เรื่อง สัมพหุลภิกขุ ... วันเสาร์ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๕

 
มศพ.
วันที่  18 พ.ย. 2555
หมายเลข  22065
อ่าน  1,753

 

 

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺสพุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิสงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••
... สนทนาธรรมที่ ...

 

 

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)

 

พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ

 

วันเสาร์ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๕ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ

 

เรื่อง สัมพหุลภิกขุ

 

จาก...

[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ หน้า๓๕๒

 

...นำสนทนาโดย...

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

และ คณะวิทยากรมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ หน้า๓๕๒

๘. เรื่องสัมพหุลภิกขุ

ข้อความเบื้องต้น

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภการสนทนา

ของภิกษุมากรูปด้วยกัน ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "สุโข พุทฺธาน-

มุปฺปาโท " เป็นต้น.

ความเห็นในปัญหาต่างๆ กัน

ความพิสดารว่า วันหนึ่ง ภิกษุ ๕๐๐ รูปนั่งในศาลาเป็นที่บำรุง

สนทนากันว่า "ผู้มีอายุทั้งหลาย อะไรหนอแล เป็นสุขในโลกนี้?"

บรรดาภิกษุเหล่านั้น บางพวกกล่าวว่า "ชื่อว่าสุข เช่นกับด้วยสุข

ในราชสมบัติ ย่อมไม่มี" บางพวกกล่าวว่า " ชื่อว่าสุข เช่นกับด้วยสุข

ในกาม ย่อมไม่มี" บางพวกกล่าวว่า " ชื่อว่าสุข เช่นกับด้วยสุขอันเกิด

แต่การบริโภคข้าวสาลีและเนื้อ ย่อมไม่มี. "

พระศาสดาทรงแก้ปัญหานั้น

พระศาสดา เสด็จมาสู่ที่ๆ ภิกษุเหล่านั้นนั่งแล้ว ตรัสถามว่า

"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอนั่งประชุมกัน ด้วยถ้อยคำอะไรหนอ?"

เมื่อภิกษุเหล่านั้น กราบทูลว่า "ด้วยถ้อยคำชื่อนี้" จึงตรัสว่า "ดูกร ภิกษุ

ทั้งหลาย พวกเธอกล่าวอะไร? ก็ความสุขนี้แม้ทั้งหมด นับเนื่องด้วยทุกข์

ในวัฏฏะทั้งนั้น แต่เหตุนี้เท่านั้น คือ ความเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้า การ

ฟังธรรม ความพร้อมเพรียงของหมู่ ความเป็นผู้ปรองดองกัน เป็นสุขใน

โลกนี้ " ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-

สุโข พุทฺธานํ อุปฺปาโท สุขา สทฺธมฺมเทสนา

สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี สมคฺคานํ ตโป สุโข.

คำแปล

"ความเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นเหตุ

นำสุขมา, การแสดงธรรมของสัตบุรุษ เป็นเหตุ

นำสุขมา, ความพร้อมเพรียงของหมู่ เป็นเหตุนำสุข

มา, ความเพียรของชนผู้พร้อมเพรียงกัน เป็นเหตุนำ

สุขมา."

แก้อรรถ

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า พุทฺธานมุปฺปาโท ความว่า พระ-

พุทธเจ้าทั้งหลาย เมื่อทรงอุบัติขึ้น ย่อมยังมหาชนให้ข้ามจากความกันดาร

ทั้งหลาย มีความกันดารคือราคะเป็นต้น เหตุใด เหตุนั้น ความเกิดขึ้น

แห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จึงชื่อว่าเป็นเหตุนำสุขมา

สัตว์ทั้งหลายผู้มีทุกข์มีชาติเป็นต้นเป็นธรรม อาศัยการแสดงธรรมของ

สัตบุรุษ ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งหลาย มีชาติเป็นต้น เหตุใด เหตุนั้น การแสดง

ธรรมของสัตบุรุษจึงชื่อว่าเป็นเหตุนำสุขมา

ความเป็นผู้มีจิตเสมอกัน ชื่อว่า สามัคคี. แม้สามัคคีนั้น ก็ชื่อว่าเป็นเหตุ

นำสุขมาโดยแท้

อนึ่ง การเรียนพระพุทธพจน์ก็ดี การรักษาธุดงค์ทั้งหลายก็ดี การทำสมณ

ธรรมก็ดี ของเหล่าชนผู้พร้อมเพรียงกัน คือผู้มีจิตเป็นอันเดียวกัน เป็นเหตุนำ

สุขมา เหตุใด,เหตุนั้น พระศาสดาจึงตรัสว่า "สมคฺคานํ ตโป สุโข" เพราะเหตุ

นั้นนั่นแหละ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้ว่า "ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ก็พวกภิกษุ

จักพร้อมเพรียงกันประชุม, จักพร้อมเพรียงกันเลิก (ประชุม) , จักพร้อมเพรียง

กันทำกิจที่ควรทำของหมู่, ตลอดกาลเพียงใด; ภิกษุทั้งหลายความเจริญฝ่าย

เดียว อันภิกษุทั้งหลายพึงหวังได้, ความเสื่อมอันภิกษุทั้งหลายไม่พึงหวังได้

ตลอดกาลเพียงนั้น"

ในกาลจบเทศนา ภิกษุเป็นอันมากตั้งอยู่ในอรหัตตผลแล้ว. เทศนาได้มี

ประโยชน์แม้แก่มหาชนแล้ว ดังนี้แล.

เรื่องสัมพหุลภิกขุ จบ.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 18 พ.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

เรื่องสัมพหุลภิกขุ *

พระภิกษุมากรูป (๕๐๐ รูป) นั่งสนทนากันว่า อะไร เป็นสุขในโลก คำตอบที่ได้

จากการสนทนาในครั้งนี้ คือ ความสุขในราชสมบัติ บ้าง ความสุขในกาม บ้าง ความ

สุขอันเกิดจากการบริโภคข้าวสาลีและเนื้อ บ้าง

สำหรับในเรื่องนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ความสุขที่ภิกษุกล่าวถึงนั้น ยังนับเนื่อง

ด้วยทุกข์ในวัฏฏะ ยังไม่พ้นไปจากวัฏฏะ แต่เหตุต่อไปนี้ เป็นสุขในโลก คือ ความเกิด

ขึ้นแห่งพระพุทธเจ้า (ทรงอุบัติขึ้น ยังหมู่สัตว์ให้พ้นจากกิเลสมีราคะ เป็นต้น) การฟัง

ธรรม, การแสดงธรรม (สัตว์โลก ผู้มีความทุกข์ อาศัยการแสดงธรรมของสัตบุรุษ จึง

พ้นจากทุกข์) ความพร้อมเพรียงกันของหมู่ (การเรียนพระพุทธพจน์ การรักษาธุดงค์

การทำสมณธรรม ของคนผู้มีความพร้อมเพรียงกัน - มีจิตเป็นอันเดียวกัน) ความเพียร

ของชนผู้พร้อมเพรียงกัน (ความพร้อมเพรียงกันทำกิจที่ควรทำของหมู่) ทั้งหมดนี้เป็นเหตุนำสุขมาให้.

หมายเหตุ คำว่า สัมพหุลภิกขุ หมายถึง ภิกษุมากรูป.

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

ข้อความเตือนสติเรื่องสัมพหุลภิกขุสูตร

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 18 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paew_int
วันที่ 19 พ.ย. 2555

--ขออนุโมทนาค่ะ--

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 19 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nong
วันที่ 19 พ.ย. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 19 พ.ย. 2555
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
tusaneenui
วันที่ 20 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
isme404
วันที่ 20 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
raynu.p
วันที่ 24 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
jaturong
วันที่ 27 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Graabphra
วันที่ 29 พ.ย. 2555

ยินดีเบิกบานมากๆ ที่อาจจะได้ไปร่วมงานสนทนาธรรม เจริญกุศลทางหู ใจ เป็นหลักทางตาลิ้น จมูกเป็นรอง ในวันเสาร์นี้นะครับ ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
natre
วันที่ 3 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
pamali
วันที่ 3 ธ.ค. 2555
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
Lamphun
วันที่ 4 ธ.ค. 2555

ขอเชิญชาวเชียงใหม่ ชมและฟังการถ่ายทอดสด การสนทนาธรรมจากกรุงเทพฯ

ในวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคมนี้ เวลา 10.30-12.00น. และ 13.00-16.00น.

ที่ห้องบุ๊คคลับ สุริวงศ์บุ๊คเซ็นเตอร์ (ชั้นล่าง ติดกับกาแฟวาวี)

โทร.085-6217106

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
เมตตา
วันที่ 7 ธ.ค. 2555

...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ...

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ