แบ่งปันสิ่งที่บันทึกจากชั่วโมงพื้นฐานพระอภิธรรม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
พอดีกระผมได้เข้าชั่วโมงพระอภิธรรมวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย.2556 ก็มีบันทึกที่จดไว้ได้และก็ขอโอกาสในการแบ่งปัน เป็นเนื้อความสรุปสั้นๆ ครับตามกำลังความเข้าใจครับ
-ฟังธรรม คือ ต้องรู้จักธรรม
-พระธรรมที่ทรงแสดง ก็เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ (ฟังความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ )
-ถ้าไม่เข้าใจธรรม ก็ดำรงค์ชีวิตอยู่ด้วยความคิด แต่ถ้าได้ฟังพระธรรมจากที่ไม่เข้าใจ ก็ได้เข้าใจขึ้น และจากโลกนี้ไปด้วยความเข้าใจขึ้น
-โอกาสที่ได้ฟัง มีหลายๆ ชาติ หรือว่านานๆ ครั้ง หากพระศาสนาอันตรธานไป ก็ไม่มีโอกาสได้ฟัง
-ไม่มีทางที่ใครจะเข้าใจพระธรรมได้ในเวลาอันเล็กน้อย
-โลกอาจคิดว่าเป็นหลายๆ ประเทศ มีน้ำ มีภูเขา แต่ถ้าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้น ก็ไม่มีโลก
-ความจริง "ชีวิต" ขณะนี้คือ สภาพธรรมที่เกิดดับ สืบต่อและยังไม่ตายคือ มีสิ่งที่มีจริงปรากฏให้รู้ได้ ถ้าไม่มีธาตุรู้ ก็ไม่มีชีวิต (โต๊ะ เก้าอี้ ศพ ต้นไม้ ไม่รู้อะไร ก็ไม่มีชีวิต) มีธาตุรู้เมื่อใด ก็มีชีวิต
-รู้สารพัดรู้ แต่ "เห็น" อยู่ ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร
-มีคิด บางคนคิดยังไม่จบ แต่ก็ตายไปก่อน แต่ละเรื่องคิดจากที่เห็นบ้างเกิดมากินนอน และก็จากโลกนี้ไป กินนอนไม่พอยังติดข้องด้วย เพราะฉะนั้นควรที่จะรู้ความจริงหรือไม่ มีสัตว์ที่ข้องอยู่กับการรู้ความจริง (โพธิสัตว์) หลายระดับ (พระสาวกโพธิสัตว์ พระปัจเจกโพธิสัตว์ พระสัพพัญญูโพธิสัตว์) มีพระธรรมที่นับคำไม่ได้ เพื่อให้พิจารณารู้ความจริง รู้ประโยชน์แท้จริง
-แม้ข้อความในพระไตรปิฎกกล่าว ก็ต้องพิจารณาเพื่อเป็นความเข้าใจของตนเอง
-"ตราบใดที่ชีวิตินทรีย์ยังมีอยู่ ตราบนั้นความไม่หยุดยั้งแต่อารมณ์เหล่านี้ก็มีอยู่ <ข้อความจากอรรถกถา>" เห็นมีจริง เป็นชีวิต มีธาตุรู้จึงมีชีวิต ขณะใดที่มีธาตุรู้เกิดจึงจึงมีสิ่งที่ถูกรู้ (อารมณ์) เช่น มีรู้กลิ่น กลิ่นจึงปรากฏ เสียงรู้อะไรไม่ได้ มีธาตุรู้เสียงเกิดเมื่อใดจึงรู้เสียงได้ เป็นต้น และขณะนี้เสียงที่มีจริงก็หมดไปแล้ว แสนสั้นหมดและไม่กลับมาอีกเลยคือ ศึกษาก็เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริงในขณะนี้
-ฟังธรรม ๑๐๐ ครั้ง ๑๐๐๐ ครั้งก็ยังละไม่ได้ จนกว่าจะเข้าใจสิ่งที่มีจริง
-ฟังแล้วสุดท้ายก็ต้องตาย แต่จะตายแล้วสะสมการเข้าใจความจริงหรือไม่?
-ประโยชน์ของการเกิดมา สูงสุด คืออะไร?
(ทรัพย์สมบัติ ที่ว่ามี มีจริงเมื่อจับต้องกายทั้งหมดใครเป็นเจ้าของ มีธาตุรู้เกิด จึงพูดได้ เดินได้แต่เมื่อตายไป "แม้มารดา ก็ไม่ต้องการ")
-ประโยชน์ ก็คือ "ภาวนาธิษฺฐานชีวิตํ"
-"ภาวนา" หมายถึง การอบรมเจริญปัญญา (ให้สิ่งที่ไม่เคยเกิด เกิดขึ้นให้สิ่งที่เกิดแล้วเจริญขึ้น ด้วยการอ่าน, ฟัง, ไตร่ตรองว่าเป็นจริงอย่างนี้ตามที่ได้ฟัง) จนกระทั่งถึงความสมบูรณ์ของปัญญา
"อธิษฐาน" มั่นคง หรือ ตั้งใจมั่น (มั่นคง ว่าฟังพอหรือไม่ ทานยามื้อเดียวไม่ใช่ว่าหายโรค และการมีที่พึ่ง ซึ่งสูงที่สุดคือ พระรัตนตรัย)
"ชีวิต" ชีวิตที่สุจริตประโยชน์สูงสุด ก็คือ "การมีชีวิตสุจริตมั่นคงที่จะอบรมเจริญปัญญา"
ขออนุโมทนาท่านอาจารย์ อาจารย์วิทยากร และผู้ร่วมสนทนาในการสนทนาชั่วโมงพื้นฐานพระอภิธรรม ครั้งนั้นด้วยครับ