ตอนบวชเคยเข้าใจผิดเรื่องน้ำปานะ
ตอนบวชเข้าผิดว่า นมและนมถั่วเหลืองคือน้ำปานะ และฉันตอนเย็นเพราะหิว และ มีคนบอกว่าเป็นน้ำปานะ อย่างนี้จะบาปมากมั้ยครับ! และจะแก้ไขอย่างไร จะปลงอาบัติก็ไม่ได้แล้วเพราะสึกมานานแล้วครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สำหรับผู้ที่สึกมาแล้ว อาบัติที่เคยทำและติดตัวอยู่ ย่อมไม่เป็นติดตัวมาและไม่เป็นบาปสำหรับเพศคฤหัสถ์เลย และไม่เป็นเครื่องกั้นสวรรค์และพระนิพพาน แต่หากว่าจะกลับไปบวชเป็นพระอีก หากกลับไปบวชแล้วอาบัติที่เคยได้ทำมาย่อมกลับคืนมาได้ และจะต้องปลงอาบัติให้เหมาะสม ตามอาบัติในแต่ละข้อที่ได้ล่วง ครับ
ดังนั้น เมื่อป็นเพศคฤหัสถ์แล้วก็ไม่มีบาปจากการล่วงอาบัติ เมื่อเป็นเพศบรรพชิต ก็ไม่ต้องปลงอาบัติ หน้าที่สำคัญสำหรับคฤหัสถ์ คือ ทำหน้าที่ให้สมควรตามเพศ มีการเลี้ยงดูบิดา มารดา บุตร ภรรยา และทำหน้าที่ให้เหมาะสมตามบทบาทของตนเอง และสำคัญที่สุดก็เจริญอบรมปัญญา และศึกษาพระธรรม ไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกๆ ประการ ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
ถ้ากลับไปบวชเณร จะได้หรือเปล่าแล้วยังมีความผิดติดตัวอีกหรือเปล่าครับ
เรียน ความเห็นที่ 2 ครับ
กลับมาบวชเป็นเณรได้ครับ และ ไม่มีอาบัติติดตัวครั้งที่เคยต้องอาบัติจากความเป็นพระมา ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตราบใดที่ยังไม่ได้ศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจอย่างถูกต้องจริงๆ ก็เป็นธรรมดา ที่จะทำให้มีการกระทำที่ผิด ที่ไม่ตรงตามพระธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ทรงบัญญัติไว้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แต่ถ้าได้ศึกษาให้เข้าใจแล้ว ก็จะต้องกระทำให้ถูกต้องด้วย ไม่ใช่ว่าจะต้องทำผิดต่อไป
สำหรับผู้ที่บวชแล้วลาสิกขาออกมาเป็นคฤหัสถ์ ก็ควรที่จะได้เป็นคฤหัสถ์ที่่ดี ทำหน้าที่ของตนๆ ให้ดีที่สุด ด้วยการเป็นคนดี และ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เพราะขณะนี้เป็นคฤหัสถ์ ไม่ ใช่บรรพชิต ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องเกื้อกูลชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กรรมที่ทำสำเร็จไปแล้ว แก้ไขไม่ได้ สึกมาแล้วก็ไม่มีโทษ ไม่มีอาบัติ ถ้าเป็นพระภิกษุอยู่ อาบัติเป็นเครื่องกั้น มรรค ผล นิพพาน แต่เมื่อสึกออกมาแล้ว ไม่มีอาบัติ ไม่เป็นเครื่องกั้นสวรรค์และนิพพาน เป็นคฤหัสถ์ศึกษาธรรม เจริญกุศล อบรมปัญญาได้ เหตุปัจจัยพร้อมก็บรรลุได้ ค่ะ