สดจากสนามบินวอร์ซอว์
ได้ขึ้นเครื่องไปวอร์ซอว์ตอนเย็น สับสนเรื่องเวลาหมดแล้ว เพราะยังไม่ได้ตั้งนาฬิกา ให้เป็นเวลาท้องถิ่น เครื่องบินที่ขึ้นเป็นเครื่องบินเล็ก แบบราคาประหยัด ได้เห็นเมือง เฮลซิงกิตอนพระอาทิตย์ใกล้จะตก ในสายตาของนก จึงเห็นว่า ที่เห็นว่ามีแต่ป่านั้น แท้ ที่จริง มีตึกรามบ้านช่องไปกระจุกรวมกันริมฝั่งทะเล เห็นเรือเดินทะเลแล่นอยู่หลายลำ เป็นภาพที่สวยงาม โดยเฉพาะตอนพระอาทิตย์ตกดิน แต่ก็ไม่ได้ถ่ายภาพไว้อีกตามเคย เพราะกว่าจะหยิบกล้องขึ้นมาได้ ภาพที่สวยงามนั้นก็ดับไปหมดแล้ว จึงได้แต่นิมิตของ ภาพนั้นที่ยังอยู่ในความทรงจำมาเล่าให้ฟังแทน
นั่งเครื่องไปอีก 1:30 ชั่วโมง จึงถึงสนามบินวอร์ซอว์ ซึ่งบรรยากาศตอนค่ำนั้นดูสงบ เงียบ ไม่พลุกพล่านเหมือนเมืองหลวงแห่งอื่นๆ ที่ผ่านมา ได้พบกับสหายธรรมชาวต่าง ประเทศ ที่มาจากที่ต่างๆ กัน มีคุณแอนน์ มาร์แชล จากแคนาดา คุณกาบี้ จากเยอรมัน คุณอัลเบิร์โต จากอิตาลี และคนสำคัญ คุณลูคัส ผู้จัด คนโปแลนด์ ซึ่งยังเป็นเด็กหนุ่ม รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาเหมือนศิลปิน แบบติสท์ๆ
เมื่อทักทายสวัสดีกันแล้ว ก็นั่งรถบัสขนาดใหญ่ ทัวร์รอบเมืองวอร์ซอว์ ตามคำร้องขอของพวกเรา สิ่งที่ปรากฏทางตายามค่ำคืนนั้น สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมสมัยเก่า ตบแต่งถนนด้วยสวนดอกไม้สีสดสวยงาม มีหอนาฬิกาที่สวยงามใหญ่โตมาก มีลานน้ำไฟประดับสวย มีรถราง แล่นทั่วเมืองที่ไม่ค่อยมีผู้คน เป็นภาพที่น่าติดข้องมากจนต้องร้องขอให้พามาใหม่ตอนกลางวันในวันกลับอีกครั้งหนึ่ง
ต้องนั่งรถเดินทางต่อ ไปเมืองโอลสตินอีก 3 ชั่วโมง เมื่อไม่มีสิ่งที่ปรากฏทางตา ที่สวยงามแล้ว ต่างคนก็หลับๆ ตื่นๆ จนถึงโรงแรมโอเมก้า เมืองโอลสติน ซึ่งจะเป็นบ้านไปอีก 7 วัน ดูเวลาเมืองไทย ตีสี่ นับเวลาตั้งแต่ตื่น จนถึงบัดนี้ ก็ 24 ชั่วโมงพอดี พอนับเวลาแล้วก็รู้สึกหมดแรง อยากจะนอนหลับทันที นึกถึงท่านอาจารย์ และท่านผู้ใหญ่อีก 2 ท่านที่อายุเกิน 85 จะเป็นอย่างไร แต่เมื่อเห็นแล้วก็หมดห่วง เพราะทุกท่านก็ยังแข็งแรงสดชื่นดี (ดีกว่าเราที่อายุ 60 กว่าเสียอีก) ต้องรีบอาบน้ำนอน จนลืมถ่ายภาพห้องนอนอีกตามเคย ราตรีสวัสดิ์ค่ะ