สดจากโรงแรมโอเมก้า 4 (13 ก.ย. 55)

 
kanchana.c
วันที่  13 ก.ย. 2555
หมายเลข  21725
อ่าน  1,249


ตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงฝนตกแต่เช้า มองไปข้างนอก ฟ้ามืดครึ้ม เต็มไปด้วยเมฆฝน หนาทึบ นึกถึงภาพท้องฟ้าสีฟ้าสวยใสในวันก่อนๆ ไม่ได้เลย วันนี้จะมีชาวโปลิชมาสนทนาธรรม ยังไม่ทราบจำนวน แต่พวกเราคนไทยเกือบ ทั้งหมด (ยกเว้นท่านอาจารย์ คุณแก้วตา ผู้ดูแลท่านอาจารย์ และคุณจักรกฤษณ์ผู้ มั่นคงในการสนทนาธรรม) ซื้อทัวร์ไปเที่ยวเมือง gdansk กแดงสค์ เมืองท่าสำคัญ และเป็นเมืองท่องเที่ยวสวยงามริมทะเล ที่อยู่ห่างออกไป 2 ชั่วโมง ค่าทัวร์คนละ 320 สล็อตตี้ (ประมาณ 3200 บาท รวมอาหารกลางวัน และอาหารเย็น) เพราะคิดว่า คง ไม่มีโอกาสมาโปแลนด์อีกครั้ง แต่คุณแอนน์ ชาวแคนาดา คิดว่าจะกลับมาอีกเพื่อ เที่ยวเมืองกแดงสค์โดยเฉพาะ เพราะโอกาสจะได้สนทนาธรรมกับท่านอาจารย์นั้น ไม่ใช่หาได้ง่ายๆ สำหรับเธอ เธอบอกว่า การสนทนาของท่านเปลี่ยนไป เพราะท่าน เตือนให้ทราบว่า ทุกอย่างเป็นธรรม และธรรมคือขณะนี้ที่กำลังปรากฏ แม้จะมีคำถาม หลากหลาย เรื่องปัจจัย เรื่องเจตสิกต่างๆ ที่ฝรั่งคล่องแคล่วภาษาบาลีมาก จนน่าแปลกใจ

ท่านอาจารย์ก็เตือนให้ระลึกถึง delirious thinking บ่นเพ้อชื่อและเรื่องธรรม โดยลืมไปว่า ธรรมคือขณะนี้ที่กำลังปรากฏ มีลักษณะปรากฏให้ระลึกรู้ แต่ยังไม่ระลึก เพราะยังไม่รู้จริงๆ ว่า แต่ละอย่างเป็นธรรมที่เกิดปรากฏเพราะเหตุปัจจัย เกิดแล้วก็ดับ ไปทันที ไม่กลับมาเกิดอีก ที่เรียกว่า สัจญาณ เมื่อยังไม่มีความมั่นคงในความเป็นธรรม ของทุกสิ่ง การระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่เรียกว่า สติปัฏฐาน หรือ กิจญาณ ก็เกิดไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงการประจักษ์แจ้ง ที่เป็นกตญาณ ท่านอาจารย์เคยพูดให้ฟังว่า เมื่อมีคนสนใจธรรม และไม่สามารถไปหาท่านที่ กรุงเทพได้ เมื่อยังสามารถมาเกื้อกูลได้ ก็ควรมา เพื่อแนะนำให้ศึกษาธรรมอย่างถูก ต้อง ไม่ใช่เป็นการบ่นเพ้อธรรม โดยไม่รู้เลยว่า ธรรมคืออะไร เมื่อเขาสามารถเข้าใจ ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ปัญญาก็จะเจริญต่อไปได้ กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ เพราะมากับท่านทราบดีว่า การเดินทางไกลนั้น เหน็ดเหนื่อยเพียงใด และท่านไม่ได้ไปดูไปชมสถานที่ต่างๆ อย่างเรา ที่เดินทางมา ด้วยโลภะ อยากจะเห็นสถานที่แปลกใหม่พร้อมกับได้ฟังธรรมด้วย แต่พอมีให้เลือก ก็เลือกไปเที่ยวก่อนทุกที


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 13 ก.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

" ... ท่านอาจารย์เคยพูดให้ฟังว่า เมื่อมีคนสนใจธรรมและไม่สามารถไปหาท่านที่ กรุงเทพได้ เมื่อยังสามารถมาเกื้อกูลได้ ก็ควรมา เพื่อแนะนำให้ศึกษาธรรมอย่่างถูก ต้อง ไม่ใช่เป็นการบ่นเพ้อธรรม โดยไม่รู้เลยว่า ธรรมคืออะไร เมื่อเขาสามารถเข้าใจ ตั้งแต่เร่ิมต้นแล้ว ปัญญาก็จะเจริญต่อไปได้ ... "

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณอาจารย์กาญจนา และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 13 ก.ย. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ_

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pat_jesty
วันที่ 13 ก.ย. 2555

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณกาญจนา และทุกท่าน ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
raynu.p
วันที่ 13 ก.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เมตตา
วันที่ 13 ก.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ไม่ว่าท่านอาจารย์จะไปสนทนาธรรมที่ไหนๆ ท่านก็จะแสดงให้เข้าใจถึงความจริง ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ประโยชน์ของการฟังพระธรรมก็เพื่อเข้าใจลักษณะที่มีจริงๆ เช่นกำลังเห็น เห็นมีจริงๆ สิ่งที่เพียงปรากฏทางตาก็มีจริง คิดก็มีจริง สิ่งที่มีจริงกำลัง ปรากฏเป็นสิ่งที่สามารถรู้ได้ ถ้าเพ้อชื่อและเรื่องธรรม ก็จะไม่มีทางที่สติปัฏฐานจะเกิด ระลึกถึงลักษณะของธรรมได้เลย เพราะชื่อ และเรื่องราวเป็นบัญญัติ ไม่มีสภาวะจริงๆ ท่านอาจารย์เคยกล่าวไว้ว่า ไม่ว่าจะศึกษาพระอภิธรรม พระสูตร หรือพระวินัย ก็ไม่ พ้นจากความจริงที่กำลังปรากฏขณะนี้ เพราะพระไตรปิฎกนั้นก็แสดงถึงเรื่องที่มีจริงที่ กำลังปรากฏซึ่งไม่พ้นจาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

กราบขอบพระคุณพี่แดง และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 13 ก.ย. 2555

พี่แดงกล่าวถึงการเดินทางของท่านอาจารย์ เพื่อไปเกื้อกูลแก่ผู้สนใจในพระธรรม ที่อยู่แดนไกล ทำให้ได้คิดถึงเรื่องราวในพระสูตรต่างๆ ที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จไปโปรดบุคคลต่างๆ มากมายในอดีต ให้รู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง ในความเมตตา ของท่านอาจารย์ ที่เดินตามรอยพระบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ให้ได้รู้สึกถึงความงดงามของกุศลจิต อันไม่มีประมาณ โดยเสมอกันแก่ทุกบุคคล ก่อนวันเดินทางของท่านอาจารย์หนึ่งวัน ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมรับประทานอาหารกับท่านอาจารย์ที่มูลนิธิฯ

มีผู้ปรารภถึงการเดินทาง ที่ต้องนั่งเครื่องบินไปนานนับสิบชั่วโมง กว่าจะถึงที่หมาย ซึ่งท่านอาจารย์ได้กล่าวอย่างน่าฟังว่า ก็เหมือนกับนั่งอยู่ที่มูลนิธิฯ ทั้งวัน ไม่ต่างกันเลย เป็นคำกล่าวสั้นๆ ที่มีความหมายลึกซึ้ง ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกปีติยิ่ง และ ให้ได้คิดว่า ที่กล่าวว่าต้องนั่งเครื่องบินไปไกล ถึงที่โน่น ที่นี่ ก็เป็นเพียงจิตที่คิด ถึงเรื่องราว ของสมมติบัญญัติ ซึ่งความจริงแล้ว ก็มีเพียง "เห็น" เท่านั้น ที่เกิดขึ้นและดับไป ไม่มีเรื่องราวใดๆ ทั้งสิ้น

การได้อยู่ใกล้ท่านอาจารย์ หรือ แม้เพียงได้ติดตามชมภาพ และ เรื่อง ดังที่พี่แดงได้มีกุศลจิต และ กุศลวิริยะ นำมาถ่ายทอดนี้ แม้เพียงเล็กน้อย ก็มีค่า และ เป็นประโยชน์ แก่บุคคลที่เห็นประโยชน์ในการศึกษาพระธรรมอย่างยิ่งครับ

กราบอนุโมทนาครับพี่แดงครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ประสาน
วันที่ 13 ก.ย. 2555

ผมคิดว่าท่านอาจารย์ ท่านไม่ลืมว่าทุกสิ่งเป็นธัมมะ ท่านจึงไม่ไปดูชมสถานที่ต่างๆ ท่านมีความมั่นคง บริสุทธิ์ บริบูรณ์ ในธัมมะจริงๆ ขอกราบบูชาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง (สำหรับผมลืมอยู่เรื่อยเลยครับ)

ขอบคุณ และ ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wittawat
วันที่ 14 ก.ย. 2555

ขออนุโมทนา ป้าแดงครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wirat.k
วันที่ 14 ก.ย. 2555

ขออนุโมทนา และขอขอบพระคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
daris
วันที่ 14 ก.ย. 2555

กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
นายเรืองศิลป์
วันที่ 14 ก.ย. 2555

แต่ละสิ่งแต่ละอย่าง เป็นธรรมะจริงๆ เป็นหนึ่ง ไม่ซ้ำกันเลย

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
pannipa.v
วันที่ 15 ก.ย. 2555

กราบท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่งขออนุโมทนากุศลวิริยะของ พี่แดง กาญจนา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
napachant
วันที่ 18 ก.ย. 2555

ซาบซึ้งใจจริงๆ ค่ะ...

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ ท่ีเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
Boonyavee
วันที่ 20 ก.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ