เราไม่อาจปลดเปลื้องใครๆ

 
pirmsombat
วันที่  10 ก.พ. 2556
หมายเลข  22465
อ่าน  1,021

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส เล่ม ๖ - หน้าที่ 170

[๒๑๘] ดูก่อนโธตกะ เราไม่อาจปลดเปลื้องใครๆ ที่มีความ

สงสัยในโลกนี้ได้ ก็แต่ท่านเมื่อมารู้ธรรมอันประเสริฐ

พึงข้ามโอฆะนี้ได้ด้วยความรู้อย่างนี้.

[๒๑๙] คำว่า เราไม่อาจปลดเปลื้อง ความว่า เราไม่อาจปลด

เปลื้อง แก้ ปล่อย ถอนขึ้น ฉุดชักท่านให้ออกจากลูกศร คือความ

สงสัยได้ แม้ด้วยเหตุอย่างนี้ ดังนี้ จึงชื่อว่า เราไม่อาจปลดเปลื้อง.

อีกอย่างหนึ่ง เราไม่อาจ ไม่สามารถ ไม่อุตสาหะ ไม่พยายาม

ไม่กระทำความหมั่น ไม่กระทำความเป็นผู้มีความหมั่น ไม่กระทำเรี่ยว

แรง ไม่ทำความทรงจำ ไม่ทำความเพียร ไม่ยังฉันทะให้เกิด ให้เกิด-

พร้อม ให้บังเกิด ให้บังเกิดเฉพาะ เพื่อจะแสดงธรรมกะบุคคลผู้ไม่มี

ศรัทธา ไม่มีฉันทะ ผู้เกียจคร้าน มีความเพียรเลว ไม่ปฏิบัติตาม แม้

ด้วยเหตุอย่างนี้ ดังนี้ จึงชื่อว่า เราไม่อาจปลดเปลื้อง.

อีกอย่างหนึ่ง ถ้าบุคคลนั้นพึงปลดเปลื้องได้ ก็ไม่ต้องมีใครๆ อื่น

ช่วยปลดเปลื้อง บุคคลทั้งหลายเป็นผู้ปฏิบัติปฏิปทาอันชอบ ปฏิปทา

สมควร ปฏิปทาอันเป็นไปตามประโยชน์ ปฏิบัติธรรมอันสมควรแก่ธรรม

ด้วยเรี่ยวแรง กำลัง ความเพียร ความบากบั่น ของตน ด้วยเรี่ยวแรง

ของบุรุษ ด้วยกำลังของบุรุษ ด้วยความเพียรของบุรุษ ด้วยความบากบั่น

ของบุรุษ อันเป็นส่วนของตนเอง พึงปลดเปลื้องได้ แม้ด้วยเหตุอย่างนี้

ดังนี้ จึงชื่อว่า เราไม่อาจปลดเปลื้อง.

สมจริงตามพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ดูก่อนจุนทะ

บุคคลนั้นหนอ เป็นผู้ติดหล่มอยู่ด้วยตน จักถอนขึ้นซึ่งบุคคลอื่นผู้ติด

หล่มได้ ข้อนี้ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้ ดูก่อนจุนทะ บุคคลนั้นหนอ ไม่ได้

ฝึก ไม่ได้ถูกแนะนำ ไม่ดับรอบแล้วด้วยตนเอง จักฝึกจักแนะนำให้บุคคล

อื่นให้ดับรอบได้ ข้อนี้ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้ แม้ด้วยเหตุอย่างนี้ ดังนี้

จึงชื่อว่า เราไม่อาจปลดเปลื้องได้.

สมจริงตามพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า

กรรมชั่วอันบุคคลทำด้วยตนเองแล้ว จักเศร้าหมอง

ด้วยตนเอง กรรมชั่วอันบุคคลไม่ทำด้วยตนเองแล้ว ย่อม

บริสุทธิ์ด้วยตนเอง ความบริสุทธิ์ ความไม่บริสุทธิ์เฉพาะ

ตน ผู้อื่นจะช่วยชำระผู้อื่นให้บริสุทธิ์หาได้ไม่.

แม้ด้วยเหตุอย่างนี้ จึงชื่อว่า เราไม่อาจปลดเปลื้อง.

สมจริงตามพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ดูก่อนพราหมณ์

นิพพานก็ตั้งอยู่อย่างนั้นแหละ หนทางนิพพานก็ตั้งอยู่ เราผู้แนะนำก็ตั้ง

อยู่ ก็เมื่อเป็นอย่างนี้ สาวกทั้งหลายของเรา เราก็ตักเตือนอย่างนี้ พร่ำ

สอนอย่างนี้ บางพวกบรรลุนิพพานอันมีความสำเร็จส่วนเดียว บางพวก

ก็ไม่บรรลุ ดูก่อนพราหมณ์ ในเรื่องนี้ เราจะทำอย่างไรได้ ดูก่อน

พราหมณ์ ตถาคตเป็นแต่ผู้บอกทาง ใครถามทางแล้วก็บอกให้

บุคคลทั้งหลายปฏิบัติอยู่ด้วยตน พึงพ้นได้เอง

ม้ด้วยเหตุอย่างนี้ จึงชื่อว่า

เราไม่อาจปลดเปลื้อง.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 11 ก.พ. 2556

กรรมชั่วอันบุคคลทำด้วยตนเองแล้ว จักเศร้าหมองด้วยตนเอง

กรรมชั่วอันบุคคลไม่ทำด้วยตนเองแล้ว ย่อมบริสุทธิ์ด้วยตนเอง

ความบริสุทธิ์ ความไม่บริสุทธิ์เฉพาะตน

ผู้อื่นจะช่วยชำระผู้อื่นให้บริสุทธิ์หาได้ไม่

....................

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณหมอมากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
j.jim
วันที่ 11 ก.พ. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 11 ก.พ. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pirmsombat
วันที่ 11 ก.พ. 2556

ขอบพระคุณและอนุโมทนาคุณผู้ร่วมเดินทางและทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เข้าใจ
วันที่ 11 ก.พ. 2556

ขอบพระคุณ และกราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
natural
วันที่ 12 ก.พ. 2556

ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nong
วันที่ 13 ก.พ. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
jaturong
วันที่ 13 ก.พ. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ตุ้ย
วันที่ 15 ก.พ. 2556

อัตตหิ อัตตโนนาโถ

พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้บอกทาง ส่วนหมู่สัตว์ทั้งหลายต้องไปเอง ผู้ไปก็ต้องเดินตามทางไปตามที่พระองค์บอก ใครเดินถูกทางก็มีสิทธิ์ ใครไม่เดินหรือเดินทางผิดก็ไม่มีสิทธิ์

ขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ