การตั้งจิตอธิฐาน
เราได้ร่วมทำบุญสร้างพระกับเพื่อน แต่เราก็ไม่ได้ไปร่วมพิธีกับเขา แต่เพื่อนของเราโทรมาหาบอกว่าตอนนี้พระกำลังสวดมนต์ให้เราตั้งจิตอธิฐานขอให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และขอให้สุขภาพแข็งแรง แต่เราก็ไม่ได้อธิษฐานขออะไรเลย แต่เรากลับคิดว่า เราขอตั้งจิตตั้งใจใส่ใจในการทำงานให้ดีที่สุด หน้าที่การงานของเราก็จะดีไปเอง ส่วนสุขภาพนั้นถ้าเรารู้จักเคารพร่างกาย (ไม่ใช้อวัยวะของเรามากเกินไป คือใช้ให้พอดีพอควร) และก็บำรุงร่างกายให้ดี และออกกำลังกายบ้างเพื่อให้อวัยวะต่างๆ ได้ผ่อนคลาย ร่างกายของเราก็น่าจะแข็งแรงนะ แล้วแนวคิดทางพุทธศาสนาที่เกี่ยวกับการตั้งจิตอธิษฐานนั้นเป็นอย่างไรค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จากคำถามที่ว่า แล้วแนวคิดทางพุทธศาสนาที่เกี่ยวกับการตั้งจิตอธิฐานนั้นเป็นอย่างไรค่ะ
ก่อนอื่นก็เข้าใจคำว่า อธิษฐานในพระพทธศาสนาให้ถูกต้องก่อนครับ
ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง ตรง เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น คำว่า อธิษฐานในภาษาไทยที่เข้าใจกันนั้น หมายถึง การขอ แต่ตามหลักคำสอนในทางพระพุทธศาส นาแล้ว หมายถึง ความตั้งใจมั่น ซึ่งเป็นความตั้งใจมั่น ไม่หวั่นไหว ในการที่จะสะสมคุณความดีประการต่างๆ เพราะเห็นโทษของอกุศล และ เห็นคุณของกุศลธรรม ด้วยปัญญาที่ค่อยๆ เจริญขึ้นจากการฟัง การศึกษาพระธรรมในชีวิตประจำวัน เป็นเรื่องของกุศลทั้งหมด และ เป็นไปในการสละกิเลสทั้งสิ้น เพราะเหตุว่าจิตใจของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่นั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นอกุศลทั้งนั้น ถูกอกุศลกลุ้มรุมจิตใจอยู่เกือบจะตลอดเวลา เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ที่มีความตั้งใจมั่น ก็เป็นผู้ที่รู้ตัวว่ามีกิเลสมาก มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ที่ได้สะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ ซึ่งจะต้องอาศัยความตั้งใจมั่นจริงๆ ในการเจริญกุศลประการต่างๆ เพื่อขัดเกลากิเลส มิฉะนั้นแล้วก็พลาดให้กับอกุศลทุกที อธิษฐาน ซึ่งเป็นความตั้งใจมั่นในการเจริญกุศล จึงเป็นปัจจัยให้กุศลเกิดขึ้นและสำเร็จได้ เป็นบารมี (ความดี) ที่ควรอบรมเจริญให้มีขึ้นในชีวิตประจำวันแต่ถ้าเป็นขอ อยากได้ในเรื่องหนึ่งเรื่องใดนั้น เป็นอกุศลจิตที่ประกอบด้วยโลภะ ความติดข้องต้องการ ไม่ใช่อธิษฐานในพระพุทธศาสนา ครับ
และ จากคำกล่าวที่ว่า เราได้ร่วมทำบุญสร้างพระกับเพื่อน แต่เราก็ไม่ได้ไปร่วมพิธีกับเขา แต่เพื่อนของเราโทรมาหาบอกว่า ตอนนี้พระกำลังสวดมนต์ ให้เราตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และ ขอให้สุขภาพแข็งแรง แต่เราก็ไม่ได้อธิษฐานขออะไรเลย แต่เรากลับคิดว่า เราขอตั้งจิตตั้งใจใส่ใจในการทำงานให้ดีที่สุด หน้าที่การงานของเราก็จะดีไปเอง
การอธิษฐานจึงไม่ใช่การขอ แต่การขอ เป็นความตั้งใจ ที่เกิดจากโลภะที่เป็นอกุศลจิตที่อยากได้ในสิ่งที่ต้องการ จึงขอ ซึ่งในความเป็นจริง ในขณะที่พระกำลังสวดมนต์ สิ่งที่สำคัญ คือ ไม่ใช่การขอ แต่ คือ การตั้งใจฟังพระธรรมโดยเคารพ เพราะพระกำลังกล่าวคำที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เพราะประโยชน์ที่สำคัญ คือ กุศลจิตของบุคคลนั้น ไม่ได้อยู่ที่การจะได้รับสิ่งที่ดีอันเกิดจากการขอ เพราะ การจะได้สิ่งที่ปรารถนาตามต้องการ ไม่ได้อยู่ที่การขอ แต่อยู่ที่กุศลกรรม คือ ความดีที่ได้ทำมาให้ผล ดังนั้น แทนที่จะขอ ก็ทำความดีประการต่างๆ โดยไม่ต้องขอ เพราะทำกรรมดี ผลของกรรมย่อมมีเอง แม้จะขอ หรือ ไม่ขอเลย ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อธิษฐาน ในทางพระพุทธศาสนา เป็นความตั้งใจมั่นในทางที่เป็นกุศล ธรรมฝ่ายดี ที่เป็นกุศลธรรมในชีวิตประจำนั้น มีความละเอียดลึกซึ้งมาก ซึ่งเป็นธรรมที่เป็นไปเพื่อขัดเกลา ละคลายกิเลส เพราะถ้าจิตไม่ได้เป็นไปในทางที่เป็นกุศลแล้ว วันหนึ่งๆ ก็มีแต่จะเพิ่มพูนกิเลส เพิ่มพูนอกุศลให้มีมากขึ้น ดังนั้น ทั้งสัจจะความจริงใจในการที่จะฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญาและเจริญกุศลประการต่างๆ เพราะเห็นโทษของความไม่จริงใจ ทั้งการกระทำและคำพูด และ ทั้งอธิษฐาน คือ ความตั้งใจมั่นในการเจริญกุศล ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาและเจริญกุศลประการต่างๆ เพราะเห็นโทษของความไม่ตั้งมั่นในกุศลธรรม ไม่มีความมั่นคงในการเจริญกุศลประการต่างๆ ทั้งหมดจึงไม่พ้นไปจากสภาพจิตที่ดีงามในขณะนั้นที่เห็นโทษของอกุศล เห็นคุณประโยชน์ของกุศล พร้อมทั้งถอยกลับจากอกุศลและเพิ่มพูนกุศลให้ยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปเพื่อการขัดเกลาละคลายกิเลส จนกว่าจะถึงการดับได้อย่างหมดสิ้นในที่สุด
เมื่ออยู่กับผู้อื่น ธรรมที่ควรมี คือ ความเป็นมิตร ความมีเมตตา เกื้อกูล ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
เวลาพระสวดมนต์ ควรตั้งใจฟัง และ การทำบุญ ไม่ขอ ก็ได้ผล ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น "อธิษฐาน ในทางพระพุทธศาสนา เป็นความตั้งใจมั่นในทางที่เป็นกุศล" อธิษฐาน กับ ตั้งสัจจะกิริยา เหมือนหรือต่างกันแค่ไหนครับ
ขออนุโมทนา