ชีวิต คือ ปรมัตถธรรม
ชีวิต คือ ขณะนี้ที่มีสภาพธรรมเกิดดับสืบต่อ แล้วขณะนี้เป็นชีวิตหรือเปล่า
ชีวิต คือ สภาพธรรมที่มีจริง คือธรรม คือปรมัตถธรรม เพราะฉะนั้นฟังธรรมเพื่อเข้าใจ อะไร ก็เพื่อเข้าใจธรรม ถ้าไม่รู้จักธรรม คือสิ่งที่มีจริงๆ ก็ไม่สามารถรู้ว่าชีวิตคืออะไร ชีวิตดำเนินต่อไปด้วยความเข้าใจธรรมหรือไม่เข้าใจธรรม ผู้ที่มีโอกาสได้ฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น ก็เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ขณะนี้ การศึกษาธรรมต้องรู้ว่าธรรมคืออะไรก่อน มิเช่นนั้นต่างคนต่างคิดโดยไม่รู้ว่าแท้จริง ชีวิตคืออะไร ต่างคนต่างคิดว่ามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร เมื่อไรจะเข้าใจความละเอียดยิ่งขึ้นของชีวิต ถ้าไม่มีตา โลกทางตาก็ไม่ปรากฏ ไม่มีอะไรเลย เห็นขณะนี้เกิดขึ้นเพราะมีตา เห็นเป็นชีวิต
ชีวิตคือขณะนี้ เห็นเป็นสิ่งที่มีจริงเป็นธรรมเกิดขึ้นแล้วดับไป รู้ว่ามีสิ่งหนึ่งสิ่งใดปรากฏให้รู้ได้ เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีธาตุรู้ สภาพรู้ จะมีชีวิตไม่ได้เลย เห็นมีปรากฏให้รู้ได้ว่า มีเห็น สภาพรู้นั่นเองเป็นสภาพที่มีชีวิต ชีวิตมีเมื่อมีธาตุรู้ สภาพรู้ นกเห็นไหม เห็น จึงเป็นชีวิตแต่ละขณะ เก้าอี้เห็นไหม มีธาตุรู้ไหม ก็ไม่มี จึงไม่มีชีวิต ถ้าไม่มีการเกิดขึ้นของจิตก็สิ้นชีวิต คิดไตร่ตรองสิ่งที่กำลังปรากฏ ให้เข้าใจถูกต้อง ควรรู้ความจริงไหมว่ามีเห็น มีได้ยิน ตลอดชีวิต ชีวิตคือ แต่ละขณะของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นแล้วดับไป เกิดดับสืบต่อจากอดีตถึงขณะนี้ และสืบต่อไปอีก ตราบใดที่ยังมีปัจจัยให้เกิด ถ้าไม่ฟังพระธรรมก็ไม่มีความเห็นถูกเข้าใจถูกว่าชีวิตแท้ที่จริงเป็นอย่างไร ได้แต่คิดเองว่าจะดำรงชีวิตอย่างไรให้เกิดประโยชน์ ประโยชน์จริงๆ ก็คือ เข้าใจความจริงขณะนี้ มีชีวิตอย่างไรประเสริฐ ก็ต้องมีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา ประเสริฐ อยู่ด้วยความเข้าใจ ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ขณะนี้ เห็น ได้ยิน ... เป็นชีวิตแต่ละขณะ
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ...