มีเมตตา แต่ขาดซึ่งปัญญา แบบนี้จะรับกรรมดี หรือกรรมชั่วครับ
คนที่ช่วย ช่วยด้วยความเมตตา ปราถนาดี แต่เป็นเหตุให้สัตว์นั้น (ปลา) ตาย แบบนี้ จะรับผลกรรมเช่นใดครับ เรื่องทำนองนี้ในสังคมไทยเรามีอีกมากนัก เช่น การซื้อสัตว์ ปล่อย ที่มีคนจับมาขายตามวัด การให้เงินเด็กขอทานจนเป็นสาเหตุให้เกิดขบวน การค้ามนุษย์
จึงอยากเรียนถามทรรศนะของท่านทั้งหลาย ว่าทางพระพุทธศาสนาตัดสินการ กระทำใดๆ ว่าเป็นกรรมดี-ชั่ว จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ หรือ ตัดสินจากเจตนาที่กระทำการนั้นๆ เช่น ให้เงินขอทาน เจตนาช่วยเหลือ แต่กลับ กลายเป็นส่งเสริมขบวนการค้ามนุษย์ เจตนาช่วย เหลือปลาแต่ทำให้ปลาตาย
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เจตนา เป็นกรรม เจตนาที่ดีก็เป็นกุศลเจตนา เป็นกุศลจิต กุศลกรรม เช่น คิดช่วย เหลือ มีเมตตา เป็นต้น ซึ่งผลจากเจตนาดี ก็ต้องมีความสุขเป็นผล
ส่วนเจตนาที่ไม่ดี เกิดจากอกุศลจิต ที่เป็นทุจริต มีการทำด้วยการเบียดเบียน มี การฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งผลของเจตนที่ไม่ดี เป็นอกุศล ย่อมนำมาซึ่งผลที่ ไม่ดี เพราะ เป็นบาป ครับ
ดังนั้น ในประเด็นที่ถาม ผู้ที่ช่วยเหลือ หวังดี เจตนาดี เช่น การปล่อยสัตว์ มีปลา เป็นต้น เจตนาของผู้ปล่อย มีเจตนาให้สัตว์ปลอดภัย เป็นเจตนาที่เป็นกุศลกรรม ขณะนั้นไม่เป็นบาป แต่ เป็นบุญในขณะนั้น ส่วนการที่ปลาตาย เพราะการช่วยเหลือ นั้น หากเรามองให้ละเอียดลึกลงไป ไม่มองสั้นๆ ก็จะเข้าใจได้ทันทีว่า การที่สัตว์จะ ตาย หรือ ไม่ตาย เพราะใคร เพราะ กรรมของสัตว์นั้นเอง หากสัตว์นั้น ไม่มีกรรมที่ จะต้องถูกจับอีก หรือ จะต้องตาย สัตว์ที่ถูกปล่อยนั้นก็ไม่ตาย แต่หากสัตว์นั้นมีกรรม ที่จะต้องตาย สัตว์นั้นก็ต้องตาย ไม่ว่าจะถูกปล่อย หรือ ไม่ถูกปล่อยก็ตาม ครับ
พระพุทธศาสนา จึงตัดสินการกระทำที่เจตนาในขณะที่ทำกรรมในขณะนั้น ว่าเป็น เจตนาที่ดี เกิดจากกุศลจิต ก็เป็นกุศล เป็นบุญ ไม่บาป และเจตนาที่ไม่ดี ทุจริต ใน ขณะนั้น ก็เป็นบาป ครับ ไม่ได้วัดที่ผลที่เกิดจากผู้ที่ได้รับจากการกระทำผู้นั้นเป็น สำคัญ แต่ สำคัญที่จิตของผู้กระทำและเจตนาเป็นสำคัญ ครับ
อย่างเช่น บางคนเจตนาไม่ดี ทุจริต เช่น ตั้งใจคิดจะฆ่าคนหนึ่ง แต่เพราะทำ พลาด กลายเป็นช่วยเหลือคนนั้นให้รอดชีวิต หากวัดเพียงผลที่ทำให้ผู้นั้นรอดชีวิต ก็กลายเป็นว่า สิ่งนั้นดี เพราะทำให้ผู้นั้นรอดชีวิต ทั้งๆ ที่เจตนาไม่ดี คือ เจตนาฆ่า ในขณะนั้น แต่ในความเป็นจริง อกุศล ก็ต้องเป็นอกุศลไม่เปลี่ยนแปลง เจตนาไม่ดี ก็ต้องเป็นเจตนาที่ไม่ดี เป็นบาปในขณะนั้น ครับ
โดยนัยเดียวกับ การให้เงินขอทาน เจตนาที่ให้ เพราะต้องการช่วยเหลือ หวังดีใน ขณะนั้น จิตเป็นกุศล ขณะที่หวังดี ขณะนั้นมีเจตนาส่งเสริมการค้ามนุษย์หรือไม่ และ ที่ลืมไม่ได้อีกเช่นกัน การที่เด็กถูกจับมา เพราะจากการให้ของเรา หรือเหตุเพราะ อกุศลกรรมที่เด็กคนนั้นทำ ทำให้ถูกจับมา หากเด็กไม่มีอกุศลกรรมที่ทำมา ก็จะไม่ ถูกจับเลย ครับ
แพทย์ต้องการช่วยเหลือคนไข้ เจตนาดี แต่ทำสุดความสามารถแล้ว เกิดข้อผิด พลาดขณะที่ทำ ทำให้คนไข้เสียชีวิต แพทย์ มีเจตนาทำให้คนไข้ตายหรือไม่ หรือ เจตนาช่วยเหลือ แม้ผลที่ออกมาทำให้คนไข้เสียชีวิต เมื่อเป็นเจตนาดี เป็นกุศลจิต ที่คิดจะช่วยเหลือ ก็ไม่เป็นบาป เป็นกุศลในขณะนั้น ส่วนคนไข้ก็มีกรรมของตนเอง ที่จะต้องตาย ครับ
และที่เคยเป็นข่าว คนอยากจะกระโดดตึก ตำรวจเกลี้ยกล่อม เมื่อคนจะกระโดด เผลอ จึงวิ่งเข้าหา เพื่อล็อกตัว แต่พลาด ทำให้คนนั้น ตกตึก ขณะที่ตก ก็พยายาม จะหยิบคว้าสิ่งของให้ตัวเองรอดตาย แต่สุดท้ายก็ตกลงมาเสียชีวิต เจตนาตำรวจดี หรือไม่ดี เจตนาดี แต่ผลคือทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต หากวัดเพียงผล ก็กลายเป็นตำรวจ บาป แต่ในความเป็นจริง ตำรวจมีเจตนาดี เป็นกุศล ไม่บาป แม้ผู้ที่ถูกช่วยเหลือจะ เสียชีวิตก็ตาม ครับ
การที่ทานอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ ขณะนั้นมีเจตนาฆ่าสัตว์หรือไม่ เพราะหากคิดสั้นๆ ถ้าไม่กินเนื้อสัตว์ สัตว์ก็ตายน้อยลง แต่เพราะ เรากินเนื้อกัน สัตว์เลยต้องตาย ขณะ ที่ทานเนื้อสัตว์ มีเจตนาฆ่าหรือไม่ ไม่มีเจตนาฆ่า จึงไม่เป็นการฆ่าสัตว์ หรือ มีเจตนา สนับสนุนการฆ่าในขณะนั้น ส่วนสัตว์ หากไม่มีกรรมที่จะต้องตายของตนเอง ก็จะ ไม่ตาย ไม่ถูกจับฆ่าเลย แม้โดยทั่วไป เราก็ไม่ทานเนื้อมนุษย์กัน แต่ทำไมยังมีการ ฆ่ามนุษย์กันอยู่ เพราะ ตาย เพราะกรรมของบุคคลนั้นเอง ครับ
การปล่อยปลา การให้ขอทานก็โดยนัยเดียวกัน ตามที่กล่าวมาครับ พระพุทธศาสนา พิจารณาที่สภาพจิต สำคัญที่เจตนาในขณะนั้นว่าเป็นเจตนาดี หรือ ไม่ดี ที่ จะเป็นกรรมดี กรรมชั่ว ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุญาตเรียนถามเพิ่มเติมครับ ถ้าเจตนาต้นเป็นกุศล แต่ผลออกมาไม่ดี เช่น ช่วยเหลือคนไข้ แต่คนไข้ตาย ตำรวจวิ่งไปช่วยคนโดดตึก แต่คนโดดตึกตาย แม้ไม่บาปก็จริง แต่กุศลกรรมบถไม่ครบองค์ จะมีกุศลวิบากในอนาคตหรือไม่ หรือไม่ได้เป็นกรรมอะไร
ขอบพระคุณครับ
เรียน ความเห็นที่ 2 ครับ
เจตนาช่วยมีแล้ว และก็มีการช่วยเหลือ ส่วนงานจะเสร็จหรือไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ อีกส่วนหนึ่ง แต่ได้ช่วยเหลือแล้ว ย่อมมีผลเป็นกุศลวิบาก เช่น มีคนช่วยเหลือ งานที่ตนทำ ครับ
เรียนถามเพิ่มเติมครับ หากดูที่เจตนาเป็นหลัก ถ้าเช่นนั้นกรณีทหาร ตำรวจ สังหารโจรผู้ร้าย โดยตั้งเจตนาหนักแน่นว่าเพื่อ"ปกป้อง"ผู้บริสุทธิ์ และทำตาม หน้าที่ ไม่มีใจยินดีในการฆ่าแม้แต่น้อย แบบนี้เจตนาเป็นกุศลจริง แต่การฆ่าคน (ถึงจะเป็นโจรผู้ร้ายก็ตาม) จะต้องรับวิบากกรรมเช่นใดครับ
หรืออีกกรณีหนึ่งบุคคลมีความเห็นว่าชีวิตเป็นทุกข์ ปรารถนาต้องการให้เพื่อน มนุษย์ทั้งหลายพ้นทุกข์ (เจตนาดี) ด้วยการก่อการร้าย ฆ่าสังหารเพื่อนมนุษย์ แบบนี้จักรับผลแห่งวิบากกรรมเช่นไรครับ
ถ้าเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคงป็นเรื่องสงคราม ต่างฝ่ายต่างก็เชื่อว่าตนทำเพื่อ สันติภาพ อีกฝ่ายเป็นผู้ร้าย (เจตนาดีทั้งสองฝ่าย แต่ความเห็นไม่ตรงกัน) จนนำ ไปสู่การสู้รบล้างผลาญกัน แบบนี้จักรับผลแห่งวิบากกรรมเช่นไร
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่ามีเจตนาดีกันทั้งนั้น ไม่มีความเห็นแก่ตัว ทำไปเพื่ออุทิศแด่สังคม แด่ผู้อื่น แต่การกระทำนั้นเป็นการ "ฆ่าคน" แบบนี้จัด เป็นกรรมดี หรือกรรมชั่วครับ
ขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่ร่วมสนทนา และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
เรียน ความเห็นที่ 4 ครับ
ต้องแยกระหว่างจิตที่เกิดดับ สลับกันอย่างรวดเร็ว ครับ ขณะที่ต้องการให้แต่ละคน มีความสุข สงบสุข เป็นกุศลจิตขณะหนึ่งดับไปแล้ว แต่ ขณะที่คิดจะฆ่า กำลังฆ่า ไม่ ว่าจะเป็นทหารหรือ ใคร ขณะนั้นเป็นเจตนาที่ไม่ดี เป็นบาป ครับ เพราะฉะนั้น จะต้อง แยกระหว่างจิตที่เกิดกันคนละขณะกัน ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
"กุศลเป็นกุศล อกุศลก็เป็นอกุศลไม่เกิดร่วมกัน"
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.ผเดิมและทุกๆ ท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สภาพธรรมเป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ความ ช่วยเหลือ จะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะมีกุศลเกิดขึ้นเป็นไป มีสติเกิดขึ้นระลึกเป็นไปในกุศล ประการนั้นๆ จึงช่วยเหลือ ความช่วยเหลือ เป็นความตั้งใจที่ดี แต่ก็เป็นธรรมดา ที่บุคคลผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ที่มีควมหวั่นไหวไปด้วยอำนาจของอกุศลได้ เมื่อไม่สามารถ ที่จะช่วยเหลือได้อย่างที่ตนเองตั้งใจเอาไว้ จึงมีข้อที่น่าพิจารณาว่า สัตว์โลกมีกรรม เป็นของของตน ถ้ามีความเข้าใจถูกเห็นถูกอย่างนี้ ก็จะเป็นเหตุให้มีความเป็นกลาง ไม่เอนเอียงไปด้วยอำนาจของอกุศลธรรมได้ อันเกิดจากการที่มีปัญญาเข้าใจถูกเห็น ถูกนั่นเอง เพราะการสอนให้เศร้าโศกเสียใจ ไม่มีในคำสอนทางพระพุทธศาสนา และที่สำคัญ การเดินทางในสังสารวัฏฏ์ยังอีกยาวไกล ถ้าไม่มีการได้ช่วยเหลือเกื้อกูล ซึ่งกันและกัน ไม่มีการขัดเกลากิเลสของตนเองเลย แล้วจะเป็นผู้ดำเนินไปถึงซึ่งการ ดับกิเลสได้อย่างไร ก็ควรที่จะได้ช่วยเหลือ เท่าที่จะเป็นไปได้ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
เห็นแจ้งแล้วครับ จิตคนเรามีการเกิด-ดับ อยู่ทุกขณะ
ขออนุโมทนา
กุศล และ อกุศลแยกกันอยู่แล้ว เกิดพร้อมกันไม่ได้ เปรียบเหมือนฟ้ากับดิน และ เส้นขนาน เพราะฉะนั้นขณะที่เมตตาเกิด ปล่อยปลาให้ชีวิตเขา ขณะนั้นเป็นกุศล ถ้าปลาจะถูกจับ ก็เป็นกรรมของปลาเอง ไม่เกี่ยวกับเรา ค่ะ
การเริ่มต้นทำอะไรก็ตาม ต้องมีความเข้าใจใน สิ่งๆ นั้นเป็นพื้นฐาน ไม่ว่าทาง โลกหรือทางธรรม ขอแนะนำ คุณชะอมทอดกรอบ ให้ลอง download หนังสือพระ อภิธรรมในชีวิตประจำวัน ไปอ่านดูครับ อ่านไปเรื่อยๆ วันละหน้าสองหน้าก็ได้ครับ เพราะการศึกษาธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดง ไม่ใช่การคิดเอาเอง และต้องเริ่มต้นด้วยปัญญา คือความเข้าใจครับ
link ไปหาหนังสือครับ
ขออนุโมทนา