กำลังของกุศล

 
พิมพิชญา
วันที่  4 ก.ย. 2555
หมายเลข  21675
อ่าน  1,337

ขอกราบเรียนถามดังนี้นะคะ

๑. การที่พูดคุยสนทนากับผู้ที่กระทำความดีทางกายวาจาใจแล้วผู้ฟังเริ่มน้อมประพฤติตาม จัดว่าเป็นกุศลที่เกิดจากการชักชวนหรือไม่คะ

๒. กำลังของกุศลจะลดทอนลงตามกำลังของอกุศลที่เกิดแทรกขั้นใช่หรือไม่คะ

๓. ครุกรรมฝ่ายกุศลนอกจากฌานแล้ว ในยุคนี้ซึ่งยากต่อการเจริญฌาน มนุษย์ยังจะมีโอกาสกระทำกุศลใดที่เป็นครุกรรมได้หรือไม่คะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 5 ก.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

๑. การที่พูดคุยสนทนากับผู้ที่กระทำความดีทางกายวาจาใจแล้วผู้ฟังเริ่มน้อมประพฤติตาม จัดว่าเป็นกุศลที่เกิดจากการชักชวนหรือไม่คะ

- ถูกต้องครับ การกล่าวธรรม กล่าวให้ผู้อื่นได้ฟัง และ บุคคลอื่นเกิดกุศลจิต เกิดความเข้าใจพระธรรม กุศลของบุคคลนั้นที่อาศัย การฟังพระธรรมจากผู้อื่น แต่ขณะจิตต่อไปของบุคคลนั้นก็แล้วแต่ว่าเกิดจากความไตร่ตรองธรรมของตนเอง ที่เป็นกุศลที่มีกำลัง ก็ไม่ได้อาศัยการชักชวนจากผู้อื่น เพราะฉะนั้น กุศลที่ใช้คำว่า ชักชวน ไม่ชักชวน ไม่ได้หมายถึง จะต้องมีคนมาชักชวน หรือ ไม่ชักชวน แต่เป็นการแสดงถึงกุศลที่มีกำลัง กับ ไม่มีกำลังเป็นสำคัญ ครับ

๒. กำลังของกุศลจะลดทอนลงตามกำลังของอกุศลที่เกิดแทรกขั้นใช่หรือไม่คะ

- ถูกต้อง ครับ

๓. ครุกรรมฝ่ายกุศลนอกจากฌานแล้ว ในยุคนี้ซึ่งยากต่อการเจริญฌาน มนุษย์ยังจะมีโอกาสกระทำกุศลใดที่เป็นครุกรรมได้หรือไม่คะ

- ครุกรรม หมายถึง กรรมหนัก ที่เป็นไปในฝ่ายกุศล คือ ฌาน และ ฝ่ายอกุศล คืออนันตริยกรรม ซึ่งครุกรรม จะหมายถึง ให้ผลทันทีในชาติหน้า นี่คือ ครุกรรม ซึ่งปัจจุบัน เป็นเรื่องยาก ในฝ่ายกุศลที่จะเจริญฌาน แต่ในความเห็นส่วนตัวแล้ว กุศลกรรมที่ประกอบด้วยปัญญา ที่เป็นไปเพื่อดับกิเลส คือ วิปัสสนา เป็นกุศลที่ประเสริฐกว่ากุศลขั้นฌาน เพราะ ฌาน เพียงให้เกิดในพรหมโลก แต่ไม่สามารถดับกิเลสได้ แต่ผู้ที่เจริญวิปัสสนา หรือ สติปัฏฐาน เป็นหนทางดับกิเลสได้ เป็นกุศลที่เป็นไปในการออกจากวัฏฏะ จึงเป็นกุศลที่ประเสริฐสูงกว่า ฌานครับ

แม้จะไม่จำเป็นที่จะต้องให้ผลในชาติหน้า แต่กุศลที่มีความเข้าใจพระธรรมในเรื่องสภาพธรรมที่เป็นสติปัฏฐาน สะสมต่อไปในชาติหน้า ทำให้เป็นที่มีความเห็นถูกในชาติต่อๆ ไป และดับกิเลสได้ในอนาคตครับ

เพราะฉะนั้น ชาตินี้พบพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง กุศลที่สำคัญ คือ หนทางการดับกิเลส ที่มีในสมัยพระศาสนายังอยู่เท่านั้น ส่วนฌานมีได้ แม้ช่วงที่ว่างศาสนา กุศลที่ควรเจริญ คือ ความเข้าใจพระธรรมในเรื่องสภาพธรรม โดยเฉพาะสติปัฏฐาน อันเป็นหนทางการดับกิเลส ซึ่งก็ค่อยๆ ฟังพระธรรมไป โดยเริ่มจากการเข้าใจว่าธรรมคือะไร นี่คือ กุศลที่ประเสริฐสูงสุดครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 6 ก.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

- คำพูดที่ควรพูด ต้องเป็นคำพูดจริง ที่ประกอบด้วยประโยชน์ ถูกกาละ และพูดด้วยเมตตาจิต ไม่ใช่คำพูดที่กระทบกระทั่งที่เกิดจากอกุศลจิต อันเป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่สบายใจ เพราะเราไม่ชอบคำพูดอย่างไร ก็ไม่ควรจะพูดคำอย่างนั้นกับผู้อื่น

เพราะฉะนั้นแล้ว การพูด ก็เป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตประำจำวัน การพูดชักชวนให้ผู้อื่นน้อมประพฤติในสิ่งที่ดีงาม ย่อมเป็นสิ่งที่สมควร เป็นความปรารถนาดีต่อผู้อื่น ส่วน คนที่ถูกชักชวน จะเป็นอย่างไร นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการสะสมมาของผู้นั้น หน้าที่ของเรา คือเป็นมิตร เป็นเพื่อนกับผู้นั้น

- ชีวิตประจำวัน ก็ไม่พ้นจากอกุศลจิต และ กุศลจิต แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นอกุศล กุศลจะเกิดก็น้อยมากแทรกสลับกับอกุศลซึ่งมีเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวัน

เพราะในขณะใดก็ตามที่จิตไม่ได้เป็นไปในการให้ทาน การรักษาศีล การฟังพระธรรมอบรมเจริญปัญญา เป็นต้นแล้ว ที่เหลือก็เป็นอกุศลทั้งหมด เพราะฉะนั้น ผู้ที่เห็นคุณค่าของกุศล ท่านก็จะไม่ละเลยโอกาสอันนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ โอกาสแห่งการฟังพระธรรม เพราะถ้ากุศลจิตไม่เกิด ก็ย่อมเป็นโอกาสที่อกุศลจิตจะเกิดขึ้น

- จะประมาทกำลังของกิเลสไม่ได้เลยทีเดียว เพราะถ้าสะสมมากขึ้นๆ ก็จะสามารถกระทำอกุศลกรรมที่หนักๆ ได้ และเป็นโทษแก่ตนเองโดยส่วนเดียว จึงมีหนทางเดียวเท่านั้น ที่จะค่อยๆ ขัดเกลาละคลายกิเลส คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เมื่อปัญญาเจริญขึ้น ก็จะมีเครื่องนำทางชีวิตที่่ดี ให้กระทำแต่สิ่งที่ดีงาม เว้นในสิ่งที่่ไม่ดีทั้งหลาย เพราะปัญญา จะไม่นำพาเราไปสู่ทางตกต่ำเลย มีแต่จะนำพาเราไปสู่ทางที่ดียิ่งขึ้น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 6 ก.ย. 2555

๑. การคบกับบัณฑิต บัณฑิตแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ พูดหรือชักชวนให้ทำแต่สิ่งที่ดีๆ สูงสุดทำให้บรรลุ มรรค ผล นิพพาน

๒. ขณะที่กุศลเกิด ขณะนั้นอกุศลเกิดไม่ได้ คนละขณะกัน แต่ถ้าขาดการฟังธรรม ก็เป็นโอกาสของอกุศลที่เกิดมากกว่า ค่ะ

๓. ครุกรรมฝ่ายกุศล ยุคนี้สมัยนี้เกิดได้ยาก แต่ฝ่ายอกุศลมีได้ง่าย เช่น ฆ่าบิดา มารดา เป็นต้น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เข้าใจ
วันที่ 7 ก.ย. 2555

กราบขอบพระคุณ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
peem
วันที่ 8 พ.ย. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ