ไม่ใช่ศึกษาธรรมเพื่อให้เราเป็นคนดี
การศึกษาธรรมเพื่อให้เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรม มั่นคงในความเป็นอนัตตาของธรรม สภาพธรรมหนึ่งเกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย ไม่มีเราที่จะทำให้สภาพธรรมเกิดขึ้นได้เลย
มีคำถามว่า ทำไมศึกษาธรรมแล้วยังโกรธ ก็เพราะว่า ยังไม่เข้าใจธรรม
ขณะนี้อะไรเป็นธรรม ก็ยังไม่เข้าใจ ไม่มั่นคงในความเป็นธรรม เพราะขณะนี้ฟังธรรมยังน้อยมาก จึงต้องฟังต่อไปอีก จนกว่าจะรู้ว่า ขณะนี้เป็นธรรม
คนดี หรือ ธรรมดี ขณะนี้มีธรรม ดีแค่ไหน ศึกษาธรรมเพื่อเข้าใจธรรม เข้าใจธรรม ไม่ใช่เรา ความเข้าใจจริงๆ เป็นธรรม ความไม่เข้าใจมีจริง ก็เป็นธรรม แม้ความคิดที่จะให้เราเป็นคนดี คิดก็เป็นธรรม ทุกอย่างเป็นธรรมไม่เว้นเลย
ทำดี เข้าใจพระธรรม ถ้าไม่ใช่เราทำดี แล้วเป็นอะไรทำดี ก็ต้องเป็นสภาพธรรมที่ดีเกิดขึ้น มีปัจจัยเกิดขึ้นเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่ใคร ไม่ใช่ของใคร ศึกษาให้เข้าใจความจริง จริงๆ
ปัญญาต้องรู้อะไร คิดเอาเองไม่ได้ เพราะคิดเองก็พลาดจากความจริงที่กำลังมีอยู่ คิดเองก็ผิด
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ...
กราบขอบพระคุณ ความเป็นอนัตตาของธรรม
แย่ที่ธรรมของเก่าที่สะสมไว้แล้วนั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่ทราบเลยว่าขณะข้างหน้าไปเรื่อยๆ อะไรจะเกิดขึ้น ปัจจุบันขณะเป็นเครื่องชั่ง ชี้ วัด ว่าธรรมใดเกิดบ่อยๆ ก็จะมีวิริยะในการฟังธรรมและศึกษาพระธรรมไปเรื่อยๆ จนจะเป็นเหตุปัจจัยใหม่
ยังดีที่ยังมีศรัทธาในพระธรรมที่เป็นแรงน้อมจิตใจให้ได้พบกัลยาณมิตรหลายๆ ท่านที่มีเมตตาเกื้อกูลในการนำเสนอแบ่งปันธรรมอย่างมีกุศลวิริยะและไม่ตระหนี่ธรรม
กราบขอบพระคุณและกราบอนุโมทนาครับ
การศึกษาธรรมะเพียงเพื่อเป็นคนดีโดยไม่ศึกษาพิจารณาสภาพธรรมะที่มีอยู่จริงที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ไม่ใช่หนทางเพื่อความหมดจดจากกิเลสเป็นคนดีที่แท้จริงได้ ... (¯▽¯;)
วิสุทธิ ๗ ประการทำลายกิเลสอะไรได้บ้าง
...ขออนุโมทนาค่ะ