะสมมาอย่างนั้น จึงระลึกรู้อามณ์นั้น ครับ

และ โดยนัยเดียวกัน แม้แต่การเจริญสมถภาวนา ก็ไม่มีตัวเราที่จะเลือก แล้วแต่ว่า จะสะสมการอบรมสมถภาวนามาหรือไม่ ธรรมเป็นไปตามเหตุปัจจัย

สุดท้าย จึงกลับมาสู่การอบรมเหตุ คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของธรรมที่จะปฏิบัติหน้าที่ ก็จะเบาสบายเพราะไม่ถูกโลภะที่จะเลือก จะทำ จะอยากรู้ ไม่ถูกเครื่องเนิ่นช้า คือ โลภะกั้นการอบรมปัญญา ครับ

ธรรม คือ สติและปัญญาที่เกิด จะเป็นตัวเลือกกรรมฐาน และ อารมณ์ให้สติและปัญญาที่เป็นสภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน โดยไม่มีเราที่จะเลือก ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 8 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ที่สำคัญ คือ ต้องเริ่มที่การฟังพระธรรมให้เข้าใจ เพราะถ้าไม่มีความเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว การปฏิบัติธรรมเกิดขึ้นไม่ได้ มีแต่จะปฏิบัติผิด เป็นไปกับด้วยความเห็นผิด ความไม่รู้และอกุศลธรรมอื่นๆ อีกมากมาย และไม่มีตัวตนที่ไปปฏิบัติ ไม่มีตัวตนที่จะไปเลือก

ที่ถูกต้องแล้ว ต้องเป็นความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมฝ่ายดีคือ สติและสัมปชัญญะ เกิดขึ้น ระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏตามความเป็นจริง ซึ่งจะต้องมีเหตุให้ปฏิบัติธรรมเกิดขึ้น นั่นก็คือ การฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกในเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ก็เป็นเหตุให้สติปัฏฐานหรือ สติสัมปชัญญะ หรือ ปฏิบัติธรรม เกิดขึ้นได้ เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 9 ส.ค. 2555

กรรมฐาน หมายถึง ที่ตั้งของสติ ที่เป็นเหตุให้กุศลทั้งหลายเจริญขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกุศลขั้นระลึกถึงพุทธคุณ หรือ ธรรมคุณ หรือ สังฆคุณ

ถ้าระลึกถึงแล้วกุศลเกิดก็เป็นกรรมฐาน ที่สำคัญแล้วแต่กรรมฐานไหนก็ได้ที่ระลึกถึงแล้วทำให้จิตสงบจากกิเลส ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kinder
วันที่ 10 ส.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ