การทำบุญเสริมดวงให้ถูกกับราศี
เนื่องจากยังมีกิเลสอยู๋ ยังมีการปรุงแต่ง บางทีเพื่อนร่วมงานเปิดนั่นนี่ ก็หลงไปคิด เช่นวิธีทำบุญตรงกับราศีก็น่าจะช่วยเสริมจิตใจให้ระลึกและเชื่อในบุญที่จะรักษาให้ เราและครอบครัวแคล้วคลาดจากสิ่งไม่ดีต่างๆ แต่ก็เข้าใจว่าว่าไม่ใช่ทางแล้ว อย่าง บางรายการคนดูติดตาม หมอดู..ทางแก้ก็ไม่พ้น ทาน ศีล ภาวนา บ่อยครั้งที่ผมจะ หลงตามกิเลสอยู่เรื่อย ได้ยินบูชาพระ สวดนั่นนี่แล้วดี มันดีจริงหรือนะ ทำอย่างไร ผมจะไม่หลงทางตามกิเลสที่เคยสะสมไว้ ยอมรับเมื่อก่อนก็สวด ก็สะสมบูชานะ แต่วันนี้พอ เข้าใจอะไรบางอย่างครับ
ขอบคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นธรรมดาของปุถุชนที่มีกิเลสมาก และ ยังไม่ถึงความเป็นพระโสดาบัน ที่ท่าน สามารถละความเชื่อที่ผิดๆ ได้ทั้งหมด ซึ่งปุถุชน เมื่อยังไม่ได้ละความเห็นผิด ยัง ไม่ได้ละความเชื่อที่ผิด ที่เป็นมงคลตื่นข่าว จึงย่อมหวั่นไหวไปตามอำนาจของ กิเลส เพราะ ความยินดีพอใจ อยากได้ ในสิ่งต่างๆ ก็เข้าใจว่า บางอย่างอาจจะ ช่วยได้ตามคำโฆษณา ชวนเชื่อ ซึ่งในความเป็นจริง การจะได้สิ่งที่ดี หรือ ไม่ดี ไม่ได้อยู่ที่ การทำบุญให้ตรงกับราศี เพราะเหตุว่า ราศีที่แท้จริง ก็คือ ความดีที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราศีอะไร ความดี ที่เกิดขึ้นกับตนเองนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล ภาวนา ก็ล้วนแล้วแต่นำมาซึ่ง ประโยชน์ ความสุข และ กุศลทุกๆ ประการ ก็เหมาะสมกับทุกคน แต่สิ่งที่ทำให้ไม่ มีราศี เศร้าหมองก็คือ กิเลส มีความไม่รู้ ความติดข้อง ความเห็นผิด เป็นต้น ครับ ดังนั้น กุศลทุกๆ ประการ พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญให้เจริญ โดยไม่ได้จำกัดเลย ว่า กุศลแบบนี้ เหมาะกับคนนี้ที่สุด ไม่เหมาะกับคนนี้ เพราะการทำกุศล จุดประสงค์ ไม่ใช่เพื่อได้ แต่ เป็นไปเพื่อละ และ เป็นประโยชน์กับผู้อื่นเป็นสำคัญ ครับ ส่วนการบูชาพระ การสวดมนต์ไหว้พระ ก็เพื่อเกิด กุศลจิต ระลึกถึงพระรัตนตรัย ไม่ใช่เพื่อปรารถนา ขออยากได้สิ่งใด เพราะขณะนั้น เป็นอกุศล เป็นโลภะ ที่ต้อง การ ขณะนั้น ไม่เป็นราศีกับตนเอง แต่เป็นโทษเพราะกิเลสที่เกิดขึ้น และ อกุศล ทุกๆ ประการ ไม่ว่ามาก หรือ น้อย ก็ไม่นำมาซึ่งสิ่งที่ดีได้เลย ครับ
ส่วนการจะทำอย่างไร ไม่ให้เชื่อสิ่งเหล่านี้ ที่เห็นผิด ไม่ตรงตามความเป็นจริง ก็จะต้องค่อยๆ สะสมปัญญาไปทีละเล็ก ละน้อย จากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะให้ไม่เกิดความคิดที่ไม่เชื่อในเรื่องเหล่านี้ เพราะปัญญายัง น้อยอยู่ แต่ ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกได้ โดยอาศัยการศึกษาพระธรรมที่พระพุทธเจ้า ทรงแสดง ความคิดที่ถูกก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น และ ค่อยๆ ละความเชื่อที่ไม่ถูกต้องไปทีละน้อย ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็น ครับ
เพราะมากไปด้วยความไม่รู้ ที่สะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์อีกทั้งความเห็น ผิดก็ยังมีอยู่ เป็นผู้ไม่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ไม่ได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้ เข้าใจริงๆ จึงทำให้มีการยึดถืออย่างอื่นเป็นที่พึ่ง โดยยึดถือผิดว่าสิ่งที่ตนเองยึดถือ นั้นจะเป็นที่พึ่งช่วยให้เกิดในสิ่งที่ดีให้พ้นภัยอันตรายต่างๆ เป็นต้น ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว จะเป็นที่พึ่งไม่ได้เลย นอกจากจะเพิ่มความไม่รู้เพิ่มความเห็นผิด และ กิเลส ประการต่างๆ เพิ่มมากยิ่งขึ้น ทียังมีการเชื่อถืออย่างนั้นก็เพราะไม่ได้เข้าใจความจริง ถ้าเข้าใจว่า ทุกคนมีกรรม เป็นของของตน ไม่มีสิ่งใดที่จะดลบันดาลทำให้สิ่งที่ดีหรือไม่ดี เกิดขึ้นกับตนเองได้ นอกจากเหตุคือกรรมที่ได้กระทำแล้วเท่านั้นถึงคราวให้ผล ก็จะทำให้ไม่ไปงมงาย ในสิ่งเหล่านั้น พร้อมทั้งมีความจริงใจที่จะฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง ตรัสรู้และทรงแสดง ให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้นซึ่งจะเป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส ทั้งหลาย มีความเห็นผิด และความไม่รู้เป็นต้น
เมื่อได้เข้าใจอย่างถูกต้องแล้วว่าอะไรถูก อะไรผิด ก็จะค่อยๆ ถอยกลับจากสิ่งที่ผิด แล้วเพิ่มพูนความดีซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ยิ่งขึ้น ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลที่ดี เป็นเครื่องนำทางชีวติไปสู่ความดีทั้งปวง จึงควรอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจความจริง ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาต่อไป และไม่ประมาทในการเจริญกุศลในชีวิตประจำวัน มีชีวิตอยู่เพื่อฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา สะสมความดีต่อไป ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ทำบุญเสริมดวงไม่ได้ เพราะ ทุกอย่างเป็นไปตามการสะสม ถ้าสะสมกรรมดี ทำดี รักษาศีล ฟังธรรม ก็เป็นหตุให้มีความสุข ความเจริญในชีวิตอยู่แล้ว โดยเฉพาะ ปัญญา เป็นหนทางนำไปสู่การดับกิเลสทั้งหมด ค่ะ
กรรมคือ การกระทำ ถ้าเรากระทำแต่สิ่งที่ดีที่ไม่ทำลายหรือทำร้ายผู้อื่น ประพฤติตนไป ในทางที่ดี ไม่ประมาทในชีวิต (คือทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ เมือเราทำอะไรต่างๆ แล้ว แต่เราไม่เก่ง หรือดีเท่าคนอื่นก็อย่าเสียใจเพราะเราทำเต็มที่แล้ว ความสามารถของคนเรา ไม่เท่ากัน) นี่ก็คือการทำบุญให้กับราศีของเราแล้ว (เราคิดอย่างนี้นะแต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นความ คิดที่ถูกต้องหรือไม่)