การอุทิศส่วนกุศลให้ญาติ

 
samroang69
วันที่  1 ต.ค. 2555
หมายเลข  21819
อ่าน  1,541

การอุทิศส่วนกุศลให้ญาตินั้น มีความปรารถนาที่อยากจะให้บุญที่ตนทำนั้นได้กับญาติที่ได้ล่วงลับไปแล้วนั้นเป็นโลภะหรือไม่ครับ แล้วถ้าเป็นโลภะก็ต้องเป็นอกุศลใช่หรือไม่ ครับ ถ้าเป็นอกุศลก็ไม่เป็นบุญ อย่างนี้จะมีการอุทิศส่วนบุญได้อย่างไรบ้างครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 1 ต.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การพิจารณาสภาพธรรมต้องพิจารณาทีละขณะจิต ครับ ซึ่ง พิจารณาว่า ขณะใดเป็นโลภะ ขณะใดเป็นกุศล เพราะฉะนั้น โลภะเกิดขึ้นเป็นปกติธรรมดาในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่าง เช่น การทำบุญให้ทาน กับพระภิกษุ ก่อนให้ ก็อาจเกิดจิตสลับระหว่างกุศล อกุศล มีการหวังได้บุญก็เป็นโลภะ แต่ก็มีจิตคิดจะให้เพื่อประโยชน์กับพระภิกษุ ก็เป็นกุศล แต่ขณะที่ให้ ถวายแด่พระภิกษุ ก็เป็นกุศลในขณะนั้นที่เป็นกุศลสำเร็จด้วยการให้ทาน

โดยนัยเดียวกัน การอุทิศส่วนกุศล ก่อนอุทิศก็มีทั้งกุศล อกุศลเกิดสลับกันไป มีเจตนาหวังดีเพื่อให้ประโยชน์กับญาติด้วยการตั้งใจที่อุทิศส่วนกุศลให้ แต่ ก็เกิดจิตอกุศลสลับได้ คือ อยากให้ญาติได้รับผลบุญ อันเป็นโลภะที่เกิดขึ้น แต่ ขณะที่อุทิศ ส่วนกุศล ก็น้อมนึกถึงบุญที่ได้เคยทำแล้วอุทิศให้ญาติ ขณะนั้นก็เป็นกุศลจิตที่อุทิศให้ ก็สำเร็จแล้วในบุญ คือ การอุทิศส่วนกุศล ครับ

เพราะฉะนั้นเป็นธรรมดาที่เกิดอกุศลจิตก่อนทำกุศล แต่ขณะที่ทำกุศล ก็เกิดกุศลจิตได้ แม้แต่การอุทิศส่วนกุศล ก็น้อมนึกถึงบุญที่ได้ทำแล้วอุทิศ บุญก็สำเร็จในขณะนั้น ส่วนอกุศลที่หวังอยากให้ญาติได้ผลบุญ ก็คนละส่วนกัน ครับ คนละขณะจิต และ ญาติ คือ เปรตก็อนุโมทนาในส่วนกุศล ที่เราอุทิศให้ ไม่ได้อนุโมทนาอกุศลจิตของเราที่เกิดขึ้น ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 2 ต.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพครับ

จิตเกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครที่จะหยุดยั้งการเกิดขึ้นเป็นไปของจิตได้เลย เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย

ตราบใดที่ยังไม่ได้ดับโลภะ ความติดข้องต้องการ ก็ยังมีเหตุปัจจัยให้โลภะเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ในขณะที่โลภะเกิดขึ้นเป็นอกุศล จะไม่เกิดร่วมกับกุศลจิตเลย แต่ขณะใดที่จิตเป็นกุศล ขณะนั้นโลภะเกิดไม่ได้ ยกตัวอย่างขณะที่มีความปรารถนาดีที่จะอุทิศกุศลแด่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ถ้ากุศลจิตไม่เกิดแล้ว ย่อมอุทิศไม่ได้ เพราะขณะที่มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น เพื่อผู้อื่นจะได้อนุโมทนาในกุศลจิตที่ตนเองได้กระทำ เป็นสภาพจิตที่ดีงาม ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ใช่อกุศล แต่หลังจากนั้น กุศลจิต เกิดต่อ หรือ อกุศลจิตเกิดต่อ ก็ได้ เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยจริงๆ

เพราะฉะนั้นแล้ว การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ย่อมเป็นไปเพื่อความเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงตามความเป็นจริง ว่า กุศลเป็นกุศล อกุศลเป็นอกุศล ไม่ใช่เรา ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 3 ต.ค. 2555

กุศลและอกุศลเกิดสลับกันอย่างเร็ว ขณะที่อุทิศเป็นกุศลจิตต่างกับขณะที่เป็นอกุศลเพราะหวังผล ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
jaturong
วันที่ 4 ต.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
kinder
วันที่ 4 ต.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ต.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ