สงสัยเกี่ยวกับสภาพธรรมปัจจุบันที่ปรากฏกับสักกายทิฏฐิครับ

 
tonnkhaow
วันที่  25 พ.ค. 2556
หมายเลข  22956
อ่าน  937

สังเกตว่าแม้รูปทางตาที่ปรากฏนั้นไม่รู้สึกว่าเป็นรูปเป็นร่างมีเพียงกลุ่มสี แต่ก็ยังมี

ความรู้สึกว่ามีตำแหน่งที่ปรากฏที่แตกต่างกัน คือไม่ได้อยู่บนตำแหน่งเดียวกัน มี

กลุ่มจุดสีทางซ้าย ทางขวา ข้างบน ข้างล่าง ตรงกลาง แม้หลับตารู้สึกถึงเสียง

ก็ยังหลงเหลือทิศทางเป็นซ้ายเป็นขวาเป็นบนเป็นล่าง หรือบางครั้งสภาพแข็งนุ่ม

ร้อนเย็น ไหวติงปรากฏ ก็ยังอดรู้สึกไม่ได้ว่าเกิดบริเวณข้างบน ข้างล่าง อยู่ ความ

รู้สึกที่เสมือนว่าสิ่งที่ปรากฏนั้นมีทิศทางหรือตำแหน่งที่แตกต่างกันไม่ว่าจะในช่วง

เวลาเดียวกันสั้นสั้นหรือต่างระยะเวลากันนานนานนั้น ใช่สภาพธรรมอย่างหนึ่งของ

สักกายทิฏฐิหรือเปล่าครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 27 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สักกายทิฏฐิ สก (ของตน) + กาย (ที่ประชุม) + ทิฏฺฐิ (ความเห็น)

ความเห็นว่าเป็นกายของตน , ความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน หมายถึง ความเห็นผิด

ในขันธ์ ๕ ว่าเป็นเรา ของเรา หรือเป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริงตาม

สภาพธรรม เช่น ยึดถือ ขณะที่ว่า เห็น เป็นเราที่เห็น เป็นเราที่ได้ยิน เป็นต้น

สักกายทิฏฐิ เป็นความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรม คือ ขันธ์ ๕ ว่าเป็นตัวตน เป็น

สัตว์ เป็นบุคคล เป็นเรา เป็นของเรา ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริงของสภาพธรรม

ขึ้นชื่อว่าความเห็นผิดแล้ว (มิจฉาทิฏฐิ) เป็นสภาพธรรมที่เห็นคลาดเคลื่อนจาก

ความเป็นจริง ไม่ตรงตามความเป็นจริง แม้แต่ความเห็นผิดที่เป็นสักกายทิฏฐิ ก็เช่น

เดียวกัน เป็นความเห็นผิดประการหนึ่ง ที่เห็นผิดในสภาพธรรมที่เป็นรูปธรรมและ

นามธรรม ว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล และยังครอบคลุมถึงเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วย

เพราะแท้ที่จริงแล้ว ธรรม เป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สิ่งหนึ่ง

สิ่งใด เป็นแต่เพียงสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ เท่านั้น แต่เพราะยังไม่ได้ดับความเห็น

ผิดได้อย่างเด็ดขาด ยังมีพืชเชื้อของความเห็นผิดอยู่

ซึ่งความรู้สึกว่า มีสิ่งที่ปรากฎที่มีตำแหน่งแตกต่างกัน มีทิศทางต่างๆ กัน ขณะนั้น

ไม่ได้มีความยึดถือว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคลในขณะนั้น จึงไม่ได้เป็น สักกายทิฏฐิ ที่เป็น

ความเห็นผิดที่ยึดถือว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคล ครับ

การเห็นว่า เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด แม้แต่พระอริยเจ้า และ พระพุทธเจ้า ผู้ที่ดับความ

เห็นผิดจนหมดสิ้นก็ยังจะต้องเห็นเป็นสิ่งนั้น เห็นเป็นดอกไม้ เป็นพระอานนท์ เพราะ

เหตุใด เพราะตามธรรมชาติของวิถีจิตที่จะต้องเป็นอย่างนั้น คือ เกิดทางปัญจทวาร

แล้ว ก็เกิดทางมโนทวารต่อ ที่คิดในรูปร่างสัณฐานของสิ่งนั้น จึงเห็นเป็นสิ่งหนึ่งสิ่ง

ใด ซึ่งเห็นแล้ว คิดนึกเป็นสัตว์ บุคคลต่างๆ ด้วยกุศลจิตก็ได้ เช่น เห็นขอทานแล้ว

เกิดชวนจิตที่เป็นกุศลที่มีเจตนาจะให้ โดยมีบัญญัติ เรื่องราว สัตว์ บุคคล หรือ

ขอทานเป็นอารมณ์ แม้จะเห็นเป็นสัตว์บุคคล แต่ไม่ได้มีความเห็นผิด แต่เกิดกุศลจิต

แทน ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 27 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ย่อมจะ

เป็นไปเพื่อขัดเกลาละคลายความไม่รู้ ความยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์เป็นบุคคล หรือ เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ได้ เพราะได้เข้าใจอย่างถูกต้องว่า เป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยเท่านั้น ไม่ใช่ใคร ไม่ใช่ของใครเลย

สิ่งที่มีจริงๆ เป็นธรรม และสิ่งที่มีจริงนั้น มีจริงในชีวิตประจำวัน ทุกขณะมีแต่ธรรม

เท่านั้นที่เกิดขึ้นเป็นไป หาความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่

ได้ แต่เพราะยังไม่ได้ดับความเห็นผิดได้อย่างเด็ดขาด ยังมีพืชเชื้อของความเห็นผิด

อยู่ ความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล (สักกายทิฏฐิ)

ก็ย่อมเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ เป็นธรรมที่มีจริง เป็นอกุศลธรรมที่เห็นคลาดเคลื่อนจาก

ความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เป็นจริง

ตราบใดก็ตามที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล ก็ยังไม่สามารถดับความเห็นผิดใดๆ ได้เลย

แต่ความเห็นผิดทุกประการจะุถูกดับได้อย่างหมดสิ้น เมื่อรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความ

เป็นพระโสดาบัน พระโสดาบันดับความเห็นผิดได้อย่างหมดสิ้น สักกายทิฏฐิ ซึ่งเป็น

ความเห็นผิดที่ยึดถืดสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน สัตว์บุคคล ก็ดับได้ ไม่เกิดขึ้นอีกเลย

พระโสดาบันไม่มีความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 27 พ.ค. 2556

ถ้าเห็นสิ่งที่ปรากฎ ไม่เป็นสักกายทิฏฐิ เพราะไม่มีความเห็นว่าสิ่งนั้นเที่ยง

เป็นสัตว์บุคคล ตัวตนจริงๆ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nopwong
วันที่ 28 พ.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
jaturong
วันที่ 28 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
tonnkhaow
วันที่ 29 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ