ขอบพระคุณที่ให้การอนุเคราะห์ข้าพเจ้า
ขอขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่ให้การอนุเคราะห์ข้าพเจ้าเป็นอย่างดี ข้าพเจ้าซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตร ๔ จำพวกเหล่านี้ คือ
มิตรมีอุปการะ ๑
มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ ๑
มิตรแนะประโยชน์ ๑
มิตรมีความรักใคร่ ๑
ท่านพึงทราบว่าเป็นมิตรมีใจดี (เป็นมิตรแท้) .
กถาว่าด้วยมิตรแท้
[๑๙๓] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรมีอุปการะ
ท่านพึงทราบว่าเป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔ คือ
รักษาเพื่อนผู้ประมาทแล้ว ๑
รักษาทรัพย์สมบัติของเพื่อนผู้ประมาทแล้ว ๑
เมื่อมีภัยเป็นที่พึ่งพำนักได้ ๑
เมื่อกิจที่จำต้องทำเกิดขึ้น เพิ่มทรัพย์ให้สองเท่า ๑.
ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรมีอุปการะท่านพึงทราบว่าเป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔ เหล่านี้แล.
[๑๙๔] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์
ท่านพึงทราบว่าเป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔
คือ บอกความลับแก่เพื่อน ๑
ปิดความลับของเพื่อน ๑ ไม่ละทิ้งในเหตุอันตราย ๑
แม้ชีวิตก็อาจสละเพื่อประโยชน์แก่เพื่อนได้ ๑.
ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์
ท่านพึงทราบว่าเป็นมิตรแท้โดยสถาน . เหล่านี้แล
[๑๙๕] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรแนะประโยชน์
ท่านพึงทราบว่าเป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔
คือ ห้ามจากความชั่ว ๑
ให้ตั้งอยู่ในความดี ๑
ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง ๑
บอกทางสวรรค์ให้ ๑.
ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรแนะประโยชน์
ท่านพึงทราบว่า เป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔ เหล่านี้แล.
[๑๙๖] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรมีความรักใคร่
พึงทราบว่าเป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔ คือ
ไม่ยินดีด้วยความเสื่อมของเพื่อน ๑
ยินดีด้วยความเจริญของเพื่อน ๑
ห้ามคนที่กล่าวโทษเพื่อน ๑
สรรเสริญคนที่ สรรเสริญเพื่อน ๑.
ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรมีความรักใคร่
ท่านพึงทราบว่าเป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔ เหล่านี้แล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตแล้ว
จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
[๑๙๗] บัณฑิตรู้แจ้งมิตร ๔ จำพวกเหล่านี้ คือ
มิตรมีอุปการะ ๑
มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ ๑
มิตรแนะประโยชน์ ๑
มิตรมีความรักใคร่ ๑
ว่าเป็นมิตรแท้ฉะนี้แล้ว พึงเข้าไป คบหาโดยเคารพ
เหมือนมารดากับบุตรฉะนั้น.
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
ขออนุโมทนา