การปฏิบัติธรรม แต่ไม่เกิด ญาณ ๑-๑๖ จะดับกิเลสได้ไหม
อย่างคนปฏิบัติธรรม วิปัสสนา สติปัฏฐาน ๔ พิจารณาด้วยปัญญาตลอด ๑o ปี แต่ไม่ปรากฏญาณใดๆ ขึ้นมาเลย แบบนี้ถือว่าดับกิเลสบางตัวได้ไหม เพราะได้ยินว่า แม้จะปฏิบัติถูกต้อง แต่ถ้าไม่เกิดญาณใดๆ ขึ้นมา ก็ยังไม่พ้นจากกิเลส ดังนั้นผู้ที่ปฏิบัติธรรม แล้วหลุดเข้ามาสู่ระดับแรก คือ โสดาบัน จะปรากฏญาณ เริ่มจาก ๑ ขึ้นไป ตามระดับ ในการตัดกิเลสบางตัวออก
ตามหลักธรรมคําสอนของพระพุทธเจ้า แสดงว่า พระอริยบุคคล มีพระโสดาบันบุคคล เป็นต้น ท่านอบรมเจริญปัญญาจนปัญญาเจริญขึ้นเป็นวิปัสสนาญาณ ถึง ๑๖ ขั้น ถึงโลกุตตรปัญญาจึงดับกิเลสได้ กิเลสใดที่ดับได้แล้วกิเลสนั้นจะไม่กลับมาเกิดอีก ส่วนปุถุชนทั้งหลายแม้มีปัญญามาก แต่ไม่ถึงโลกุตตรปัญญาก็ยังดับกิเลสเป็นสมุจเฉทไม่ได้แม้ว่าจะใช้เวลาเป็นร้อยปีพันปีหรือหมื่นปี เมื่อบารมียังไม่แก่กล้าก็ดับกิเลสไม่ได้ เป็นเพียงการละกิเลสได้ชั่วคราวในขณะอกุศลเกิด หลังจากนั้นเมื่อมีเหตุปัจจัยกิเลสก็เกิดอีก อนึ่ง การดับกิเลส เป็นผลของการอบรมเจริญปัญญาและปฏิบัติธรรมที่ตรงและถูกต้อง ถ้าหากว่ามีการปฏิบัติผิด แม้จะใช้เวลามากมายแต่ผลคือการดับกิเลสนั้น ก็เป็นไปไม่ได้ครับ ดังนั้น ควรศึกษาพระธรรมคำสอนอย่างละเอียดและรอบคอบ จะดีกว่าไปหวังผลคือการดับกิเลสครับ
ผู้ที่มีปัญญาอบรมหนทางที่ถูกต้อง ปัญญาจะต้องเจริญไปตามลำดับ เริ่มจากปัญญาขั้นการฟังให้เข้าใจที่เป็นปัญญาขั้นการฟัง และก็เจริญขึ้นเป็นลำดับถึงปัญญาที่เป็นการเจริญสติปัฏฐาน และจะต้องถึงวิปัสสนาญาณสิบหกขั้น จึงจะดับกิเลสได้ เพราะฉะนั้น ถ้ายังไม่มีปัญญาขั้นการฟังที่ถูกต้อง ก็ไม่ต้องกล่าวถึงวิปัสสนาญาณและการดับกิเลสได้เลย เพราะฉะนั้น การอบรมปัญญา ต้องใช้ระยะเวลายาวนานเป็นกัปๆ นับชาติไม่ถ้วน โดยจะต้องเริ่มจากการอบรมปัญญาขั้นการฟังเป็นสำคัญ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ปัญญาจะมีมาก จนกระทั่งสมบูรณ์ สามารถประจักษ์แจ้งพระนิพพาน ดับกิเลสตามลำดับขั้นได้นั้น ต้องอาศัยการสะสมปัญญาไปทีละเล็กทีละน้อย เป็นเรื่องของความเข้าใจโดยตลอด จะเห็นได้ว่าเรื่องของการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมเป็นเรื่องที่ไกลมาก ซึ่งจะต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานทีเดียว ไม่ใช่แค่ชาตินี้ชาติเดียวหรือสองชาติเท่านั้นครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...