ขออนุญาตเรียนถาม มรรคมีองค์แปด ไม่มีเจตนาเจตสิก

 
phawinee
วันที่  4 มี.ค. 2556
หมายเลข  22575
อ่าน  1,413

เนื่องด้วยว่าฟังธรรมบรรยายเทปวิทยุของท่านอาจารย์ ช่วงหนึ่งท่านอาจารย์กล่าวว่า "มรรคมีองค์แปด ไม่มีเจตนาเจตสิก.." ถ้าจำไม่ผิดอาจเป็นครั้งที่ 1683 ค่ะ และก็ไม่แน่ใจว่า ตัวเองฟังผิดหรือไม่ (จำผิด) .. จึงขออนุญาตเรียนถาม ท่านอาจารย์ขอความกรุณาช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยเถอะค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

ภาวินีย์ ประดิษฐธรรม์

สมาชิกชมรมบ้านธัมมะเลขที่ 417


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 4 มี.ค. 2556

ควรทราบว่า อริยมรรคมีองค์ ๘ คือ เจตสิก ๘ ประเภท ได้แก่

๑. ปัญญาเจตสิก (สัมมาทิฏฐิ)

๒. วิตกเจตสิก (สัมมาสังกัปปะ)

๓. สัมมาวาจาเจตสิก วิรตี

๔. สัมมากัมมันตเจตสิก วิรตี

๕. สัมมาอาชีวเจตสิก วิรตี

๖. วิริยเจตสิก (สัมมาวายามะ)

๗. สติเจตสิก (สัมมาสติ)

๘. เอกัคคตาเจตสิก (สัมมาสมาธิ)

ดังนั้น องค์มรรคทั้ง ๘ ประเภทข้างต้นไม่มีเจตนาเจตสิก แต่ว่า ทุกๆ ขณะที่จิตเกิดขึ้น มีเจตนาเจตสิก เกิดร่วมด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
phawinee
วันที่ 4 มี.ค. 2556

ขอบพระคุณท่านอาจารย์prachern.s ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
phawinee
วันที่ 4 มี.ค. 2556

ขอบพระคุณ และอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 4 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแดพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

หนทางเดียวและหนทางเดิมที่จะทำให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูก รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง คือ หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญา ซึ่งพระอริยบุคคลทั้งหลายในอดีตได้อบรมเจริญหนทางนี้มาแล้วด้วยกันทั้งนั้น ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nopwong
วันที่ 4 มี.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 4 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแดพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ในความละเอียดของคำอธิบายที่ว่า มรรคมีองค์แปดไม่มีเจตนาเจตสิก ความหมายคือ การเจริญอบรมปัญญา ไม่ได้หมายถึงจะต้องมีการที่จงใจตั้งใจที่จะพยายามที่จะให้รู้ ให้เกิดสติและปัญญา หรือ ว่าเป็นเรื่องที่จะทำด้วยความจงใจตั้งใจที่เป็นเจตนาเจตสิก แต่เป็นเรื่องการอบรมเจริญปัญญา ที่จะรู้ความจริงของสภาพธรรม โดยการไม่เจาะจง ไม่จงใจตั้งใจทำ ด้วยเจตนาเจตสิก แต่เมื่อปัญญาถึงพร้อม สติและปัญญาก็สามารถเกิดรู้ความจริงได้

แม้ไม่มีเจตนาจงใจที่จะทำ ดังนั้น มรรคมีองค์แปด จึงไม่มีเจตนาเจตสิกในองค์มรรคนั้น อันแสดงถึงความหมายว่า ไม่มีตัวตนที่จะพยายามเลย เป็นหน้าที่ของมรรคทั้งแปดองค์ คือ หนึ่ง มีปัญญา สัมมาทิฏฐิ ที่ทำหน้าที่รู้ความจริง มี วิตก ที่เป็นสัมมาสังกัปปะจรดในอารมณนั้น มีสัมมาสติ ที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม เป็นต้น โดยไม่มีตัวเราแทรกอยู่ที่จะจงใจตั้งใจทำ ไม่มีเจตนาเจตสิกในองค์แปดนี้ แม้จะมีเจตนาเจตสิกที่เกิดกับจิตทุกดวง แต่เจตนาเจตสิกที่เกิดกับกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาในขณะที่มรรคเกิดขึ้น ก็ไม่ได้เป็นการแสดงถึงให้มีการจงใจตั้งใจทำ แต่เป็นการทำหน้าที่ของธรรม เพราะฉะนั้น จึงสรุปได้ว่า เจตนาเจตสิกไม่มีในองค์แปด อันแสดงถึงไม่มีการจงใจ ตั้งใจด้วยตัวตน ที่จะเจริญปัญญา ที่จะพยายามรู้ความจริงด้วยความตั้งใจ หนทางที่ถูก คือ อบรมเหตุ คือการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้ถูกต้อง ปัญญาจะทำหน้าที่เอง โดยไม่มีความตั้งใจที่จะรู้ในมรรคมีองค์แปด ครับ นี่คือ ความละเอียดของพระธรรม ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง และ ท่านอาจารย์สุจินต์อธิบายไว้ ในเรื่องไม่มีเจตนาในมรรคมีองค์แปด

ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nong
วันที่ 5 มี.ค. 2556

ละเอียดมากค่ะ เข้าใจยาก คงต้องฟังและศึกษาต่อไปเรื่อยๆ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
sumek
วันที่ 5 มี.ค. 2556

สาธุๆ อนุโมทนาในคำถาม และคำตอบครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
phawinee
วันที่ 5 มี.ค. 2556

ขอบพระคุณท่านอาจารย์prachern.s, paderm, khampan.a และทุกๆ ท่านค่ะ ที่ช่วยอธิบายเพิ่มเติมขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
phawinee
วันที่ 6 มี.ค. 2556

อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
jaturong
วันที่ 7 มี.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
orawan.c
วันที่ 23 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
peem
วันที่ 23 มิ.ย. 2556

ขออนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
chatchai.k
วันที่ 26 มิ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ