สัมมาสมาธิ

 
nano16233
วันที่  6 ม.ค. 2556
หมายเลข  22289
อ่าน  1,679

ในมรรคแปด

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในกรณีนี้ สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากธรรม ที่เป็นกุศลทั้งหลาย เข้าถึงปฐมฌาณ

คำว่ากาม หมายถึง กามคุณ ทั้ง ๕ หรือเปล่า ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 6 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สัมมาสมาธิ คือ ความตั้งมั่นชอบ หมายถึง เอกัคคตาเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิต ในขณะที่สติปัฏฐานและวิปัสสนาญาณเกิด สัมมาสมาธิทำจิตและเจตสิกอื่นให้ตั้งมั่นในอารมณ์ คือ นามธรรมหรือรูปธรรมที่กำลังปรากฏ เพื่อที่ปัญญาจะได้รู้ชัดลักษณะของนามรูปนั้นๆ และเมื่อมัคคจิตเกิดขึ้นสัมมาสมาธิก็ทำให้จิต และเจตสิกอื่นตั้งมั่นในอารมณ์คือ นิพพาน และ สัมมาสมาธิ ยังหมายถึง ความตั้งมั่นชอบที่เป็นเอกัคคตาเจตสิก ที่เกิดกับจิตที่เป็นกุศลและประกอบด้วยปัญญา ขณะที่เป็นฌานจิต ขณะนั้น มีสัมมาสมาธิที่สงบจากกาม สงบจากอกุศลธรรมทั้งหลาย ครับ

ส่วนคำว่า กาม ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจคำว่ากามก่อนครับว่าคืออะไร กาม ชื่อว่า “กาม” เพราะอรรถว่า อันสัตว์ใคร่ กามมี ๒ อย่างคือ กิเลสกาม ๑ วัตถุกาม ๑

กิเลสกาม ได้แก่ ฉันทราคะ คือ โลภเจตสิก ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่ยินดีพอใจติดข้องในอารมณ์ วัตถุกาม คือ สภาพธรรมซึ่งเป็นที่ตั้งของความยินดี ความพอใจความปรารถนา ฉะนั้น วัตถุกาม ได้แก่ วัฏฏะ ซึ่งเป็นไปในภูมิทั้ง ๓ คือ ทั้งกามภูมิ รูปภูมิ และ อรูปภูมิ เพราะไม่พ้นจากการเป็นวัตถุที่ยินดีพอใจของกิเลสกาม ตราบใดที่ยังดับโลภะไม่ได้ ก็ยังมีวัตถุกาม คือ สภาพธรรมซึ่งเป็นที่ยิน ดี พอใจของกิเลสกาม ซึ่งได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส สิ่งที่กระทบสัมผัสที่น่าพอใจ เป็นต้น

ดังนั้น จากคำถามที่ว่า ในมรรคแปด ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในกรณีนี้ สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากธรรมที่เป็นกุศลทั้งหลาย เข้าถึงปฐมฌาณคำว่ากาม หมายถึง กามคุณ ทั้ง ๕ หรือเปล่า ครับ


จากข้อความที่กล่าวมา คือ ขณะที่ได้ฌานจิต ฌานจิต คือ ขณะที่สงบจากอกุศล ธรรมต่างๆ มี ความยินดีพอใจ เป็นต้น ดังนั้นคำว่า กาม ที่สงัดจากกามจึงมุ่งหมายถึงกิเลสกาม ที่เป็นโลภะ ความติดข้อง ขณะที่ฌานจิตเกิดขึ้นถึง ปฐมฌาน สงบจากอกุศลธรรมทั้งปวง สงบจากกิเลสกาม มี โลภะ เป็นต้นในขณะนั้น ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ใฝ่รู้
วันที่ 6 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nopwong
วันที่ 6 ม.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 6 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ควรที่จะได้เข้าใจตั้งแต่ต้นว่า สมาธิ เป็นธรรมที่มีจริง สมาธิเป็นชื่อของเอกัคคตา เจตสิก ที่เกิดร่วมกับจิตทุกดวง สมาธิแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ มิจฉาสมาธิ ๑ สัมมาสมาธิ ๑ มิจฉาสมาธิ คือเอกัคคตาที่เกิดร่วมกับอกุศลจิต สัมมาสมาธิเป็นเอกัคคตา ที่เกิดร่วมกับจิตฝ่ายดี

สัมมาสมาธิมีหลายระดับ คือ สมาธิที่เป็นไปในวัฏฏะและสมาธิที่นำออกจากวัฏฏะ, สมาธิที่เป็นฌานระดับขั้นต่างๆ มีปฐมฌาน เป็นต้น เพียงเพื่อสงบระงับกิเลสประการ ต่างๆ มีโลภะ เป็นต้น และทำให้เกิดในพรหมโลกเท่านั้นไม่สามารถพ้นจากทุกข์ได้ พระพุทธองค์ทรงสอนให้สาวกทั้งหลายเจริญสมาธิที่เกิดร่วมกับองค์มรรค เป็นสมาธิ ที่นำออกจากวัฏฏะ คือ การอบรมเจริญสติปัฏฐาน ๔ ซึ่งมีสมาธิเกิดร่วมด้วยทุกขณะ เมื่อปัญญาเจริญขึ้น จนมีกำลังย่อมเป็นการทำกิจร่วมกันในอริยมรรค

เพราะฉะนั้นแล้ว จึงสำคัญตั้งแต่เบื้องต้น คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ เพราะสิ่งที่ควรรู้ควรศึกษานั้นมีมาก ไม่ใช่เฉพาะสมาธิ เท่านั้น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 6 ม.ค. 2556

สัมมาสมาธิ เป็นการสงบกิเลส ระงับกิเลสชั่วคราว เช่น รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ที่ติดข้องอยู่ทุกวัน ทำให้วนเวียนอยู่ในวัฏฏะ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เซจาน้อย
วันที่ 8 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"คำว่า กาม ในที่นี้ จึงมุ่งหมายถึง กิเลสกาม ที่เป็นโลภะ ความติดข้องในอารมณ์"

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.คำปั่น อ.ผเดิมและทุกๆ ท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
kinder
วันที่ 9 ม.ค. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
homenumber5
วันที่ 19 ม.ค. 2556

เรียนถาม อ. khampa.a ค่ะและวิทยากรทุกท่าน

ข้อความว่า สัมมาสมาธิมีหลายระดับ คือสมาธิที่เป็นไปในวัฏฏะ และสมาธิที่นำออกจากวัฏฏะ ดิฉันสงสัยว่า สมาธิที่เป็นไปในวัฏฏะ จะเรียกว่าสัมมาสมาธิด้วยหรือคะ ดิฉันเข้าใจว่า สมาธิที่เป็นไปในวัฏฏะเช่น สมาธิในพรหมบุคคล ที่อยู่ในรูปวจรภูมิซึ่งยังเวียนว่ายใน ภพภูมิ จึงยังอยู่ในวัฏฏะ ดังนั้น จึงไม่น่าจะเป็นสัมมาสมาธิแต่ ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นมิจฉาสมาธิหรือไม่ค่ะ

อนุโมทนา กรุณาชี้แนะด้วยค่ะ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
nong
วันที่ 20 ม.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
khampan.a
วันที่ 21 ม.ค. 2556

อ้างอิงจาก : หัวข้อ 22289 ความคิดเห็นที่ 8 โดย homenumber5

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเป็นจริงของสภาพธรรมไม่เคยเปลี่ยน เป็นจริงอย่างไรก็จริงอย่างนั้น สัมมา สมาธิเป็นสภาพธรรมที่ตั้งมั่นในอารมณ์ ต้องเป็นไปในกุศลธรรม สมาธิคือ เอกัคคตา เจตสิก ขณะใดที่เอกัคคตาเจตสิก ไม่ได้เกิดร่วมกับกุศลจิตขณะนั้นไม่ใช่กุศล ขณะ ใดที่เอกัคคตาเจตสิก ไม่ได้เกิดร่วมกับกุศลจิตขณะนั้นไม่ใช่ "สัมมาสมาธิ" แต่เป็น "อกุศลสมาธิ" หรือ "มิจฉาสมาธิ" ขณะที่เอกกัคคตาเจตสิก เกิดร่วมกับกุศลจิตขณะ นั้นเป็น "สัมมาสมาธิ" กล่าวโดยรวมก็ได้ว่า ถ้าเอกัคคตาเจตสิกเกิดร่วมกับกุศลจิต ก็เป็นสัมมาสมาธิ แต่ถ้าไม่ได้เป็นไปกับการอบรมเจริญปัญญา ก็ไม่เป็นไปเพื่อออก จากวัฏฏะ แต่ไม่เรียกว่า มิจฉาสมาธิ เพราะเกิดกับกุศล แต่เป็นมิจฉาปฏิปทา เพราะไม่ได้เป็นไปเพื่อออกจากวัฏฏะ นั่นเอง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
paderm
วันที่ 22 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
homenumber5
วันที่ 24 ม.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 3 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ