กรรมที่กระทำในปัจจุบันและให้ผลในปัจจุบัน

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

โดยทั่วไปแล้ว กรรมที่เป็นทิฏฐธรรมเวนียกรรม คือ ให้ผลในชาติปัจจุบัน โดยมาก เป็นกรรมที่มีกำลังมาก ทั้งฝ่ายกุศล และ ฝ่ายอกุศล เช่น ฝ่ายอกุศลที่มีกำลัง เช่น พระโกกาลิกะ ด่าว่า พระสารีบุตร และ พระมหาโมคคัลลานะ ทำให้ กรรมไม่ดีให้ผลในชาติปัจจุบัน เกิดตุ่มเป็นแผล จนตาย ส่วน ฝ่ายกุศลที่ให้ผลในปัจจุบัน ด้วยเพราะกุศลนั้นมีกำลัง เช่น ภัตติกบุรุษ ทำบุญถวายทานกับพระปัจเจกพุทธเจ้า ทำให้ได้ผลบุญในชาติปัจจุบัน

สรุปได้ว่า การให้ผลในชาติปัจจุบัน เพราะ ความมีกำลังของกุศลและอกุศล อันเกิดจากปัจจัย คือ กำลังของจิตผู้นั้น หรือ สภาพจิตของผู้นั้น ถ้าเป็นฝ่ายอกุศล ก็คือ มีกำลังกิเลสมาก เช่น ด่าว่าอัครสาวก ฝ่ายกุศล คือ มีใจยินดีก่อนให้ ขณะให้ และ หลังให้เกิดโสมนัสประกอบด้วยปัญญา นี่ประการหนึ่ง ประการที่สอง ผู้รับ หรือ ผู้ที่ถูกทำกรรม คือ เป็นผู้ที่เป็นทักขิเณยยบุคคล เป็นผุ้มีคุณธรรมสูง เช่น ฝ่ายอกุศล ไปด่าว่าพระอัครสาวก ผู้มีคุณธรรมมาก และ ฝ่ายกุศล คือ ให้ทานกับ พระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้มีคุณธรรมมาก นี่คือประการที่สอง คือ ผู้ที่ถูกทำกรรม คือ เป็นผุ้มีคุณธรรมมาก

ด้วยเหตุตามที่กล่าวมา ทำให้โดยมากให้ผลในชาติปัจจุบัน ที่เป็นชวนจิตขณะที่ ๑ ให้ผลเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ครับ

อีกประการ กุศลที่มีกำลังให้ผลในปัจจุบัน ด้วยเพราะ กุศลนั้นเป็นกุศลระดับโลกุตตระ ที่มีกำลังมาก ให้ผลในชาติปัจจุบัน ที่เป็นขณะต่อไปทันที ที่เรียกว่า อกาลิโก คือ มรรคจิต ๔ เกิด ให้ผล เกิดต่อ ทันที ที่เป็นผลจิต ๔ ครับ

ก็ขึ้นอยู่กับ ประเภทของกุศล และ อกุศล รวมทั้ง สภาพจิต และ ผู้รับ ผู้ถูกกระทำ ซึ่งอาศัยเหตุปัจจัย มาประกอบกันในการให้ผลในชาติปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้งในเรื่องของกรรม ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เราไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่า กรรมใด จะให้ผลเมื่อใด

ประโยชน์ที่เกิดขึ้นเมื่อได้ฟังได้ศึกษาเรื่องของกรรม แล้ว คือ เข้าใจความเป็นจริงที่แตกต่างกันระหว่าง อกุศลกรรม กับ กุศลกรรม และไม่ควรกระทำอกุศลกรรม เพราะอกุศลกรรมให้ผลเป็นทุกข์โดยส่วนเดียว ไม่เคยนำคุณประโยชน์มาให้ใครเลยแม้แต่น้อย และ จะต้องเป็นผู้ไม่ประมาทในการเจริญกุศล อันเป็นการสะสมเหตุที่ดี ต่อไปด้วย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

ยกเว้นพระพุทธเจ้า ไม่มีใครสามารจะรู้ได้ว่า ขณะต่อไป กรรมอะไรจะให้ผล ทางไหน เวลาไหน

ขณะที่กุศลเกิดไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล ฯลฯ ขณะนั้นก็มีชวนจิตเกิด ๗ ขณะ

ดวงที่ ๑ ให้ผลในชาตินี้ ดวงที่ ๒-๖ ให้ผลนับชาติไม่ได้ และดวงที่ ๗ ให้ผลชาติหน้า

ทั้งหมดนี้ได้ศึกษาธรรมจากที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ เพื่อให้ไม่ประมาทกับการเจริญกุศล และ ละอกุศล ตามกำลังของปัญญาที่เข้าใจธรรม ค่ะ