ความถือว่าของเราในนามรูป ไม่มีแก่ผู้ใด

 
pirmsombat
วันที่  11 พ.ย. 2555
หมายเลข  22031
อ่าน  1,091

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 66] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 491

[๘๖๑] ความถือว่าของเราในนามรูป ย่อมไม่มีแก่ผู้ใด

โดยประการทั้งปวง และผู้ใดย่อมไม่เศร้าโศก

เพราะสิ่งที่ถือว่าของเราไม่มีอยู่ ผู้นั้นย่อมไม่เสื่อมในโลก.

ว่าด้วยนามและรูป

[๘๖๒] คำว่า โดยประการทั้งปวง ในคำว่า

ความถือว่า ของเรา ในนามรูป

ย่อมไม่มีแก่ผู้ใดโดยประการทั้งปวง

ความว่า ทั้งปวงโดย

กำหนดทั้งปวง ทั้งปวงโดยประการทั้งปวง ไม่เหลือ ไม่มีส่วนเหลือ

คำว่าทั้งปวงนั้น เป็นเครื่องกล่าวรวบหมด.

อรูปขันธ์ ๔ ชื่อว่านาม

มหาภูตรูป ๔ และอุปาทายรูปแห่งมหาภูตรูป ๔ ชื่อว่ารูป.

คำว่า แก่ผู้ใด คือแก่

พระอรหันตขีณาสพ

ชื่อว่าความถือว่าของเรา ได้แก่ความถือว่าของเรา ๒ อย่าง

คือความถือว่าของเราด้วยตัณหา ๑ ความถือว่าของเราด้วยทิฏฐิ ฯลฯ

นี้ชื่อว่าความถือว่าของเราด้วยตัณหา ฯ ลฯ นี้ชื่อว่าความถือว่าของเราด้วยทิฏฐิ

. คำว่า ความถือว่าของเราในนามรูป ย่อมไม่มีแก่ผู้ใดโดยประการทั้งปวง

ความว่า ความถือว่าของเราในนามรูป ย่อมไม่มี ไม่ปรากฏ ไม่เข้าไปได้แก่

ผู้ใดโดยประการทั้งปวง คือ

อันผู้ใดละตัดขาด สงบ ระงับแล้ว ทำไม่ให้ควรเกิดขึ้น เผาเสียแล้วด้วยไฟ

คือญาณ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ความถือว่าของเราในนามรูป

ย่อมไม่มีแก่ผู้ใดโดยประการทั้งปวง.

ว่าด้วยผู้ไม่เศร้าโศก

[๘๖๓] คำว่า

และผู้ใดย่อมไม่เศร้าโศกเพราะสิ่งที่ถือว่าของเราไม่มีอยู่

ความว่า ย่อมไม่เศร้าโศกถึงวัตถุที่แปรปรวน หรือเมื่อวัตถุแปรปรวนไปแล้ว

ก็ย่อมไม่เศร้าโศกถึง คือ ย่อมไม่เศร้าโศก ไม่ลำบากใจไม่รำพัน ไม่ทุบอกคร่ำครวญ

ไม่ถึงความหลงใหลว่า

จักษุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กาย

รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ

สกุล คณะ อาวาส ลาภ ฯลฯ ญาติสาโลหิต

ของเราแปรปรวนไปแล้ว

แม้ด้วยเหตุอย่างนี้

ดังนี้ จึงชื่อว่า ย่อมไม่เศร้าโศกเพราะสิ่งที่ถือว่าของเราไม่มีอยู่.

อีกอย่างหนึ่งผู้ใดเป็นผู้อันทุกขเวทนาซึ่งไม่สำราญกระทบ ครอบงำ

ย่ำยี มาถึงเข้าแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก ไม่ลำบากใจ ไม่รำพัน ไม่ทุบอก

คร่ำครวญ ไม่ถึงความหลงใหล แม้ด้วยเหตุอย่างนี้ดังนี้ จึงชื่อว่า

ย่อมไม่เศร้าโศกเพราะสิ่งที่ถือว่าของเราไม่มีอยู่. อีกอย่างหนึ่ง ผู้ใด

เป็นผู้อันโรคตากระทบ ครอบงำ ฯลฯ เป็นผู้อันสัมผัสแห่งเหลือบ ยุง

ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลานกระทบ ครอบงำ ย่ำยี มาถึงเข้าแล้ว ย่อมไม่

เศร้าโศก ไม่ลำบากใจ ไม่รำพัน ไม่ทุบอกคร่ำครวญ ไม่ถึงความหลงใหล

แม้ด้วยเหตุอย่างนี้ดังนี้ จึงชื่อว่า ย่อมไม่เศร้าโศกเพราะสิ่งที่ถือว่าของเรา

ไม่มีอยู่ อีกอย่างหนึ่ง เมื่อนามรูปนั้นไม่มี ไม่ปรากฏ ไม่เข้าไปได้ ผู้ใด

ย่อมไม่เศร้าโศก ไม่ลำบากใจ ไม่รำพัน ไม่ทุบอกคร่ำครวญ ไม่ถึงความ

หลงใหลว่า นามรูปของเราได้มีแล้วหนอ นามรูปย่อมไม่มีแก่เราหนอ

นามรูปของเราพึงมีหนอ เราย่อมไม่ได้นามรูปนั้นหนอ แม้ด้วยเหตุอย่าง

นี้ดังนี้ จึงชื่อว่า และผู้ใดย่อมไม่เศร้าโศกเพราะสิ่งที่ถือว่าของเราไม่มีอยู่.

ว่าด้วยความเสื่อมมีแก่ผู้ยึดถือ

[๘๖๘] คำว่า ผู้นั้นย่อมไม่เสื่อมในโลก ความว่า ความถือ

ความยึดถือ ความถือมั่น ความชอบใจ ความน้อมใจถึงรูป เวทนา

สัญญา สังขาร วิญญาณอะไรๆ ว่า สิ่งนี้ของเรา หรือว่า สิ่งนี้ของตน

เหล่าอื่น ย่อมมีแก่ผู้ใด ความเสื่อมย่อมมีแก่ผู้นั้น สมจริงตามภาษิตว่า

ท่านเสื่อมแล้วจากรถ ม้า แก้วมณี และกุณฑล เสื่อม

แล้วจากบุตรและภรรยา ทั้งจากโภคสมบัติทั้งปวง ที่ไม่

ได้เสพ เหตุไร ท่านจึงไม่เดือดร้อนในเวลาเศร้าโศก

โภคสมบัติทั้งหลาย ย่อมละสัตว์ไปก่อนบ้าง สัตว์ย่อมละ

โภคสมบัติเหล่านั้นไปก่อนบ้าง ผู้ใคร่กามมีโภคสมบัติ

ทั้งหลายเหล่าเป็นผู้ไม่มีอะไรเป็นของของตน เหตุนั้น เรา

จึงไม่เศร้าโศกในเวลาเศร้าโศก ดวงจันทร์ย่อมขึ้น ย่อม

เต็มดวง ย่อมเสื่อมไป ดวงอาทิตย์อัสดงคตแล้วก็ลับไป

โลกธรรมทั้ง ๘ เรารู้แล้ว เหตุนั้น เราจึงไม่เศร้าโศกในเวลาเศร้าโศก

ความถือ ความยึดถือ ความถือมั่น ความชอบใจ ความน้อมใจ

ถึงรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณอะไรๆ ว่า สิ่งนี้ของเรา หรือว่า

สิ่งนี้ของตนเหล่าอื่น ย่อมไม่มีแก่ผู้ใด ความเสื่อมก็ไม่มีแก่ผู้นั้น สมจริง

ตามภาษิตว่า ดูก่อนสมณะ ท่านย่อมยินดีหรือ. ดูก่อนท่านผู้มีอายุ เรา

ได้อะไรเล่าจึงจะยินดี. ดูก่อนสมณะ ถ้าอย่างนั้น ท่านย่อมเศร้าโศกหรือ.

ดูก่อนท่านผู้มีอายุ สิ่งอะไรๆ เล่าเสื่อมไปแล้ว เราจึงจะเศร้าโศก. ดูก่อน

สมณะ ถ้าอย่างนั้น ท่านย่อมไม่ยินดี ย่อมไม่เศร้าโศกหรือ. เป็นอย่าง

นั้น ท่านผู้มีอายุ.

และสมจริงตามภาษิตว่า

เป็นเวลานานหนอ เราจึงได้เห็นภิกษุผู้เป็นพราหมณ์

ตัดรอบแล้ว ไม่มียินดี ไม่มีทุกข์ ข้ามตัณหาเครื่อง

เกาะเกี่ยวในโลก.

เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ผู้นั้นย่อมไม่เสื่อมในโลก เพราะเหตุนั้น

พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า

ความถือว่าของเราในนามรูป ย่อมไม่มีแก่ผู้ใดโดย

ประการทั้งปวง และผู้ใดย่อมไม่เศร้าโศก เพราะสิ่งที่

ถือว่าของเราไม่มีอยู่ ผู้นั้นย่อมไม่เสื่อมในโลก


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Boonyavee
วันที่ 11 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nong
วันที่ 12 พ.ย. 2555

ทำได้ยากมากๆ ค่ะ ต้องเพียรฟังต่อไป

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 12 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kinder
วันที่ 12 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chulalak
วันที่ 13 พ.ย. 2555

ขออนุโมทนา

ไม่เหลือ ไม่มีส่วนเหลือ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ