จิต เกิดโดยไม่มีเจตสิกได้ไหม หมายถึงมีปัจจัยอื่นที่ทำให้จิตเกิดอีกไหมครับ

 
อ๊อด
วันที่  30 พ.ค. 2556
หมายเลข  22980
อ่าน  1,692

จิต เกิดโดยไม่มีเจตสิกได้ไหม หมายถึงมีปัจจัยอื่นที่ทำให้จิตเกิดอีกไหมครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 31 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จิตเป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ ทุกขณะไม่

เคยขาดจิตเลย มีจิตเกิดดับสืบต่อกันอย่างไม่ขาดสาย จิตขณะหนึ่งดับไป เป็นปัจจัย

ให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อทันที จิตมีหลากหลายมาก หลากหลายโดยอารมณ์หลาก

หลายโดยภูมิซึ่งเป็นระดับขั้นของจิต หลากหลายโดยเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมด้วย และ

จิตแต่ละขณะที่เกิดขึ้น ต้องเป็นชาติหนึ่งชาติใดใน ๔ ชาติ โดยไม่ปะปนกัน คือ จิต

เกิดขึ้นเป็นกุศล จิตเกิดขึ้นเป็นอกุศล จิตเกิดขึ้นเป็นวิบาก จิตเกิดขึ้นเป็นกิริยา

ตามความเป็นจริงของจิตประเภทนั้น

เจตสิก หมายถึงสภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต ดับพร้อมกับจิต รู้อารมณ์เดียวกันกับ

จิต และสำหรับในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ก็อาศัยที่เกิดที่เดียวกันกับจิต เจตสิกมีมากมายถึง

๕๒ ประเภท มีผัสสะ เวทนา สัญญา เป็นต้น เป็นจริงแต่ละหนึ่ง มีลักษณะเฉพาะ

ของตนๆ เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ของตนๆ แล้วก็ดับไป เจตสิกย่อมเกิดขึ้นกับจิตตาม

สมควรแก่จิตประเภทนั้นๆ

ซึ่งคำถามที่ว่า จิตเกิดขึ้นโดยไม่มีเจตสิกได้ไหม คำตอบ คือ ไม่ได้เลย เพราะเหตุ

ว่า สภาพธรรมที่เป็น จิต และ เจตสิก เป็นสภาพธรรมที่อาศัยกันและกันจึงเกิดขึ้นได้

หากไม่มีเจตสิกเกิดขึ้น จิตก็เกิดไม่ได้ และ หากไม่มีจิตเกิดขึ้น เจตสิกก็เกิดไม่ได้

เช่นกัน ครับ

แม้จิตจะสามารถเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ได้ จากปัจจัย ใน 24 ปัจจัย แต่อย่างไรก็ดี

สภาพธรรมที่เป็นจิต ไม่สามารถเกิดได้ปัจจัยเดียว ต้องมีปัจจัยหลายๆ อย่าง และที่

ขาดไม่ได้ คือ สภาพธรรมที่เป็นปัจจัย ที่อาศัยกันและกัน และ ปัจจัยที่เกิดพร้อมกับ

จิต คือ เจตสิกที่เกิดร่วมด้วย ครับ เพราะฉะนั้น จิตจะเกิดขึ้นด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม

จิตก็เกิดขึ้นโดยปราศจากเจตสิกไม่ได้ ครับ จิตเกิดขึ้นพร้อมกับเจตสิก เจตสิกดับ

พร้อมจิต รู้อารมณ์เดียวกับจิต เกิดที่เดียวกับ จิต ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 31 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเป็นจริงของสภาพธรรมใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น ไม่ว่าจะกล่าวถึงอะไร ก็ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของสภาพธรรม ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น นี่ก็แสดงถึงความเป็นอนัตตาของสภาพธรรมที่เป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่ใคร ไม่ใช่ของใครไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเองโดยปราศจากเหตุปัจัย แต่เกิดเพราะอาศัยเหตุปัจจัย

จิต เป็นสภาพธรรมที่มีจริงเป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ ทุกขณะไม่เคยขาดจิตเลย และเมื่อจิตเกิดขึ้น ก็จะต้องมีเจตสิกธรรมเกิดร่วมด้วยกับจิตตามควรแก่จิตประเภทนั้นๆ นี้คือ ความจริง จิตจะต้องเกิดร่วมกับเจตสิก และเจตสิกก็จะต้องเกิดร่วมกับจิต เป็นไปไม่ได้ที่จิตจะเกิดโดยปราศจากเจตสิก หรือ เป็นไปไม่ได้ที่เจตสิกจะเกิดโดยปราศจากจิต ก็ต้องเกิดร่วมกัน ดับพร้อมกัน รู้อารมณ์เดียวกัน และสำหรับในภูมิที่มีขั้นธ์ ๕ จิตและเจตสิกก็ต้องอาศัยวัตถุรูปเป็นที่เกิดเดียวกัน

ตามควรแก่จิตประเภทนั้นๆ เช่น จักขุวิญญาณ (จิตเห็น) และเจตสิกธรรมที่เกิดร่วม

ด้วย เกิดที่จักขุวัตถุ, แต่ถ้าเป็นในภูมิที่ไม่มีรูปธรรม คือ ในอรูปพรหมภูมิ มีแต่

นามธรรม นั้นจิตและเจตสิกอาศัยกันและกันเกิดขึ้น

เมื่อสภาพธรรมหนึ่งสภาพธรรมใดเกิดขึ้น ก็เกิดเพราะอาศัยปัจจัยหลายปัจจัย

รวมถึง จิต ด้วย จิตต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วย ต้องมีอารมณ์ ต้องมีที่เกิด เป็นต้น

แสดงถึงความเป็นจริงของธรรมทีเกิดเพราะอาศัยเหตุปัจจัย ไม่มีใครบังคับบัญชาให้

สภาพธรรมใดๆ เกิดขึ้นเป็นไปได้เลย ก็จะต้องค่อยๆ ฟังพระธรรม สะสมความ

เข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ....

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 1 มิ.ย. 2556

จิตเกิดขึ้น โดยไม่มีเจตสิกไม่ได้ เพราะ เมื่อจิตเกิดขึ้น จะต้องมีเจตสิกเกิดขึ้นอย่างน้อย

7 ดวง ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
อ๊อด
วันที่ 16 ส.ค. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ