เหตุผลในการเลือกให้ทาน
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด
วรรคนี้สอนว่า การเลือกของสำหรับทำบุญ ก็เป็นเหมือนการหว่านพืชที่ถูกเลือกแล้วอย่างประณีต เพื่อมอบให้แก่ผู้ที่มีธรรมอันดี ซึ่งหมายถึงบุคคลที่ไม่มีศีลวิบัติ และไม่ใช่บุคคลนอกรีตนอกรอย ๙๖ ประเภท นั้น เป็นการกระทำ (กรรม) ที่ดีงาม (เจริญ) ถูกต้องใช่ไหมคะ
ถ้าตีความได้ถูกต้องแล้ว หากได้เลือกของทำบุญไว้อย่างประณีตแล้ว แต่นำของทำบุญที่เลือกไว้อย่างประณีตแล้วนั้น ไปทำบุญกับผู้ที่มีศีลวิบัติ โดยรู้เท่าไม่ถึงกาล (หมายถึง ไม่ทราบมาก่อนเลยว่า ผู้ที่รับของทำบุญนั้นเป็นผู้มีศีลวิบัติ) นั่นหมายความว่า การทำบุญนั้นก็เป็นการกระทำที่ไม่ดีงาม หรือไม่เจริญ หรือ ให้ดูการให้ทานนั้นที่เจตนาของการให้ทานเป็นหลักว่าเป็นการกระทำที่ดี หรือไม่ดีคะ
ถ้าตีความได้ไม่ถูกต้องแล้ว ความหมายที่ถูกต้องคืออะไรคะ หรือไม่ควรที่จะให้ความสงสัยมาปิดกั้นไม่ให้เกิดปัญญาเหรอคะ และหากไม่คลายข้อสงสัยแล้วให้เข้าใจไปดังที่ตีความได้เองนั้น จะทำให้เกิดปัญญาที่ถูกต้องได้หรือไม่ อย่างไรคะ
พระธรรมในประไตรปิฎกนี่เข้าใจยาก และอ่านยากนะคะ นั่งอ่าน นั่งจ้องอยู่นาน ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเข้าใจได้อย่างถูกต้อง แต่ก็อยากลองศึกษาดูบ้าง แบบไม่รีบร้อนค่ะ
การที่เลือกให้สิ่งประณีต แต่ไม่รู้ว่าผู้รับไม่มีศีล แล้วให้ไปก็ไม่เป็นไร ทานนั้น ก็สำเร็จผลแล้ว เพียงแต่ว่า ไม่ได้เป็นทานของสัปปุรุษ
ขอบคุณสำหรับ ความกระจ่างแจ้งที่ให้มานี้นะคะ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ขอความกระจ่างอีกเล็กน้อยค่ะ ที่ว่า "ไม่ได้เป็นทานของสัปบุรุษ" โดยที่ สัปบุรุษ หรือ สัตบุรุษ แปลว่า คนดี คนสงบ คนที่พร้อมมูลด้วยธรรม นั้น หมายถึง ผู้ให้ หรือผู้รับคะ และการทำบุญในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการทำบุญแก่เพศบรรพชิตเพียงฝ่ายเดียว แต่หมายความรวมไปถึงบุคคลทั่วไปที่พร้อมมูลด้วยธรรมด้วย ใช่หรือเปล่าคะ
สัปบุรุษ มีทั้งตั้งแต่ระดับสูงสุด คือ พระอรหันต์ คือ ผู้ที่สงบจากกิเลสแล้ว และ แม้ผู้ที่เป็นผู้มีศีล มีคุณธรรม รองลงมา ก็จัดว่า เป็นสัปบุรุษได้ครับ เพียงแต่เป็นผู้อบรมปัญญาในศาสนานี้
ส่วนเป็นทานของสัปบุรุษ คือ หมายถึงผู้ให้ ครับ ที่เลือกให้ด้วยปัญญา
ส่วนผู้รับ ไม่ได้มุ่งหมายเฉพาะเพศบรรพชิตเท่านั้น เพราะ คุณธรรมไม่ได้จำกัดที่เพศใดเลย
ขอขอบคุณในการให้ความรู้ที่กระจ่างชัดด้านธรรมมะค่ะ ดีใจมากที่ได้ความรู้ทางธรรมจากผู้รู้ธรรมค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สรุปว่า
การให้ทานแก่ผู้ที่มีคุณธรรม หรือที่เรียกว่า สัปบุรุษ นั้น เป็นสิ่งที่ดี แต่จะให้ดียิ่งไปกว่านั้น ก็คือ การให้ทานที่ได้เลือกไว้แล้วด้วยปัญญา โดยที่ ทานที่ได้เลือกไว้แล้วด้วยปัญญานั้น หมายถึงการเลือก ๒ สิ่งต่อไปนี้คือ
๑) เลือกของที่จะนำไปทำบุญอย่างประณีต ว่าเป็นของที่ดี ที่เหมาะสมแล้วที่จะนำไปทำบุญให้ทาน และ
๒) เลือกผู้ที่จะรับของทำบุญนั้น ว่าเป็นผู้ที่มีคุณธรรม และมีศีลธรรมอันดี ไม่ว่าจะเป็นเพศบรรพชิต หรือบุคคลทั่วไปที่มีคุณธรรม ซึ่ง หากได้ให้ทานด้วยการเลือกไว้แล้วด้วยปัญญา เช่นนี้แล้ว ก็ถือได้ว่าเป็นการให้ทานของสัปบุรุษ อีกทั้ง การให้ทานที่บุคคลได้เลือกให้แล้วนี้ แม้แต่เทวดายังกล่าวสรรเสริญการให้ทานนี้ว่า เป็นการให้ทานที่น่ายกย่อง สรรเสริญ ยิ่งนัก
สรุปเพื่อทำความเข้าใจได้อย่างถูกต้องแล้วใช่หรือเปล่าคะ
ขออนุโมทนา