สภาพธรรมเกิดขึ้นเพราะปัจจัยและบังคับบัญชาไม่ได้
เราไม่อาจรู้สภาพเห็น สิ่งที่ปรากฏทางตา การกระทบสัมผัสและความรู้สึก “ตามที่เป็น” เพียงด้วยการคิดเรื่องสภาพธรรมเหล่านี้เท่านั้น ปัญญาควรรู้ลักษณะของเห็นเมื่อเห็นปรากฏ ควรรู้ว่าเห็นเป็นนามที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่ตัวตน นามเห็นต่างจากรูปที่ปรากฏทางตา เมื่อเริ่มรู้ว่าสภาพธรรมต่างเป็นแต่เพียงธาตุที่เกิดขึ้นเพราะปัจจัยและบังคับบัญชาไม่ได้ เราก็จะถูกสิ่งที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจครอบงำน้อยลง
นอกจากนี้ การรู้ลักษณะของรูปธรรมและนามธรรมที่ปรากฏทั่วทุกทวาร จนรู้แจ้ง ว่าเป็นเพียงรูปธรรมและนามธรรม ไม่ใช่เราแล้ว ผู้นั้นก็จะกระทำสิ่งใดๆ ด้วยความ "ไม่เห็นแก่ตัว" ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น
หน้าที่ของเราคือ อบรมเจริญปัญญาไปตามลำดับขั้น จนกว่าจะรู้ลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริงแล้ว กิเลสก็จะน้อยลง เราก็จะทำเพื่อตัวเองน้อยลงและทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งที่มูลนิธิฯ และบ้านธัมมะ ก็มีตัวอย่างให้เห็นอยู่มากมาย
ต้องขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งจริงๆ