ขันติคือตบะอย่างยี่ง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
เริ่มเข้าใจความหมายของ "ขันติคือตบะอย่างยิ่ง" ไม่มีอะไรที่จะอดทนเท่ากับ การที่จะค่อยๆ เข้าใจลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏจริงๆ ไม่ใช่การอยากจะเป็นพระโสดาบัน หรือว่าอยากจะรู้แจ้ง อริยสัจจธรรม อยากจะให้วิปัสสนาญาณเกิด ทั้งหมดเป็นเรื่่องอยาก โดยที่ไม่รู้ว่าเหตุที่จะให้เกิดปัญญาขั้นนั้นเกิด คืออย่างไร แต่เป็นการรู้ถูกต้องตามความเป็นจริง ละความต้องการ เพราะรู้เหตุว่า การที่ปัญญาแต่ละขั้นสมบูรณ์ขึ้น ก็เพราะมีความเข้าใจลักษณะของสภาพธรรม แล้วเวลาใดที่สภาพธรรมปรากฏ สติมีการระลึก ก็จะค่อยๆ รู้ลักษณะของสภาพธรรมนั้น ตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้นหนทางที่ถูก คือหนทางที่ละโลภะไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เป็นหนทางที่ทำให้โลภะเกิดมากๆ โดยที่ไม่รู้ ถ้าเกิดความต้องการ ทราบได้เลยค่ะ ขณะนั้นหลงลืมสติแล้ว ไม่มีการระลึก ไม่มีการเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ต้องเป็นอย่างนี้ไปทุกชาติ ที่ได้ฟังพระธรรม แม้สั้น แต่ก็สามารถ ที่จะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมนั้น ตรงกับที่กำลังได้รับฟังธรรมนั้น