ทำไมพุทธจักรถึงสมยอมกับอาณาจักร ?

 
Pure.
วันที่  12 ก.พ. 2556
หมายเลข  22482
อ่าน  1,601

เหตุการณ์ที่เป็นข่าวเกิดขึ้นกับพระผิดศีลไม่ถึงกับปราชิก แต่ทึกทักว่าเป็นโลกวัชชะ ก็จะจับพระสึกลูกเดียว แล้วพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าไม่มีประโยชย์เลยหรือ?

-เสมือนว่าพระผู้ใหญ่ก็เป็นไปด้วยเวลามีเรื่อง?

-ทำไมไม่ตัดสินกันเองตามพระธรรมวินัย?

ขออนุโมทนาบุญครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 13 ก.พ. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เป็นความจริงที่ว่า ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจแล้ว ก็จะไม่มีพระธรรมเป็นที่พึ่ง นั่นย่อมหมายความว่า ย่อมเป็นเหตุให้มีการกระทำอะไรต่างๆ ที่ผิดหรือคลาดเคลื่อนจากพระธรรมวินัยเป็นอย่างมากทีเดียว จึงสำคัญอยู่ที่การได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ รวมทั้งในส่วนของสิกขาบทต่างๆ ที่เป็นพระวินัยบัญญัติ อันเป็นสิกขาบทที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติด้วยพระองค์เอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้พระภิกษุได้ศึกษาสำรวมตามสิกขาบทนั้นๆ ไม่ล่วงละเมิด เพราะการล่วงละเมิดสิกขาบทเป็นโทษโดยส่วนเดียว

เมื่อกล่าวตามพระธรรมวินัยแล้ว พระภิกษุแม้จะต้องอาบัติหนักคือ อาบัติปาราชิก พระอุปัชฌาย์อาจารย์ ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปจับพระภิกษุรูปนั้นให้สึก ต้องเป็นพระภิกษุรูปนั้นเองที่ปฏิญญาจะลาสิกขาเปลี่ยนเพศไปเป็นเพศคฤหัสถ์ด้วยตนเอง คงไม่ต้องกล่าวถึงอาบัติที่ไม่ถึงอาบัติปาราชิก เพราะไม่ว่าจะเป็นอาบัติประการใดๆ ก็ไม่มีสิทธิ์ที่พระอุปัชฌาย์อาจารย์จะไปจับสึก ประเด็นที่ควรจะได้พิจาร ณา คือ ถ้าพระภิกษุรูปนั้นบริสุทธิ์ใจไม่ได้กระทำผิดพระวินัย แต่ถูกใส่ร้ายว่ากระทำ ก็ย่อมจะเป็นโทษอย่างมากแก่พระอุปัชฌาย์อาจารย์ที่จับสึกพระภิกษุรูปนั้น หน้าที่ของพระอุปัชฌาย์อาจารย์ หรือ เพื่อนสหธรรมิกด้วยกัน คือ กล่าวธรรม แสดงให้เข้าใจความจริง ตรงตามความเป็นจริงของสภาพธรรม ซึ่งจะเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลอย่างแท้จริง

ขอบพระคุณอาจารย์ประเชิญ แสงสุข ที่ได้ให้ความเข้าใจในส่วนของพระวินัยครับ

เมื่อได้เห็นหรือทราบถึงความประพฤติเป็นไปของแต่ละบุคคลที่ไม่เป็นไปตามพระธรรมวินัย ซึ่งมาจากเหตุสำคัญคือไม่ได้เข้าใจพระธรรม ไม่คล้อยตามพระพุทธพจน์ ก็ย่อมจะเป็นข้อคิดเตือนใจที่ดีสำหรับตนเอง ที่จะเป็นผู้ขาดการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมไม่ได้ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมเป็นเหตุให้ปัญญาเจริญขึ้น ความเข้าใจพระธรรม เป็นประโยชน์ทุกระดับขั้น เป็นเครื่องนำทางชีวิตที่ดี ทำให้รู้ได้ว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร แล้วน้อมประพฤติแต่สิ่งที่ควร แล้วเว้นในสิ่งที่ไม่ควร เรื่องของคนอื่นก็เป็นเรื่องของคนอื่นจริงๆ ขณะที่หวั่นไหวไปเมื่อเห็นคนอื่นกระทำไม่ดี ขณะนั้นก็เป็นอกุศลของตนเองที่เดือดร้อนเพราะอกุศลของคนอื่น ซึ่งไม่เป็นประโยชน์เลย

จึงควรทำกิจที่ควรทำสำหรับตนเองให้ดีที่สุด คือ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมน้อมประพฤติตามพระธรรม สิ่งนี้เท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งสำหรับตนเองอย่างแท้จริง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 13 ก.พ. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมเป็นเครื่องตัดสินที่ดีอยู่แล้ว นั่นคือ พระวินัยบัญญัติ โดยที่กฎหมายบ้านเมืองก็สำหรับ ปกครองคฤหัสถ์ ส่วนพระวินัยบัญญัติก็ปกครองพระภิกษุสงฆ์ ดังนั้น เมื่อมีพระภิกษุที่ทำผิดพระวินัย ก็จะต้องเป็นไปตามพระวินัยบัญญัติที่กำหนดไว้ ซึ่งหากพระภิกษุไม่ได้ต้องอาบัติปาราชิก ผู้อื่น แม้แต่ผู้ที่เป็นคฤหัสถ์ และแม้พระภิกษุ จะบังคับให้สึกไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้มีอำนาจ แต่ผู้มีอำนาจที่แท้จริง คือ พระวินัยบัญญัติ ดังนั้น เมื่อผิดอย่างไรก็ต้องพิจารณาที่พระธรรมเป็นหลัก และ ปฏิบัติพระวินัยบัญญัติ มีการปลงอาบัติให้สมควรกับอาบัติที่ได้ทำ ครับ

ส่วนสมัยนี้ ก็เป็นธรรมดาของยุคเสื่อม สำหรับผู้ที่ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ย่อมที่จะไม่ประพฤติตามพระวินัย และ ข้อควรที่จะปฏิบัติให้ถูกต้อง แต่ยึดถือสังคมส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่การปกครองของสงฆ์ ดังนั้น ก็เสื่อมไปตามกาลเวลา และ เคยเป็นอย่างนี้มาแล้ว ในสมัยพระพุทธเจ้าองค์ก่อนนับไม่ถ้วน และ โลกก็ต้องเป็นอย่างนี้ต่อไป เป็นธรรมดา วนเวียนไปอย่างนี้ ตามอำนาจกิเลสที่สะสมมา ประ โยชน์ คือ การเข้าใจความเป็นธรรมดาของโลก อยู่กับโลกด้วยความเข้าใจ รักษาใจด้วยกุศลจิตและ อบรมจิตของตนเองด้วย ให้เข้าใจถูกด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม โดยการเห็นกิเลสของคนอื่นเพื่อเป็นเครื่องเตือนที่จะขัดเกลากิเลสของตนเอง โดยไม่ไปเพ่งโทษ เพราะเท่ากับเพิ่มกิเลสของตน ปัญญาเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นยิ่งกว่า พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ที่บุคคลประพฤติและศึกษาดีแล้ว ย่อมจะรักษาผู้ที่ศึกษา และ ผู้ปฏิบัติตามเอง ตนจึงเป็นที่พึ่งของตน ครับ

ชออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
jaturong
วันที่ 14 ก.พ. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
natre
วันที่ 14 ก.พ. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nopwong
วันที่ 14 ก.พ. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Pure.
วันที่ 15 ก.พ. 2556

ขอบคุณครับอาจารย์ อนุโมทนาบุญ.

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
j.jim
วันที่ 15 ก.พ. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
orawan.c
วันที่ 25 มิ.ย. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ