ศาลพระภูมิ กับ ประตูบ้าน
บ้านมือสองเป็นบ้านจัดสรรมีเนื้อที่จำกัด
1.ย้ายศาลพระภูมิไปตั้งที่ใหม่ ซึ่งที่ตั้งใหม่นั้นก่อนเคยเป็นที่เก็บน้ำก่อเป็นปูนฝังไว้ใต้ดินโผล่ขึ้นมาเหนือดินประมาณ 70 ซม. ตอนนี้ไม่ได้ใช้แล้ว ปิดทิ้งไว้ จะตั้งศาลใหม่บนถังเก็บน้ำได้หรือไม่ครับ ถ้าไม่ได้ควรทำอย่างไร จะตั้งคู่กันกับศาลตายาย (ตั้งใหม่)
2.ประตูทางเข้าบ้านตรงกับทางสามแพ่งแต่ไม่ตรงกับตัวบ้าน แต่ตรงกับประตูออกหลังบ้าน ควรทำอย่างไรครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็น ครับ
1.ย้ายศาลพระภูมิไปตั้งที่ใหม่ ซึ่งที่ตั้งใหม่นั้นก่อนเคยเป็นที่เก็บน้ำก่อเป็นปูนฝังไว้ใต้ดินโผล่ขึ้นมาเหนือดินประมาณ 70 ซม. ตอนนี้ไม่ได้ใช้แล้วปิดทิ้งไว้ จะตั้งศาลใหม่บนถังเก็บน้ำได้หรือไม่ครับ ถ้าไม่ได้ควรทำอย่างไร จะตั้งคู่กันกับศาลตายาย (ตั้งใหม่)
-สำหรับประเด็นเรื่องศาลพระภูมิก็ไม่ต้องกังวลใจ เพราะเหตุว่าเทวดาท่านมีที่อยู่ของท่านอยู่แล้ว มีวิมานที่เกิดเพราะบุญของท่าน ไม่ใช่ว่าเราจะสร้างศาลพระภูมิที่อยู่ให้ท่าน การที่จะบูชาเทวดาอย่างถูกต้องก็ด้วยการทำบุญ ทำความดีแล้วอุทิศไปให้เทวดาอนุโมทนา อย่างนี้ถึงจะสำเร็จประโยชน์
2.ประตูทางเข้าบ้านตรงกับทางสามแพ่งแต่ไม่ตรงกับตัวบ้าน แต่ตรงกับประตูออกหลังบ้าน ควรทำอย่างไรครับ
-ถ้ามีความมั่นคงในความเป็นจริง มั่นคงในเหตุและผล มั่นคงในกรรมและผลของกรรม อันมีเหตุมาจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็กระทำทุกอย่างตามปกติ เพราะไม่มีใครที่จะมาดลบันดาลให้เราได้ร้บสิ่งที่ดีที่น่าปรารถนา หรือไม่ดีไม่น่าปรารถนาได้ นอกจากเป็นผลของกรรมที่ตนเองได้กระทำไว้แล้วในอดีต เพราะฉะนั้น ก็จะทำให้มีความมั่นคงที่จะสะสมสิ่งที่ดี ละเว้นสิ่งที่ชั่วที่เป็นบาปอกุศลธรรม ทางสามแพร่งจะตรงกับตัวบ้านหรือประตูบ้าน ก็ไม่ใช่เหตุที่จะนำมาซึ่งความเดือดร้อนหรือสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ การได้รับผลที่ไม่ดีต้องมาจากเหตุที่ไม่ดี คือ อกุศลกรรมเท่านั้น และตามความเป็นจริงแล้ว บ้านเรือนที่พักอาศัย เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ก็เพื่อบำบัดความหนาว ความร้อน ป้องกันอันตรายจากสัตว์ร้ายต่างๆ เป็นต้น เพื่อให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้ เพื่อที่จะได้สะสมความดีและอบรมเจริญปัญญา ความเข้าใจพระธรรมก็จะคอยอุปการะเกื้อกูลให้กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง ดีงาม ดีทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ โดยไม่ไปหลงเชื่อในมงคลตื่นข่าวต่างๆ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ในความเป็นจริง เทวดาทั้งหลาย ที่เรียกกันว่าเจ้าที่เจ้าทาง ต่างก็มีวิมานของตนอยู่ ไม่ได้มาอยู่ในสถานที่เล็กๆ ดังเช่นศาลพระภูมิ ขอยกตัวอย่างในพระไตรปิฎก ในสมัยพุทธกาล ที่บ้านท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีก็มีเทวดาอาศัยอยู้ที่ซุ้มประตูบ้าน เป็นต้น แต่ มีอีกมิติหนึ่ง ที่เป็นวิมานอันเลิศ โดยอาศัยประตูบ้านเป็นที่อยู่ของวิมาน ดังนั้น เทวดาก็มีวิมานของตนตามสมควรอยู่แล้ว แต่หากจำเป็นที่จะต้องสร้าง ก็สามารถที่จะสร้างบนถังเก็บน้ำได้ เพราะ ไม่ใช่สถานที่ที่เหม็น เป็นต้นได้ เพียงแต่การสร้างศาลให้ถูกต้องนั้น ควรที่จะเป็นเครื่องที่จะระลึกถึงคุณความดีของเทวดา ที่ท่านทำกุศลจึงเกิดมาเป็นเทวดา และ การบูชาศาล คือ บูชาเทวดา ก็ด้วยการทำความดี และ อุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน เพราะการให้อาหารมนุษย์ เทวดาไม่ได้ทานอาหารมนุษย์ แต่มีอาหารทิพย์ของท่านอยู่แล้ว
และสิ่งที่จะต้องไม่ลืมในความมั่นคงในเรื่องกรรมและผลของกรรม คือ ไม่มีใครคุ้มครองใครได้ นอกจากกรรมของตนเองเท่านั้นที่จะคุ้มครองเกิดสิ่งดีๆ กับตน หรือ เกิดสิ่งที่ไม่ดีกับตน ไม่ใช่ใครทำ หรือปกป้องจากใคร กรรมที่ตนเองทำเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องป้องกัน โดยเฉพาะกรรมดี เมื่อให้ผล ย่อมคุ้มครองปลอดภัย แม้จะมีศาลและไม่มีศาลก็ตาม แต่หากกรรมไม่ดีให้ผล แม้จะมีสิ่งสมมติว่าจะคุ้มครองให้ปลอดภัย ก็ไม่ปลอดภัย เพราะไม่มีที่ไหนที่จะรอดพ้นจากผลของกรรมได้ เพราะฉะนั้น กรรมดีที่ทำจะเป็นธรรมที่คุ้มครองและเป็นประโยชน์กับผู้อื่น แม้แต่เทวดา ก็ต้องการกุศลที่บุคคลได้กระทำและอุทิศไปให้ ครับ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ไม่ว่าจะประตูตรงกับอะไรก็ไม่มีผลกับชีวิตได้ เพราะชีวิตไม่ได้ถูกกำหนดที่สิ่งที่เป็นรูปธรรม ที่สมมติขึ้นว่าเป็นประตู หน้าต่าง ทำเล สถานที่ แต่อยู่ที่กรรมดีของแต่ละคนที่ได้กระทำจะเป็นตัวกำหนดว่าชีวิตจะดี ก็เพราะความประพฤติทางกาย วาจา และใจ และ ชีวิตจะไม่ดี สำคัญที่ความประพฤติทางกาย วาจาและใจที่ทำไม่ดี
ดังนั้น ทางสามแพร่ง ที่ทำให้สัตว์โลกหลง และ ไม่เข้าใจถูกตามความเป็นจริง หลงไปในความเชื่อที่ผิด ทางสามแพร่งที่สำคัญ คือ วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย ที่เป็นทางสามแพร่ง ให้ไปไม่ถูกทาง ไม่สามารถจะเลือกหนทางใดหนทางหนึ่งได้เลยครับ และ เพราะมีเหตุมาจากความไม่รู้ อวิชชา จึงเป็นเหตุให้เกิดความลังเลสงสัย ไม่แน่ใจและความเชื่อที่ผิดประการต่างๆ ครับ
ส่วนทางประตูบ้านจะตรงกับทางอะไรก็ตาม ไม่สำคัญเท่ากับใจของเรา ที่ตรงหรือไม่ตรงต่อความเป็นจริงที่เป็นสัจจะ หากใจไม่ตรงด้วยอกุศล คือ ความเข้าใจผิดแล้ว แม้บ้านจะเป็นอย่างไร ถูกตามหลักหรือไม่ตามหลักโหราศาสตร์อย่างไรก็ตาม ใจที่ไม่ตรงด้วยอกุศล ก็นำพาไปสู่ความเสื่อม ความเสื่อม สิ่งที่ไม่ดี ความมีภัย ไม่ได้มาจากภายนอก มีลักษณะของบ้าน เป็นต้น แต่มาจากภัยภาย ใน คือ กิเลสที่เกิดขึ้นในจิตใจ ที่ใจไม่ตรงตามความเป็นจริง ใจที่เป็นอกุศลในขณะนั้น ครับ
สถานที่ที่ดี บ้านที่ดี จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมภายนอกที่เป็นรูปธรรม ที่สมมติว่าดี หรือ ไม่ดี แต่อยู่ที่ บ้านนั้น ประกอบด้วยนามธรรม คือ สัตว์ บุคคลที่มีจิตใจดี มีกุศลธรรมกุศลจิตเกิดมาก บ้านนั้น สถานที่นั้น ก็น่าอยู่ น่ารื่นรมย์ เพราะ น่าอยู่ เป็นบ้านที่ดี เพราะเกิดสิ่งดีๆ คือ กุศลจิตบ่อยๆ ในบุคคลที่อยู่ในบ้านหลังนั้น เพราะความสุขมาจากจิตที่ดี กุศลจิต จิตที่ไม่มีกิเลส ความไม่ดี มาจาก จิตที่ไม่ดี มาจากอกุศลจิต จิตที่มีกิเลสเป็นสำคัญ ครับ
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒- หน้าที่ 502
ข้อความบางตอนจาก รามเณยยกสูตร
ว่าด้วยภูมิสถานอันน่ารื่นรมย์
[๙๒๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ อยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี.
ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นแล้ว ทรงถวายบังคมแล้วประทับอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ประทับเรียบร้อยแล้ว ได้ตรัสถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า สถานที่เช่นไรหนอ เป็นภูมิสถานอันน่ารื่นรมย์.
[๙๒๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า
อารามอันวิจิตร ป่าอันวิจิตร สระโบกขรณีที่สร้างอย่างดี ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ อันแบ่งออก ๑๖ ครั้ง แห่งภูมิสถาน อันรื่นรมย์ของมนุษย์ พระอรหันต์ทั้งหลายอยู่ในที่ใด เป็นบ้านหรือป่าก็ตาม เป็นที่ลุ่มหรือที่ดอนก็ตาม ที่นั้นเป็นภูมิสถานอันน่ารื่นรมย์.
----------------------------------------------------
ดังนั้น ไม่ว่าบ้าน ทำเล สถานที่ จะเป็นอย่างไร จะมีหรือไม่มีศาลหรือไม่ กาย วาจาและใจของตนเองที่กำหนดชีวิตของตน เพราะสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน ดังนั้น ถ้าคิดจะปรับแก้ไขบ้าน แก้ไขทิศทางให้ดี ก็ควรจะปรับทิศทาง ทิศ คือ ใจของตน ให้เกิดกุศล เกิดปัญญา ความเห็นถูก ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ย่อมทำให้เกิดปัญญา ปัญญาจะเป็นเครื่องนำทางให้ดำเนินทางถูก ไม่ลังเลสงสัย ไม่เชื่อในสิ่งที่ผิด และ ข้ามพ้นทางสามแพร่ง คือ วิจิกิจฉา และ พ้นภัยที่แท้จริงที่นำมาซึ่งสิ่งที่ไม่ดี คือ พ้นภัยจากกิเลส ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
