แค่ไม่ลืมว่า...
สิ่งที่มีขณะนี้ รู้ไหม เริ่มแรก ไม่ต้องไปหาธรรมที่ไหนเลย มีอยู่ทุกขณะ เกิด แล้วก็ดับไป เกิดดับสืบต่อตลอดตั้งแต่อดีตอนันตชาติจนถึงขณะนี้ มีเพียงปัญญาเท่า นั้นที่รู้สิ่งที่เกิดแล้ว เช่นเดียวกับขณะใดไม่เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏก็ไม่มีทาง เข้าใจความเห็นผิดได้ ถ้ามัวแต่คิดเองว่า ขณะเห็นว่าเป็นดอกไม้ มีความเห็นผิดหรือ เปล่า แม้ขณะที่โกรธเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปแล้วก็ไม่รู้ มัวแต่จะแสวงหาวิธีให้หายโกรธ ถ้าไม่มีปัญญาก็ไม่มีทางเลย ปัญญาเกิดจากการอบรมให้มีขึ้น ฟังแล้วก็ไตร่ตรองให้ เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏว่า เป็นเพียงสภาพธรรมที่มีจริงแต่ละอย่างทางตา ทาง หู... เพราะความเกิดดับสืบต่อของสภาพธรรมรวดเร็วมาก
สิ่งที่กำลังปรากฏตั้งขึ้น พร้อมนิมิต นิมิตตั้งขึ้นเหมือนพร้อมจิตนั้น การฟังจึงต้องพิจารณาให้ละเอียดถึงความ จริงของสิ่งที่มีจริงๆ ทางตา มีเพียงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้เท่านั้นจริงๆ เพียงเข้าใจว่า สิ่งนี้มีจริงๆ เท่านั้นเองแต่ละหนึ่งๆ เพียงปรากฏชั่วคราวแล้วหมดไป เริ่มรู้จักธรรม เริ่มรู้ว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ เพียงแค่เข้าใจว่า เพียงปรากฏให้เห็นมีจริง เพื่อให้ตรงกับ คำว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ เพราะฉะนั้นถ้าขณะนี้เริ่มเข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ นั่นคือ รอบรู้ปริยัติ ซึ่งนำไปสู่ปฏิปัตติ คือนำไปสู่การปฏิบัติธรรมที่ตรงตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ซึ่ง สิ่งที่มีจริงๆ ยากต่อการรู้ ไม่ต้องอยากรู้แจ้งเลย อยากเป็นพระอริยบุคคลเร็วๆ โดยไม่ รู้ไม่เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ ก็ไม่มีทางที่จะรู้แจ้งธรรมได้
แค่ไม่ลืมว่า ขณะนี้สิ่งที่กำลังปรากฏเป็นธรรมะ หรือรู้ว่าเป็นธรรมะหรือยัง? วัน หนึ่งๆ คิดแต่เรื่องอื่นไว้มาก แค่ไม่ลืมว่าขณะนี้เป็นธรรมะก็ยังน้อยมาก เพียงแค่ไม่ลืมว่าขณะนี้มีเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา ถ้าไม่มีแล้วจะหวังประจักษ์แจ้งได้ไหม
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตา และ ทุกๆ ท่านด้วยครับ