ทรงปราถนาพุทธภูมิครั้งแรก
เจริญพร พอดีอาตมามีข้อสงสัยในเรื่องที่พระพุทธองค์ทรงปราถนาพุทธภูมิครั้งแรก ในหนังสือมุนีนาถทีปนี ท่านรจนาว่า ในสมัยหนึ่งพระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นมาณพเข็ญใจ ได้พามารดาตาบอดว่ายน้ำข้ามทะเล และตอนที่กำลังจะจมลงไปนั้น พรหมได้บันดาลจิตมาณพนั้นให้ปราถนาในพุทธภูมิ นั้นจึงเป็นการปราถนาพุทธภูมิครั้งแรก (ซึ่งผู้รจนาหนังสือเล่มนี้ ผลงานของท่านหลายเล่มเอาข้อมูลมาจากพระไตรปิฎกฉบับบาลี แต่ส่วนนี้ไม่ได้มีการอ้างอิงว่าเอาจากไหน) แต่ในพระไตรปิฎกฉบับภาษาไทย ทั้งฉบับ ๔๕ เล่ม และฉบับ ๙๑ เล่มกล่าวไว้ว่า ในสมัยหนึ่งพระองค์ได้ทรงเห็นภิกษุผู้อยู่ป่าเป็นวัตรรูปหนึ่ง ได้ถวายผ้าเก่าจึงได้ปราถนาพุทธภูมิครั้งแรก ส่วนในอรรถกถาไม่ได้กล่าวถึงในส่วนนี้เลย หรืออาจจะมีกล่าวไว้ในส่วนอีกหรือเปล่าไม่ทราบแน่ชัด เพราะอาตมาไม่ได้ค้นโดยละ เอียด เพราะค้นตรงเฉพาะส่วนนี้ (กำลังเริ่มต้นศึกษา) เพราะจะนำข้อมูลที่ได้ไปเขียนงานพุทธศิลป์ จึงค้นในเฉพาะส่วนที่จะเขียนงาน ขอความอนุเคราะห์จากกัลยาณมิตร ผู้ได้ศึกษามาก่อนแล้วช่วยไขข้อสงสัยให้ด้วย เจริญพร
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ ครับ
จากเรื่องที่ช่วยมารดาข้ามหาสมุทร และ ปรารถนาพุทธภูมิ ไม่มีในคำที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง มีแต่ข้อความดังนี้ ตามที่ได้อ่านมาก็มีเท่านี้ ครับ
[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้าที่ 873
๑พุทธาปทานชื่อปุพพกัมมปิโลติที่ ๑๐ (๓๙๐)
ว่าด้วยบุพจริยาของพระพุทธองค์
[๓๙๒] พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นนายกของโลก แวดล้อมด้วย ภิกษุสงฆ์เป็นอันมาก ประทับนั่งอยู่ที่พื้นหินอันเป็นรัมณียสถาน โชติช่วงด้วยแก้วต่างๆ ในละแวดป่าอันมีกลิ่นหอมต่างๆ ใกล้สระอโนดาต ตรัสชี้แจงบุรพกรรมทั้งหลายของพระองค์ ณ ที่นั้นว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงพึงกรรมที่เราทำแล้วของเรา เราเห็นภิกษุผู้ถือการอยู่ป่าวัตรรูปหนึ่งแล้วได้ถวายผ้าเก่า เราปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้าในกาลนั้น ผลแห่งกรรม คือ การถวายผ้าเก่า ย่อมอำนวยผลให้เป็นพระพุทธเจ้า
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ ครับ
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นบุคคลผู้เลิศ ผู้ประเสริฐที่สุดในโลก กว่าที่พระ องค์จะได้ตรัสรู้นั้น ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอดระยะเวลา สี่อสงไขยแสนกัปป์ ซึ่งเป็นเวลาที่นานมาก เมื่อได้ทรงตรัสรู้แล้ว ก็ทรงมีพระมหากรุณาที่จะเกื้อกูลสัตว์โลกด้วยการทรงแสดงพระธรรมให้ได้เข้า ใจความจริง พระมหากรุณาคุณของพระองค์ที่มีต่อสัตว์โลก คือ ทรงแสดงพระธรรมให้สัตว์โลกได้เข้าใจตามความเป็นจริง จากที่สัตว์โลกเคยเป็นผู้มากไปด้วยกิเลสประการต่างๆ ก็สามารถที่จะดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้น ด้วยปัญญาอันเกิดจากการได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง
ถ้าไม่มีบุคคลผู้เสียสละอย่างไม่มีใครเสมอเหมือนอย่างนี้ สัตว์โลกก็ย่อมจะไม่มีทางหลุดพ้นจากความมืดมิดด้วยกิเลส มีอวิชชา เป็นต้นไป ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่ง ที่จะได้มีความเพียร มีความอดทน เห็นประโยชน์ ที่จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง สะสมความเข้า ใจถูกเห็นถูก เป็นปัญญาของตนเองต่อไป ครับ
..ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
การปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ตั้งแต่คิดในใจ เจ็ดอสงไขย เปล่งออกมาเป็นคำพูดเก้าอสงไขยและกระทำทางกาย สี่อสงไขย ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ผู้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ก็ต้องเป็นผู้มีความเพรียร มีความอดทน มีปัญญามาก ไม่ปรารถด้วยความอยากของตนแน่นอน แต่เพื่อประโยชน์ของผู้อื่น ใช่ไหมครับ
ขออนุโมทนา