แก่นแท้ของพุทธศาสนา

 
amornrat44
วันที่  27 พ.ค. 2556
หมายเลข  22963
อ่าน  20,661

เคยได้ยินได้ฟังมาว่าอนัตตาเป็นแก่นแท้ของพุทธศาสนา ถูกต้องไหมคะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 27 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระพุทธศาสนา ศาสนา คือ คำสอน พุทธ คือ ผู้รู้ รู้ด้วยอะไร รู้ด้วยปัญญา เพราะฉะนั้น พระพุทธศาสนา คือ คำสอนของผู้รู้ คือ ปัญญา ดังนั้น หลักในพระพุทธ ศาสนา แก่นแท้ในพระพุทธศาสนา จึงไม่พ้น ปัญญา เพราะ พระธรรมที่พระพุทธเจ้า ทรงแสดง ไม่ว่าจะเป็นอริยสัจ 4 ไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง และ อนัตตา ล้วนแล้ว แต่ เป็นเรื่องของปัญญา คือ มีปัญญา ถึงจะรู้ ความเป็นอริยสัจ 4 มีปัญญาถึงจะรู้ ความเป็นอนัตตา และ ผู้มีปัญญาถึงจะรู้ได้

จึงไม่ได้จำกัดที่ธรรมข้อใด ข้อหนึ่ง แต่ ควรเข้าใจว่าคำสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งหมดที่เป็นหลักธรรมข้อต่างๆ มาจากพระปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าเป็น สำคัญ สาวกทั้งหลาย ที่จะรู้ตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ก็รู้ด้วย ธรรม คือ ปัญญา ความเห็นถูก เป็นสำคัญเช่นกัน เพราะฉะนั้น จึงกล่าวได้ว่า แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา คือ ปัญญาที่รู้ความจริง และ แก่นแท้ สูงสุด คือ ปัญญาที่รู้ความจริง จนสามารถดับกิเลสได้ ไม่มีการเกิดอีก นี่คือ สูงสุดของพระพุทธศาสนาอันมีได้ด้วยปัญญาเป็นสำคัญ ครับ

การศึกษาพระธรรม จึงไม่ใช่การศึกษาเฉพาะเจาะจงเรื่องหมวดใดที่สำคัญ แต่ อาศัยการฟังพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เรื่องอะไรก็ได้ ที่ทำให้เกิด ปัญญา ความเข้าใจ ก็จะทำให้ถึงการดับกิเลสได้ในที่สุด ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 27 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลกทั้งปวง เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ทรงแสดงพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้ โปรดสัตว์โลก ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา ทรงพร่ำสอนอยู่บ่อยๆ เนืองๆ ที่เป็นเช่นนี้เพราะความเข้าใจธรรม เข้าใจในสิ่งที่มีจริงนั้น เป็นประโยชน์มาก พระบารมีที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมา ก็เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลก ให้มีความเข้าใจสภาพธรรม ตามความเป็นจริง พร้อมทั้งน้อมประพฤติปฏิบัติตาม จนกระทั่งถึงความเป็นผู้หมดจด จากกิเลสได้ในที่สุด ถึงแม้ว่าพระองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วแต่ก็ยังมีพระธรรมวินัย เป็นศาสดาแทนพระองค์ ซึ่งพระธรรมจะไม่มีวันสูญหายไปจากใจของผู้ได้ฟังได้ศึกษาและมีความเข้าใจอย่างถูกต้อง และในยุคนี้สมัยนี้ เป็นยุคที่พระธรรมยังดำรงอยู่ จึงควรอย่างยิ่งที่จะได้ศึกษา เพราะยังไม่รู้ ก็จะต้องศึกษา เพื่อจะได้รู้ ได้สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูก ต่อไป

สิ่งที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริงในชีวิต คือ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่ง จะทำให้ผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษา มีความเข้าใจตามความเป็นจริง เป็นไปเพื่อการเจริญขึ้น ของปัญญา เพื่อขัดเกลากิเลสจนหมดสิ้น ถ้าไม่ได้อาศัยพระธรรม ไม่มีการอบรม เจริญปัญญา ไม่มีความเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ก็ย่อมจะเป็นเหตุให้ความประพฤติ เป็นไปในชีวิตประจำวัน ที่ไม่ตรงตามพระธรรมคำสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เกิดขึ้นมาก [มีมาก] ล้วนเป็นไปด้วยอำนาจของอกุศลประการต่างๆ ทั้งนั้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่งคือความเห็นผิด

ดังนั้น จึงต้องเริ่มสะสม อบรมเจริญปัญญา ด้วยตนเองเห็นประโยชน์สูงสุดของ ปัญญาเพิ่มพูนความเข้าใจถูก เห็นถูกขึ้น ไปตามลำดับ แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา อยู่ที่ความเข้าใจธรรมตามความเป็นจริง และประการที่สำคัญ พระพุทธ ศาสนา หมายถึง คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่ฟัง ไม่ศึกษาแล้ว จะเข้าใจ ได้อย่างไร? เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 27 พ.ค. 2556

แก่นแท้ในพระพุทธศาสนา คือ การทำความดี เว้นชั่ว อบรมปัญญา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 27 พ.ค. 2556

กราบอนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nopwong
วันที่ 28 พ.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Chalee
วันที่ 28 พ.ค. 2556

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
papon
วันที่ 5 มิ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
orawan.c
วันที่ 25 มิ.ย. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 12 เม.ย. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ