เทพบุตรมีบริวารเป็นนางฟ้า 500 นางหรือมากกว่าเขาทำบุญเช่นใด

 
nasza
วันที่  8 ต.ค. 2555
หมายเลข  21858
อ่าน  11,572

คนที่เป็นเทพบุตรมีบริวาณเป็นนางฟ้า ๕๐๐ นางหรือมากกว่าเขาทำบุญเช่นใด

อนุโมทนาทุกท่านด้วยนะครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 8 ต.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำหรับผู้ที่เกิดเป็นเทพบุตร มี บริวาร ๕๐๐ นาง หรือมากกว่า ด้วยผลของบุญที่มีความประณีต ซึ่ง ก็เป็นผลของบุญประการต่างๆ ทั้งกุศลที่เป็นทาน ศีล การช่วยเหลือ การอนุโมทนาบุญ รวมความว่า ในบุญกุศลที่เป็น บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ ก็สามารถทำให้เกิดเป็นเทพบุตร มีฤทธิ์มีอานุภาพมากได้ ครับ

แต่ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเกิดเป็นเทวดา เป็นพรหมที่มีความสุข มีอายุยืนนานเท่าไหร่ก็ตาม ก็ไม่เที่ยงเลย และไม่พ้นไปจากทุกข์ ยังจะต้องเวียนว่ายตายเกิด และกลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้อีก คือ วนเวียนไปในสุคติภูมิ ทุคติภูมิ มีนรก เป็นต้นได้ เป็นธรรมดา แม้เกิดเป็นเทวดาอยู่ เมื่ออกุศลกรรมให้ผล ก็ทำจุติ ตายจากความเป็นเทวดามาเกิดในนรกทันที ครับ นี่คือ ความเป็นไปของสังสารวัฏฏ์ที่น่ากลัว สมดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ครับว่า

ภพแม้เพียงเล็กน้อย เพียงชั่วขณะจิต เราก็กล่าวว่าเป็นทุกข์

ชีวิตที่ประเสริฐ เมื่อได้เกิดมาในสุคติภูมิ มี เทวดาและมนุษย์ เป็นต้น คือ ชีวิตที่ได้มีโอกาสฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมปัญญา เพราะ การอบรมปัญญาย่อมจะทำให้ดับกิเลส อันเป็นเหตุให้เวียนว่ายตายเกิด นับไม่ถ้วน

เพราะฉะนั้น ขณะนี้กำลังเป็นมนุษย์ หรือ แม้ภพหน้าเป็นเทวดา ก็ควรใช้เวลาที่เหลือน้อย ในขณะที่ประเสริฐที่เกิดในภพที่ดี ด้วยการเจริญกุศลทุกๆ ประการ กรรมดีย่อมให้ผลดี โดยที่ไม่ต้องหวัง และ ย่อมจะนำไปสู่การดับกิเลสได้ในที่สุด พ้นจากทุกข์ทั้งปวง ครับ

เรื่อง เทพธิดาเดือดร้อนที่ไม่ได้ฟังธรรม ศึกษาพระธรรม

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 338

พระมหาโมคคัลลานะเข้าไปพบนาง ได้ถามด้วยคาถาเหล่านี้ว่า

ดูก่อนเทพธิดาผู้งาม มีรัศมีงามผุดผ่องยิ่งนัก นุ่งผ้าสีแดงงาม มีฤทธิ์มาก มีร่างกายงามลูบไล้ด้วยจุณจันทน์ ท่านเป็นใครมาไหว้อาตมาอยู่

อนึ่ง ท่านนั่งบนบัลลังก์ใด ย่อมไพโรจน์ ดังท้าวสักกเทวราชในนันทนวโนทยาน บัลลังก์ของท่านนั้นมีค่ามาก งามวิจิตรด้วยรัตนะต่างๆ ดูก่อนเทพธิดาผู้เจริญ เมื่อชาติก่อน ท่านได้สร้างสมสุจริตอะไร ได้เสวยวิบากแห่งกรรมอะไรในเทวโลก อาตมาถามแล้ว ขอท่านโปรดบอก นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร.

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ดิฉันได้ถวายพวงมาลัยและ น้ำอ้อยแด่พระคุณเจ้าผู้เที่ยวบิณฑบาตอยู่ ดิฉันจึงได้เสวยผลแห่งกรรมนั้นในเทวโลก ข้าแต่ท่านผู้เจริญ แต่ดิฉัน ยังมีความเดือดร้อน ผิดพลาด เป็นทุกข์ เพราะดิฉันไม่ได้ฟังธรรม อันพระพุทธเจ้าผู้เป็นธรรมราชาทรงแสดงดีแล้ว

ข้าแต่ท่านผู้เจริญเพราะเหตุนั้น ดีฉันจึงมากราบเรียนพระคุณเจ้า ซึ่งเป็นผู้ควรอนุเคราะห์ดีฉัน โปรดชักชวนผู้ที่ควรอนุเคราะห์นั้นด้วยธรรม ที่พระพุทธเจ้าผู้เป็นพระธรรมราชาทรงแสดงดีแล้ว ทวยเทพที่มีศรัทธา ความเชื่อในพระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ และพระสังฆรัตนะ ก็รุ่งโรจน์ล้ำดิฉัน โดยอายุ ยศ สิริ ทวยเทพอื่นๆ ก็ยิ่งยวดกว่า โดยอำนาจ และวรรณะมีฤทธิ์มากกว่าดิฉัน.

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 8 ต.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้่มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การเกิดในภพภูมิต่างๆ เป็นผลของกรรม ผลของกรรมดีก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิ เกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นเทวดา แต่ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม ก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ เป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น

ทุกคนที่ยังเป็นผู้มีกิเลส กำลังเดินทางอยู่ในสังสารวัฏฏ์ จากชาตินี้ไปสู่ชาติหน้า จากชาติหน้าก็ไปสู่ชาติต่อๆ ไปอีก ซึ่งเป็นอย่างนี้มานานแล้ว เนื่องจากว่าเกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน แล้วเมื่อใดจักเป็นผู้สิ้นสุดของการเดินทางในสังสารวัฏฏ์? และจะไม่ถึงที่สุดของการเดินทางในสังสารวัฏฏ์ได้ ถ้าไม่ได้อบรมเจริญปัญญารู้ลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริง ขัดเกลากิเลสจนกว่ากิเลสทั้งปวงจะหมดสิ้นถึงความเป็นพระอรหันต์ พระอรหันต์เท่านั้นที่ไม่ต้องเดินทางในสังสารวัฏฏ์อีกต่อไป

ขณะนี้แต่ละคนได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ควรอย่างยิ่งที่จะได้พิจารณาว่า เมื่อเกิดมาแล้ว ในที่สุดก็จะต้องตายอย่างแน่นอนแต่จะตายไปพร้อมกับความไม่รู้ หรือ จะตายไปพร้อมกับได้สะสมความรู้ความเข้าใจพระธรรมเพิ่มขึ้น?

ถ้าไม่ได้สะสมปัญญา ไม่ได้เข้าใจพระธรรมเลย ก็น่าเสียดายมากที่จะต้องตายไปพร้อมกับความไม่รู้ และจะเป็นผู้ไม่รู้อีกต่อไป เต็มไปด้วยกิเลสมากมาย ยากที่จะพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่ได้สะสมศรัทธาที่จะฟังพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย บุคคลประเภทนี้เป็นผู้ดำรงชีวิตอย่างมีค่า ไม่เป็นเหตุให้เกิดความเสียดายหรือเสียใจในภายหลัง เพราะยังมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดสำหรับชีวิต

แม้ปัญญาจะยังไม่มาก แต่ถ้าไม่ขาดการฟัง ไม่ขาดการศึกษา ไม่ขาดการพิจารณาไตร่ตรอง ปัญญาก็จะค่อยๆ เจริญเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจะเป็นเครื่องทำลายความมืดคือ อวิชชา (ความไม่รู้) ได้ในที่สุด

เพราะจุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรม คือ เพื่อเข้าใจธรรมตามความเป็นจริง เพื่อละคลายความไม่รู้ จนกว่าความไม่รู้ จะไม่เกิดขึ้นอีก ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 8 ต.ค. 2555

การได้เกิดเป็นเทพบุตร ด้วยผลของทาน ศีล ภาวนา เช่น ภิกษุรูปหนึ่งประพฤติธรรม สิ้นชีวิต ยังไม่ได้บรรลุ เกิดเป็นเทพบุตร แวดล้อมด้วยนางอัปสร แต่เทพบุตรไม่ยินดีที่เกิดเป็นเทวดา ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ได้ฟังธรรมก็ได้บรรลุ การเกิดในสวรรค์ก็ไม่เที่ยง ยังเวียนว่ายตายเกิด ก็ยังเป็นทุกข์ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
jaturong
วันที่ 9 ต.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wanipa
วันที่ 9 ต.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nasza
วันที่ 9 ต.ค. 2555

จริงหรือว่าพร้อมด้วยคุณธรรมหิริโอตัปปะ จะได้ขึ้นชื่อว่ามีบริวารเยอะ

อย่างพระโพธิสัตว์ท่านสะสมบารมีมากจึงมีบริวารมากกว่าแสนๆ ล้านๆ องค์

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
paderm
วันที่ 9 ต.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 6 ครับ

ในพระสูตรแสดงไว้ครับว่า พระโพธิสัตว์มีบริวารมาก เพราะด้วยผลของบุญ คือ การให้ความสุขกับมหาชนและปกป้องรักษาผู้อื่นและให้ทานตามสมควร จึงเป็นผู้มีบริวารมาก ครับ

อีกนัยหนึ่ง ในอรรถกถาคาถาธรรมบท แสดงไว้ครับว่า ผู้ที่ชักชวนผู้อื่นทำบุญ ย่อมได้บริวารมาก แต่ไม่ได้แสดงโดยนัย หิริ โอตัปปะจะทำให้มีบริวารมาก ครับ

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 7

[ ๑๓๔ ]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในกาลก่อน ในภพก่อน ในกำเนิดก่อน ได้นำความสุขมาให้แก่ชนเป็นอันมาก บรรเทาความหวาดกลัวและความสะดุ้ง จัดการรักษาป้องกันคุ้มครองอย่างเป็นธรรม ได้ให้ทานพร้อมด้วยวัตถุอันเป็นบริวาร. ตถาคตนั้นเบื้องหน้าแต่ตายเพราะ. กายแตก ย่อมเข้าถึงโลกสวรรค์ เพราะธรรมนั้นอันตนทำ สั่งสม พอกพูนไพบูลย์ไว้แล้ว. ตถาคตได้ครอบงำเทวดาทั้งหลายอื่นในเทวโลกโดยฐานะ ๑๐ คือ อายุทิพย์ ฯลฯ ครั้นจุติจากโลกสวรรค์นั้นแล้ว มาถึงความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้มหาปุริสลักษณะนี้ คือ ใต้ฝ่าเท้าทั้งสองมีจักรเกิด มีซี่กำพันหนึ่ง มีกง มีดุมบริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง มีระหว่างอันกุศลกรรมแบ่งเป็นอันดี.

พระมหาบุรุษถึงพร้อมด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือน จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ฯลฯ เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาจะได้ผลข้อนี้ คือ มีบริวารมาก คือมีบริวารเป็นพราหมณ์ เป็นคฤหบดี เป็นชาวนิคม เป็นชาวชนบท เป็นโหราจารย์ เป็นมหาอำมาตย์ เป็นกองทหาร เป็นนายประตู เป็นอำมาตย์ เป็นบริษัท เป็นเจ้า เป็นเศรษฐี เป็นกุมาร. ถ้าพระมหาบุรุษนั้นออกทรงผนวช จะเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้ผลคือ มีบริวารมาก มีบริวารเป็นภิกษุ เป็นภิกษุณี เป็นอุบาสก เป็นอุบาสิกา เป็นเทวดา เป็นมนุษย์ เป็นอสูร เป็นนาค เป็นคนธรรพ์.

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
sutha
วันที่ 13 ก.พ. 2556

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
lovedhamma
วันที่ 27 ก.ย. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ