สวัสดีฮานอย 3 สนทนาธรรมที่โรงแรมดรากอน

 
kanchana.c
วันที่  7 พ.ย. 2555
หมายเลข  22017
อ่าน  1,695

สนทนาธรรมที่โรงแรมดรากอน

6 พ.ย. 55

สนทนาธรรมเช้าวันนี้ มีคนใหม่ๆ หลายคน ที่ได้ข่าวจากเพื่อน บางคนเคยเดินทางไป นั่งทำสมาธิถึงพม่า จะเห็นได้ว่า ยังมีผู้ศรัทธาที่จะฟังความจริง อยู่ในที่ต่างๆ ทั่วโลก และ เมื่อเหตุปัจจัยเหมาะสม เมล็ดพันธ์ุของศรัทธาที่สะสมมา ก็เจริญงอกงามเป็นพืช ที่ออกดอกออกผลต่อไป ขอให้สะสมกุศลไว้ก็แล้วกัน วันหนึ่ง กุศลนั้นก็ให้ผล ทำให้ ได้เห็นทางถูก แม้จะอยู่ห่างไกลกัน แต่ก็มีโอกาสมาพบกัน มาสนทนาสอบถามกันอยู่ดี

บรรยากาศการสนทนาธรรมที่เคร่งเครียด

... การเจริญความเข้าใจไม่ใช่ด้วยการนั่ง

... พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้ สิ่งที่ปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง และ ทรงสอนเรื่อง นี้ถึง 45 ปี

... หลายคนคิดว่า ทำไมทรงสอนเรื่องเห็น ซึ่งธรรมดามาก แต่รู้เห็นหรือเปล่า แข็ง ก็ เหมือนกัน รู้แข็ง กับ สิ่งที่กระทบสัมผัสหรือยัง

... ขณะนี้ไม่รู้อะไรเลย

... ก่อนฟังธรรม เราพูดถึงสิ่งที่ไม่รู้จัก เช่น ชีวิต ชีวิตคืออะไร ใครรู้

... ชีวิตคือขณะนี้ ไม่ได้ห่างไกลจากขณะนี้เลย ถ้าไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ลิ้มรส ไม่รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ไม่คิดนึก ก็ไม่มีชีวิต

... อะไรเกิด ... เมื่อโกรธเกิด เพื่ออะไร เพื่อรู้แล้วละ

... บังคับได้หรือ ไม่มีใครบังคับได้ เพราะไม่มีตัวตน

... คิดเพียงคิด ไม่มีคน เห็นเพียงเห็น ไม่มีใคร ...

ที่ศูนย์อาหาร sen

ทานอาหารกลางวันที่สวนอาหาร Sen เป็นอาหารบุฟเฟต์นานาชาติถึง 60 ชนิด มี กรุ๊ปทัวร์มาลงมากมาย ราคาหัวละ 300 บาท มีอาหารให้เลือกมากมาย ที่คิดว่าไม่ค่อย สนใจเรื่องการกินมากนักนั้น ไม่ใช่เลย เพราะตั้งใจจะชิมให้มากที่สุด หลงเพลินไปกับ สิ่งที่ปรากฏทางตา แล้วก็จินตนาการถึงรสที่จะปรากฏทางลิ้น เลือกตักอาหาร ที่เคย รู้รสมาก่อนบ้าง ไม่เคยบ้าง เต็มจาน โชคดีที่จานนั้นมีขนาดเล็ก จึงตักได้ไม่กี่อย่าง เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะที่อยู่ไกลมาก นั่งชิมแล้ว พอใจกับรสที่ปรากฏบ้าง ไม่พอใจบ้าง แล้วก็กลับไปเลือกอาหารมาใหม่ ทำอย่างนี้หลายครั้ง จนท้องไม่สามารถบรรจุอาหาร ได้มากกว่านี้แล้ว จึงจบการรับประทานอาหารนานาขาติในเวียดนาม รสต่างๆ ที่ปรากฏ ทางลิ้นก็หมดไปนานแล้ว แต่ก็ยังคิดนึกถึงเรื่องราวของสิ่งต่างๆ ได้ เพราะความติดข้อง เพราะยังมีตัวตน ทำให้ไม่สักว่า เพียงเห็น หรือเพียงลิ้มรส ที่เกิดขึ้นและดับไปเท่านั้น ลืมไปว่า ทุกอย่างเป็นธรรมที่เป็นอนัตตา เข้าใจแล้วว่า สัจญาณ ที่รู้จริงๆ ว่า ทุกอย่างเป็นธรรม ก็ไม่ใช่จะเกิดได้ง่ายๆ ต้องมี สัญญา และความเข้าใจที่มั่นคงจริงๆ เหมือนกับเด็กหัดอ่านหนังสือ เมื่อยังจำ ก.ไก่ ข.ไข่ ไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าจะอ่านหนังสือออก เมื่อยังอ่านไม่ออก แล้วจะรู้เรื่องใน หนังสือได้อย่างไร ไม่ต้องหวังเรื่องนำความรู้ในหนังสือไปใช้ประโยชน์เลย

ตอนบ่ายไกด์พาไปเที่ยวสะพานแดงที่เป็นศาลเจ้ากวนอู แต่ไม่ได้ไป เพราะไป 2-3 วัน ก็รู้ว่า ที่ฮานอยนั้น ไม่มีอิฏฐารมณ์มากนัก จะซื้อของ ของที่กรุงเทพก็มีให้ซื้อ มากมาย จะเที่ยวชมสถานที่สวยงาม ที่เคยเห็นมาแล้ว ก็สวยกว่า และท่านอาจารย์ก็ บอกว่า เห็นแล้วก็ลืมไม่มีสาระอะไร คราวนี้จึงไม่ยากที่จะตัดใจไม่ไปเที่ยว อยู่โรงแรม เจริญกุศลอย่างอื่นดีกว่า แต่ก็แน่ใจว่า ถ้าอารมณ์นั้น น่ายินดี น่าใคร่ น่าพอใจ คง พ่ายแพ้แก่โลภะตั้งแต่แรก ไม่ต้องพูดถึง เรื่องจะไปฟังธรรมที่ศาลาสุธัมมาหรอก ถ้า ไปอยู่ที่นั่นแล้วฟังได้ แม้อยู่เมืองมนุษย์ก็ต้องเลือกฟังธรรมอย่างเต็มใจ ไม่ต้องใช้คำ ว่า ตัดใจหรอก สนทนาธรรมภาคบ่ายตอน 5 โมงเย็น มีคนใหม่มาเพิ่มอีกหลายคน คุณทำ (ไม่ใช่ แทม) เก่งจริงๆ มีเครือข่ายมากมาย ข้อธรรมที่พอจำได้บ้าง (เพราะพิมพ์ไปด้วย ฟัง ไปด้วย) คือ

... ที่คิดว่าเป็นเรานั้น คืออะไร

... ไม่มีคน ไม่มีสัตว์ บุคคล มีแต่สภาพธรรมที่แตกต่างกัน

... ฟังได้แค่นี้ค่ะ เพราะระหว่างนั้น มัวแต่พิมพ์ เพื่อให้จบเป็นวันๆ ไป มิฉะนั้นต้องตื่น ตอนเช้ามืดมาพิมพ์ต่อ เกรงใจรูมเมท

ภิกษุณีเวียดนาม คนทางขวาเคยมาเรียนธรรมที่สะเมิง เชียงใหม่ พูดภาษาไทยได้คล่องแคล่ว ติดตามมาฟังทุกวัน

วันนี้คนมาใหม่สนใจถามกันมาก ท่านอาจารย์ชื่นใจ ที่มีผู้สนใจจริงๆ มาเพิ่มทุกวัน (สังเกตจากสีหน้าสดชื่นของท่าน ขณะที่พวกเรานั่งฟังเฉยๆ หน้าตายังโรย นี่แค่วันที่ 2 นะ อาจจะเป็นว่า ออกซิเจนที่นี่น้อยกว่าที่โปแลนด์ก็ได้ เพราะคนสูบบุหรี่กันมาก ไม่ เลือกสถานที่ด้วย หน้าตาแต่ละคนเลยไม่แจ่มใส เหมือนตอนอยู่โปแลนด์) กว่าจะได้ ทานอาหารค่ำก็เกือบสองทุ่ม คุณแต๋วพาไปทานข้าว ย่านที่เจริญกว่าที่เคยไป อาหาร นั้นแปลกไปทุกวัน อยากเล่าให้ฟัง แต่ก็ทั้งง่วง ทั้งหิว เลยลืมถ่ายภาพอีกตามเคย อาหารหลักเป็นซุปไก่ต้มหม้อไฟราดข้าวหรือขนมจีน ตามชอบ อร่อยดี แต่ออเดิร์ฟ อร่อยกว่า มีปลาตัวเล็กทอดกรอบ กุ้งเล็กทอดกรอบ ผัดกบใส่หมี่และหน่อไม้ยำผักบุ้ง ลวก สวัสดีตอนค่ำค่ะ ลาดื้อๆ เลย เพราะง่วงนอนค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 7 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เข้าใจ
วันที่ 7 พ.ย. 2555

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 7 พ.ย. 2555

... ก่อนฟังธรรม เราพูดถึงสิ่งที่ไม่รู้จัก เช่น ชีวิต ชีวิตคืออะไร ใครรู้ ...

... ชีวิตคือขณะนี้ ไม่ได้ห่างไกลจากขณะนี้เลย ถ้าไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ลิ้มรส ไม่รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ไม่คิดนึก ก็ไม่มีชีวิต ...

... อะไรเกิด ... ... เมื่อโกรธเกิด เพื่ออะไร เพื่อรู้แล้วละ ...

... บังคับได้หรือ ไม่มีใครบังคับได้ เพราะไม่มีตัวตน ...

... คิดเพียงคิด ไม่มีคน เห็นเพียงเห็น ไม่มีใคร ...

... กราบขอบพระคุณ และอนุโมทนาในกุศลจิตของพี่แดงด้วยค่ะ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 7 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ธนัตถ์กานต์
วันที่ 7 พ.ย. 2555

ติดตามทุกวันค่ะทุกตอนที่ได้อ่าน อ่านไปก็ยิ้มไปคนจีนติดบุหรี่กันมากค่ะ จนเหมือน เป็นเรื่องธรรมดา สู้ๆ นะคะ

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 7 พ.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

... ชีวิตคือขณะนี้ ไม่ได้ห่างไกลจากขณะนี้เลย ถ้าไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ลิ้มรส ไม่รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ไม่คิดนึก ก็ไม่มีชีวิต ...

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของอาจารย์กาญจนา และ ทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 7 พ.ย. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
yupaporn
วันที่ 7 พ.ย. 2555

ขออนุโมทนาด้วยคนนะค๊ะ อาจารย์หญิง

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
panasda
วันที่ 7 พ.ย. 2555

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
montha
วันที่ 7 พ.ย. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ พี่แดงสู้ๆ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chaweewanksyt
วันที่ 7 พ.ย. 2555

อ่านไป ยิ้มไปเหมือนกันค่ะ สนุกดีเห็นเหมือนไปด้วยเลย แต่เห็นใจคนเล่าง่วง เสียแล้ว สู้ๆ ค่ะ จะตามอ่านตอนต่อไป ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 7 พ.ย. 2555

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่แดง และทุกๆ ท่านครับ

เป็นกำลังใจให้พี่แดงผู้รายงานข่าวที่เก็บข่าวได้ครบเครื่องจริงๆ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 7 พ.ย. 2555

... หลายคนคิดว่า ทำไมทรงสอนเรื่องเห็น ซึ่งธรรมดามาก แต่รู้เห็นหรือเปล่า แข็ง ก็เหมือนกัน รู้แข็ง กับ สิ่งที่กระทบสัมผัสหรือยัง ... ... ขณะนี้ไม่รู้อะไรเลย ...

กราบอนุโมทนาครับพี่แดงครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
rrebs10576
วันที่ 7 พ.ย. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
kinder
วันที่ 7 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
Graabphra
วันที่ 8 พ.ย. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
yupaporn
วันที่ 8 พ.ย. 2555

ขออนุโมทนากับท่านอาจารย์สุจินต์ ท่านผู้เผยแพร่ธรรมะ ท่านผู้ฟังธรรมะ ท่านผู้สัง เกตุการณ์ธรรมะ ท่านผู้รายงานข่าวธรรมะ และท่านผู้ติดตามข่าวธรรมะ เพราะเป็นการ เจริญกุศลขั้นไม่ธรรมดา (ขั้นที่ 3) คือภาวนามัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เมื่อกุศลในส่วน นี้เกิด กุศลก็ทำกิจของกุศล คือ ความผ่องใสแห่งจิต เกิดขึ้นตามธรรมชาติเป็นธรรมดา ไม่มีใครทำให้ใครได้ จะเห็นได้แจ่มชัดว่าบางท่าน "หน้าตาอิดโรย ทั้งง่วง ทั้งหิว"ขณะ จิต ที่ไม่ประกอบด้วยกุศล ก็ทำกิจของตนเช่นกัน (เพิ่งนึกได้ตอนนี้เองว่า นี้แหละหนาที่ท่านว่า "อนัตตา"

คนกรุงเก่า

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
Boonyavee
วันที่ 9 พ.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น และ ขอกราบอนุโมทนาใน กุศลจิตของทุกท่านและขอบคุณคุณแม่แดงค่ะ

สิ่งที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้ความจริง และทรงสอนมาตลอด 45 ปีนั้น ยิ่งทำให้ซาบซึ้งถึง พระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาคุณมากยิ่งขึ้น เมื่อได้มาศึกษาพระธรรมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
wirat.k
วันที่ 10 พ.ย. 2555

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
ปลากริม ไข่เต่า
วันที่ 22 พ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และอนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ