ดีท๊อกซ์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ภิกษุท้องผูก ทำการสวนทวาร ไม่ผิดพระวินัย หากแต่ว่า ถ้าใช้มีด ศาสตรา ผ่าตัดที่ทวารหนัก ผิดพระวินัยต้องอาบัติ ครับ แต่ทางที่ดี ก็ควรจะฉันยาถ่าย จะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดครับ แม้แต่พระพุทธเจ้า ก็สูดดอกอุบลที่หมอชีวก จัดทำให้ ทำให้ถ่าย ๓๐ ครั้ง เพื่อประโยชน์ในการรักษาสุขภาพ เพราะ ร่างกายพระพุทธองค์หมักหมมในสิ่งปฏิกูล และแม้พระภิกษุรูปอื่นๆ ก็ฉันยาถ่าย อันเป็นการรักษาโรค ดูแลร่างกายเพื่อประพฤติธรรม ครับ
ดังนั้น ก็ควรฉันยาถ่ายสำหรับในพระธรรมวินัย มี สมอ มะขามป้อม เป็นต้น ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ควร และ เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ครับ
ขออนุโมทนาอาจารย์ประเชิญ ที่อธิบายให้เข้าใจ ในประเด็นนี้
ขออนุโมทนาผู้ร่วมสนทาและทุกท่าน ครับ
การ detox ไม่ใช่การรักษาท้องผูกครับ
ท้องผูกต้องหาสาเหตุ ท้องผูกบางอย่างเกิดจากผลข้างเคียงของยาบางอย่างหรืออาจเกิดจากการฉันน้ำน้อยเกินไป การขับถ่ายไม่เป็นเวลา การฉันอาหารกากใยน้อยเกินไป (ภิกษุบางรูปไม่มีฟันทำให้กินผักไม่ค่อยได้) ก็ควรเปลี่ยนมากินเม็ดแมงลักจะช่วยได้ หรือโรคบางอย่างก็ทำให้ท้องผูกได้ เช่นโรคเบาหวานที่เป็นมากๆ หรือถ้าไม่หายเลย บางทีต้องไปตรวจว่ามีเรื่องของเนื้องอกในลำไส้หรือไม่ เผื่อจะเป็นประโยชน์ครับ
__/][__
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ชีวิตของพระภิกษุ ก็จะต้องมีความประพฤติเป็นไปคล้อยตามพระธรรมวินัยอย่างแท้จริง ซึ่งจะต้องอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจอย่างถ่องแท้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ พระวินัยบัญญัติแต่ละสิกขาบท ถ้าหากว่าไม่ได้ศึกษาให้เข้าใจแล้ว โอกาสที่จะล่วงละเมิดก็ย่อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพราะสิกขาบทมีมากมายเหลือเกิน ถ้าประพฤติล่วงละเมิดแล้ว แม้จะเป็นอาบัติเพียงเล็กน้อย ก็มีโทษสำหรับผู้ล่วงละเมิด ถ้าหากว่าต้องเข้าแล้วไม่แก้ไขให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ก็เป็นเครื่องกั้น ในการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม เป็นเครื่องกั้นการไปสู่สุคติภูมิด้วย
ดังนั้น ความเข้าใจพระธรรมที่เกิดจากการฟัง การศึกษาให้เข้าใจนี้เอง จะเป็นเครื่องนำทาง ทำให้น้อมประพฤติเฉพาะในสิ่งที่ถูกต้อง และ ทำให้งดเว้นในสิ่งที่ผิด ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
