ร่วมพิธีถวายพระรัตนบุษยภาชน์อโศกมหาราชปริวรรต 6 ถึงกุสินารา

ถึงกุสินารา

27 พ.ย. 2555

เพิ่งได้ครึ่งทาง แวะทานอาหารกลางวันกลางทางที่โรงแรมอะไรก็จำไม่ได้เสีย แล้ว เพราะไม่ได้ถ่ายภาพไว้ ยังไม่ถึงกุสินาราค่ะ ก็ใช้เวลาเดินทางตั้ง 8 ชั่วโมง เลยได้ ฟังคำสรรเสริญพระรัตนตรัยต่อ แต่เขียนด้วยความเข้าใจของตนเอง ขอสารภาพว่า ไม่ ได้ฟังในรถเท่าไร เพราะขณะนั้นจิตเป็นภวังค์เสียมากกว่าวิถีจิต แต่ก็บังคับบัญชาไม่ได้ นี่ค่ะ ที่พวกเราถูกสอนให้สวดมนต์มาตั้งแต่เด็กว่า อิติปิ โส ภควา ฯลฯ แม้เพราะ เหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นพระอรหันต์ เป็นผู้ตรัสรู้ชอบเอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย วิชชาและจรณะ เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นผู้รู้แจ้งโลก เป็นสารถีแห่งบุรุษพึงฝึกได้ ไม่มี บุรุษอื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นแล้ว เป็นผู้เบิกบาน แล้ว เป็นผู้มีโชค เป็นต้น

หลังจากฟังธรรมมานานพอสมควร เพิ่งเริ่มเข้าใจว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ นั้นเป็น เหตุ ที่ทำให้พระองค์เป็นพระอรหันต์ เป็นผู้ตรัสรู้ชอบเอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและ จรณะ เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นผู้รู้แจ้งโลก เป็นสารถีแห่งบุรุษพึงฝึกได้ ไม่มีบุรุษอื่นยิ่ง กว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นแล้ว เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้ มีโชค เป็นต้น ที่ไม่กล่าวถึง เหตุนี้ โดยละเอียด เพราะคือทั้งหมดในพระไตรปิฎกที่มีถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ซึ่งต้องศึกษาด้วยตนเองจึงจะเห็นพระปัญญาคุณ พระมหา กรุณาคุณ และพระบริสุทธิคุณของพระองค์ที่ทรงตรัสรู้สิ่งที่ไม่มีผู้ใดรู้มาก่อนเลย แล้ว ทรงแสดงโดยจำแนกธรรมออกอย่างละเอียดที่สุด จนแยกอีกไม่ได้ เป็นแต่ละหนึ่ง ไม่ว่า จะเป็นรูปธรรมหรือนามธรรม ก็ล้วนแต่เป็นแต่ละหนึ่ง เพื่อให้เห็นความเกิดดับ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ถ้าเข้าใจพระธรรมมากขึ้น ก็จะเห็นเหตุนี้มากขึ้น อย่างท่านพระสารีบุตร สามารถกล่าวถึงพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทั้ง คืน เป็นต้น ซึ่งเมื่อเข้าใจพระคุณของพระองค์มากขึ้น ก็จะเข้าถึงอริยสาวิตรี ซึ่งเป็น เบื้องต้นของพระไตรปิฎก คือ ถึงพระผู้มีพระภาคเป็นสรณะ คือ เป็นที่พึ่ง เพราะทราบว่า สามารถพึ่งพระคุณทั้ง 3 ของพระองค์ทำให้พ้นทุกข์ได้

ส่วนพระธรรมคุณ เริ่มต้นด้วย สวากขาโต ภควตา ธัมโม พระธรรมอันพระผู้มี พระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว อันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน นั้น เมื่อเข้าใจว่า ธรรมคือทุกอย่างที่มีจริง ไม่ ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล แบ่งออกเป็นนามธรรมและรูปธรรม ซึ่งแยกย่อยออกเป็นจิต เจตสิก รูป นิพพาน แต่ละอย่างมีลักษณะเฉพาะของตน ไม่ว่าเวลาใดก็มีสภาพธรรมเกิดปรากฏ ให้ระลึกรู้ตลอดเวลา แต่ที่ยังไม่ระลึกรู้ว่า เพราะยังไม่มีสัจญาณ ความรู้ที่มั่นคงว่า ทุกอย่างเป็นธรรม

สำหรับพระสังฆคุณ ขึ้นต้นด้วย ภควโต สาวกสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มี พระภาค เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติเป็นธรรม เป็นผู้ปฏิบัติ สมควร นี้คือใคร คู่แห่งบุรุษ ๔ บุรุษบุคคล ๘ นี่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ ควรของคำนับ เป็นผู้ควรของต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรทำอัญชลี (ประนม มือไหว้) เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่านั้น

พระธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยังปรากฏมาถึงเราในปัจจุบันนี้ ก็ เพราะพระสงฆ์สาวกของพระองค์สืบทอดต่อมาด้วยดี ตั้งแต่ท่านพระอานนท์ที่ทรงจำคำ สอนทั้งหมด และท่านพระมหากัสสปะได้ทำสังคายนา คือ รวบรวมพระธรรมวินัยให้เป็น หมวดหมู่ และพระอริยสงฆ์รุ่นต่อๆ มาที่สืบทอดต่อมา จนจารึกเป็นตัวอักษรในการ สังคายนาครั้งที่ ๔ ที่วัดอโรคยา ประเทศศรีลังกา และสืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้ แม้จะผ่าน มาถึง ๒,๖๐๐ ปี ก็ยังมีพระธรรมวินัย ที่แยกเป็นพระวินัย พระสูตร พระอภิธรรม ครบถ้วน ให้ศึกษา ให้พิจารณา ต้องกราบขอบพระคุณที่ได้รักษามรดกที่พระผู้มีพระภาคทรงมอบ ให้พุทธบริษัทไว้อย่างดี และตอนนี้ก็มาถึงรุ่นเรา ที่จะต้องรักษาพระธรรมที่ถูกต้องไว้ให้ คงอยู่สู่ลูกหลานรุ่นต่อๆ ไป

ถึงกุสินาราตอนเย็น แวะที่สาลวโนทยาน สถานที่ปรินิพพาน ได้ห่มผ้าพระพุทธ รูปปางปรินิพพานในวิหาร ซึ่งทราบว่า พระพุทธรูปองค์นี้ถูกขุดพบหักเป็นท่อนๆ ใน บริเวณนี้ เมื่อซ่อมแซมจนสมบูรณ์แล้วนำมาประดิษฐานในพระวิหารที่สร้างขึ้น อยู่หน้า มหาปรินิพพานสถูป ซึ่งเป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ สีขาว ส่วนด้านหลังเป็นสถานที่ชำระ พระวรกายของพระองค์และตั้งให้พุทธบริษัทกราบนมัสการเป็นเวลา ๗ วันก่อนถวายพระ เพลิงที่มกุฎพันธนเจดีย์

ได้เวียนเทียนประทักษิณรอบพระเจดีย์ และห่มผ้าสีเหลืองทองรอบพระเจดีย์ เช่นเคย แต่ปรากฏว่า มืดแล้ว ถึงเวลาปิดสาลวโนทยาน จึงเข้าโรงแรมนิกโก้ โลตัส รับประทานอาหารเย็น แล้วพร้อมใจกันเดินไปชมวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ได้ พบทีมแพทย์และพยาบาลอาสาสมัครมาดูแลผู้แสวงบุญ สอบถามทราบว่า เป็นคณะ แพทย์และพยาบาลจากศูนย์มะเร็ง ลพบุรี และได้พบนายแพทย์วิทยา ที่มาฟังธรรมท่าน อาจารย์ ที่เคยพบกันที่โครงการหลวง ดอยอินทนนท์ เมื่อ 2 ปีก่อน ดีใจจัง คุณหมอและ คณะสมกับเป็นสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ที่เป็นคนดี และศึกษาพระธรรม

ขออนุโมทนาค่ะ