การเสนอรายการบรรยายธรรมของท่านอาจารย์สุจินต์ให้เพื่อนๆ

 
ch.
วันที่  18 มี.ค. 2556
หมายเลข  22641
อ่าน  1,210

ผมได้ส่งเมล์ไปให้เพื่อนๆ ซึ่งเป็นคลิปรายการบรรยายทางวิทยุครั้งที่ 1701 และ 1702 ที่เป็นการตอบจดหมายของพุทธสาวกที่เขียนมาเนื้อหาว่า อ.สุจินต์สอนแต่ปริยัติ ไม่ได้สอนปฏิบัติ และ link ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่อาคารศูนย์ปฏิบัติการการบินไทย สุวรรณภูมิ 28 ก.พ.56 ซึ่งเป็นการตอบปัญหา ที่ถามว่าการปฏิบัติธรรมต้องไปนั่งสมาธิ เดินจงกรมใช่หรือไม่ ส่งให้เพื่อนๆ ได้ฟัง ได้อ่าน เจตนาจะให้เข้าใจในการศึกษาและปฏิบัติธรรมในแนวทางที่ถูกต้อง แต่มีการตอบกลับมาว่าให้ผมฟังรายการของอ.สุจินต์โดยไม่ต้องคิดจะไปปฏิบัติไปตลอดชีวิตเถิด

จึงขอทราบความเห็นจากเพื่อนสมาชิกว่าเคยมีประสบการณ์เช่นนี้บ้างไหมและควรปฏิบัติอย่างไรในกรณีนี้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 19 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเห็นถูกไม่ได้สาธารณะกับทุกคน คำพูดที่ดีย่อมเป็นคำพูดชั่วสำหรับผู้ที่ไม่ใฝ่ดี ไม่ใฝ่ในความเห็นถูก เพราะสะสมความเห็นผิดมาก็ได้ครับเป็นธรรมดา ซึ่งเป็นธรรมดาเลยกับที่บางครั้งก็ให้ธรรมกับบุคคลบางคนด้วยความหวังดี แต่บุคคลนั้นก็ไม่สนใจ หรือ จะต่อต้านในสิ่งนั้นก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น ที่เป็นไปได้หลากหลาย เพราะเหตุว่า การสะสมของแต่ละคนมาต่างกัน ต่างจิตต่างใจ เพราะผู้ที่ไม่ได้สะสมความเห็นถูก ก็ยังยึดในความเห็นผิด และสำคัญว่าเป็นสิ่งที่ถูก เมื่อได้ยินได้ฟังในสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ตนเองคิด ก็สำคัญว่าเป็นสิ่งที่ผิด เมื่อไหร่ก็ตามที่ความเห็นถูกเกิดขึ้นกับบุคคลนั้น ย่อมจะเห็นถูก และคิดถูกในสิ่งที่ได้ฟังครับ

ดังนั้นควรเข้าใจความจริงว่า ไม่มีใครเลย มีแต่สภาพธรรมที่เป็นไปในแต่ละขณะ ตามการสะสม อกุศลจิตเกิดเพราะสะสมมาที่จะเป็นอกุศล อกุศลก็ไม่ใช่ของเขาและของใคร เพราะเป็นแต่เพียงธรรมเป็นไป และที่ถามว่า ควรปฏิบัติอย่างไรในบุคคลเหล่านี้ หากไม่ลืมความเป็นอนัตตาของสภาพธรรม คือ เป็นธรรม และเมื่อเป็นธรรมไม่ใช่เรา และ ใครก็ไม่สามารถบังคับได้ แม้แต่ตัวเราเอง ก็ไม่สามารถที่จะห้ามอกุศลจิตที่เกิดจากเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน แม้เหตุการณ์นี้ไม่ให้เกิดก็ไม่ได้ เพราะมีเหตุปัจจัยที่จะต้องเกิด หนทางที่ควร และ ถูกต้อง คือ เข้าใจความจริงที่เกิดแล้วในขณะนั้น เมื่อทำในสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว คือ การมอบในสิ่งที่ถูกต้อง แต่อกุศลที่สมมติว่าเป็นของคนอื่นก็เกิดได้ เพราะสะสมมาไม่เหมือนกัน และ ที่สำคัญ ก็อกุศลจิตที่สมมติว่าเป็นของตนเองก็เกิดอีกเช่นกัน หนทางที่ถูก คือ เข้าใจความจริงในขณะนั้น ที่กำลังเกิดกับตนว่า คืออะไร เป็นเรา เป็นเขา หรือว่าเป็นธรรม การเข้าใจเช่นนี้ ประโยชน์สูงสุดคือ ไม่ได้แก้ผู้อื่น แต่แก้กิเลสของตนเอง ด้วยความเข้าใจถูก เริ่มจากประโยชน์ของตนเอง ด้วยการเข้าใจความจริง ดีกว่าเสียประโยชน์จากผู้อื่น เพราะไม่เข้าใจว่าเป็นแต่เพียงธรรมแต่ละขณะ แต่ละหนึ่ง ทั้งเขาและเรา ครับ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นธรรม

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ch.
วันที่ 19 มี.ค. 2556

ขอบคุณในความคิดเห็นของคุณ paderm ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 19 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น ประกอบด้วยเหตุและผล เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อการละคลายอกุศล เป็นไปเพื่อการดับกิเลส เป็นไปเพื่อการไม่เกิดอีก เป็นต้น บุคคลผู้ที่ไม่มีปัญญา ย่อมไม่เห็นประโยชน์ของพระธรรมที่มีคุณค่ามากนี้ พร้อมทั้งไม่เห็นประโยชน์ของกุศลธรรมทุกประการอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะมีผู้แนะนำในสิ่งที่ดีมีประโยชน์แก่เขาอย่างไรก็ตาม เขาย่อมไม่เห็นคุณค่าไม่เห็นประโยชน์ แต่ถ้าเป็นผู้สะสมมาดีแล้ว จะตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

เพราะฉะนั้น พระธรรมจึงเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ได้สะสมบุญมาแล้วตั้งแต่ชาติปางก่อนเท่านั้น ส่วนบุคคลผู้ที่ไม่ได้สะสมบุญมาย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากพระธรรม

การได้เข้าใจถูกเห็นถูก แล้วมีความหวังดีที่จะให้ผู้อื่นได้ฟังได้ศึกษาด้วย แล้วทำการเกื้อกูลแนะนำด้วยวิธีการต่างๆ ตามความถนัดตามความสามารถของตนเอง เหมือนอย่างท่านผู้ใช้นามว่า Ch.ได้กระทำอยู่นั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้าเราไม่บอก เราไม่แนะนำ เขาก็จะไม่มีโอกาสได้ฟังได้ศึกษาเลย ถ้าเขาสะสมเหตุที่ดีมา ก็ย่อมจะเป็นเหตุปัจจัยให้เขาได้ฟังได้ศึกษาต่อไปก็ได้ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าแต่ละคนสะสมอะไรมาบ้าง การเป็นกัลยาณมิตร มอบให้ในสิ่งที่ดีๆ ย่อมเป็นสิ่งที่ดี ควรค่าแก่การชื่นชมอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 19 มี.ค. 2556

ตามการสะสม ตราบใดที่เรายังเป็นปุถุชน ยังไม่ได้ละความเห็นผิด ความเห็นผิดและความเห็นถูกก็เกิดสลับกันได้ แม้ในครั้งพุทธกาล ได้พบพระพุทธเจ้าได้ฟังธรรม มีความเห็นถูก พอกลับไปลัทธิเดิมก็มีความเห็นผิดอีก ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nopwong
วันที่ 19 มี.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เซจาน้อย
วันที่ 19 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"ไม่ควรห่วงกังวลกับอกุศลจิตของคนอื่น จิตขณะนั้นของตนเองเป็นอะไร"

อุเบกขา

ควรพิจารณาสภาพธรรมที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาได้ "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรม ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม"

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.ผเดิม อ.คำปั่นและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 19 มี.ค. 2556

เมื่อเข้าใจขึ้นย่อมทราบว่า ธรรมที่ทรงตรัสรู้และทรงแสดงเป็นความจริง ต่างกับที่เคยคิดว่าจริง และ ที่เคยคิดว่ายาก ว่ายากยิ่งกว่าที่เคยคิดไว้มากนัก และ เมื่อเริ่มเข้าใจขึ้น ย่อมยิ่งซาบซึ้งในพระมหากรุณาคุณ พระปัญญาคุณ และ พระบริสุทธิคุณของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และ เริ่มเข้าใจถึงคุณอันยิ่ง ที่รู้ว่า ต้องเป็นผู้ที่ได้เคยสะสมความเข้าใจมาก่อนในอดีต แน่นอน หรือที่ท่านกล่าวบ่อยๆ ว่า เป็นผู้ที่เคยได้สั่งสมบุญไว้แต่ปางก่อน นั่นเอง จึงได้แสวงหาหนทางที่เคยสะสมความเห็นถูกนี้ จนพบ และ ย่อมเป็นผู้ที่มั่นคงขึ้น ในการสะสมความเข้าใจในพระธรรม คือ ความเข้าใจความจริง ของสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ต่อไปอีก ด้วยความอาจหาญ ร่าเริง

ความเป็นมิตรที่เกื้อกูลต่อบุคคลอื่นเป็นสิ่งที่ควรแก่การอนุโมทนา ตราบที่การกระทำนั้น ไม่เป็นไปด้วยความติดข้อง ต้องการ และ เป็นไปตามควรแก่กาล ซึ่งจะเป็นผู้ที่รู้ได้ด้วยตน เมื่อกาลเวลาผ่านไป

ขออนุโมทนาในกุศลจิต และ กุศลศรัทธานะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
daris
วันที่ 20 มี.ค. 2556

กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Patikul
วันที่ 21 มี.ค. 2556

ปุถุชนไม่ฟังสิ่งที่ควรรู้

คนพาลไม่ฟังสิ่งที่ควรรู้

ปุถุชนผู้ที่อบรมเจริญปัญญาจึงไม่ใช่ไปรู้อย่างอื่น แต่สิ่งที่ควรรู้คือสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏเป็น สิ่งที่ควรรู้ยิ่ง

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
mild
วันที่ 22 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ไกลจากกิเลส

ธรรมมะเป็นธรรมมะ เปลี่ยนไม่ได้ บังคับไม่ได้ ใครก็เปลี่ยนใครไม่ได้ เป็นไปตามการสะสม ล้วมีการตอบกลับมาว่าให้ผมฟังรายการของอ.สุจินต์โดยไม่ต้องคิดจะไปปฏิบัติไปตลอดชีวิตเถิด เขามีความไม่รู้เป็นปัจจัยจึงตอบเช่นนี้ แล้วจิตของเราขณะที่รับการตอบกลับล่ะ เป็นเช่นไร ก็สะท้อนได้ถึงการสะสมของเราเช่นกันว่าสะสมอะไรมาบ้าง

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
jaturong
วันที่ 22 มี.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
charuntae
วันที่ 23 มี.ค. 2556

คุณทำดีแล้วครับ หากคุณฟังธรรมแล้วเข้าใจโดยไม่สงสัยซึ่งก็ต้องสะสมและยาวนาน คุณมาถูกทางแล้วครับ เพราะพระอภิธรรมคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ แต่ถ้าคุณจะไปสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม สูงสุดก็จะเป็นอรูปพรหม แต่ต่ำสุดก็อาจจะเป็นข้างล่าง เพราะอะไร เพราะว่าสร้างเหตุผิดครับ อย่างเช่นที่ในปัจจุบันชอบที่จะนั่งสมาธิกัน นั่งไปทำไม สงบ แต่ไม่เกิดปัญญา บางทีก็เห็น เห็นอะไรที่พิเศษๆ เช่น สวรรค์ นรก วิญญาณ มันคือมารที่มาหลอกคุณโดยละเอียดและเนียนมากๆ ๆ ๆ ๆ

ถามว่าไปเกิดเป็นอรูปพรหมดีไหมครับ ไม่มีรูป มีแต่จิต อยู่นิ่งๆ อย่างนั้น ไปเที่ยวไหนก็ๆ ไม่ได้ สู้เกิดมาเป็นมนุษย์ยังดีกว่า ประเสริฐกว่า เพราะการเกิดเป็นมนุษย์และได้ฟังธรรม เข้าใจ คือบุญสูงสุดแล้วครับ ถามว่าแล้วถ้าฟัง ฟัง และฟังตลอดชีวิต จะถึงโสดาบันเมื่อไร ผมอยากให้คุณคิดว่า เหมือนคุณเรียนวิชาอะไรสักอย่าง คุณศึกษาๆ จนเข้าใจๆ จริง สมมติว่ามี 100 หน้า แล้วคุณอ่านมันทุกวันๆ จนอยู่มาวันหนึ่งคุณอ่านจบหลายรอบจนเข้าใจจริงๆ มันมีคุณค่ามากกว่าการนั่งสมาธิสวดมนต์เดินจงกรม ได้ความสงบ และเห็นสวรรค์นรก คุณรู้ไหมว่าการสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม เขาทำกันตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป เราเป็นปุถุชนพระพุทธเจ้าให้ศึกษาพิจารณาไม่เที่ยงเกิดดับครับ การฟังธรรมจนเข้าใจจริงๆ จนไม่สงสัย ฟังในสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้จนเข้าใจจริงๆ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ถูกทาง ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
boonpoj
วันที่ 20 เม.ย. 2556

ผมเองเป็นนักดนตรีอาชีพ ได้เดินทางไปเกือบทั่วประเทศไทยแล้ว มีความสนใจในพระพุทธศาสนา ไปขอศึกษาธรรมมะจากพระภิกษุที่มีชื่อเสียงเกือบทุกที่ที่ผมไป เขาสอนให้ไม่ค่อยเหมือนกันเลย แล้วผมก็เอามาปฏิบัติตามที่ได้เรียนมา ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย จนเกือบจะท้อและหมดหวัง พอผมได้มาอ่านข้อความในบ้านธัมมะของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และอีกหลายท่าน ผมก็เริ่มตาสว่าง รู้ว่าทุกๆ อย่างที่ผมตามหามาเกือบ 60 ปี อยู่ที่ตัว ในตัวเรานี่เอง กับคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า หาตัวในตัวของเราให้เจอ จับให้ได้ ทำให้นิ่ง ทั้งหมดนั้นคือธรรม และเป็นอนัตตา แล้วผมจะค่อยๆ สะสมไปทุกชาติครับ ขอขอบคุณที่ได้รับสิ่งดีๆ และ ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
pamali
วันที่ 24 เม.ย. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
napachant
วันที่ 25 เม.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
A1ONE
วันที่ 27 เม.ย. 2556

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
orawan.c
วันที่ 17 พ.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
nong
วันที่ 20 พ.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
natural
วันที่ 22 พ.ค. 2556

อนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ