สอบถามหน่อยครับ เรื่องสังฆาทิเสส 13

 
nickyul
วันที่  6 มิ.ย. 2556
หมายเลข  23010
อ่าน  3,041

ผมสงสัยครับ ผมบวชในช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว

ในวันที่ 14 เมษายน เป็นวันสงกรานต์ผมได้ส่งข้อความอวยพรให้สีกา (เป็นคนที่ผมชอบและจีบก่อนที่จะมาบวชครับและได้เลิกก่อนที่จะบวชครับ) ที่ว่า

"ปีใหม่ไทย ขอให้โยมมีแต่ความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดสมหวังปรารถนา ตั้งมั่นอยู่ในสติตลอดเวลา ปราศจากโรคภัยอันตรายใดๆ อายุมั่นขวัญยืนนะโยม เจริญพร"

ซึ่งในใจผมตอนนั้นมีความรู้สึกที่จะอวยพรพอดีครับ แต่พอส่งไปใจผมมีความรู้สึกไปคิดที่ว่า "เผิ่อเราสึกออกไป เขาอาจจะเห็นความดีและกลับมาชอบเราอีกครั้งนะ"

และผมก็ไม่ได้ติดต่ออะไรเลยมีแค่ข้อความอันนี้อันเดียวครับ

ผมอยากทราบว่า การกระทำของผม ผิด อาบัติสังฆาทิเสส 13 หรือเปล่าครับ

ขอบคุณมากครับผมที่ช่วยตอบผมนะครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 6 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จากประเด็นคำถาม น่าจะมุ่งหมายถึงสังฆาทิเสสข้อที่ ๓ คือ การพูดเกี้ยว

หญิงสาว

การที่จะต้องอาบัติสังฆาทิเสส ในข้อที่กล่าวถึงการพูดเกี้ยวหญิงสาว นั้น

มุ่งหมายถึงการพูดพาดพิงถึงวัจจมรรค (ทวารหนัก) ปัสสาวมรรค (ทวารเบา)

พาดพิงเมถุนธรรม (การกระทำของบุคคลคู่ระหว่างชายกับหญิง) ถ้ามีการกล่าวคำ

พูดอย่างนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส เป็นการกระทำไม่เหมาะสม ไม่เป็นไปเพื่อ

ความเลื่อมใสของชนทั้งหลาย

แต่ประเด็นที่ปรากฏอยู่ในคำถามนั้น เป็นการส่งข้อความด้วยจิตที่ปรารถนาดีต่อกัน

เป็นการอวยพรนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องทวารหนัก ทวารเบา หรือพาดพิงถึงเมถุนธรรม

แต่อย่างใด จึงไม่ได้เป็นอาบัติในข้อนี้ และเมื่อได้ส่งข้อความดังกล่าวไปแล้วเกิด

ความคิดในภายหลัง ตามที่ปรากฏในคำถาม ก็เป็นเพียงความคิดที่เป็นไปกับด้วย

ความติดข้อง ซึ่งมีเป็นธรรมดาตราบใดที่ยังไม่สามารถดับได้อย่างเด็ดขาด แม้กระนั้น

ก็ไม่ได้เป็นอาบัติอะไรเลย เพราะเป็นเพียงความคิด ครับ

ถ้ายังอยู่ในเพศบรรพชิตอยู่ ก็ยิ่งที่จะต้องมีการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เพื่อ

ให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การศึกษาในส่วนของพระวินัย

บัญญัติ ก็จะเกื้อกูลต่อความประพฤติเป็นไปในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ทำให้ได้

รู้ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใด ผิด แล้วน้อมประพฤติในสิ่งที่ถูก แล้วละเว้นในสิ่งที่ผิด ครับ แต่ถ้า

ได้ลาสิกขาออกไปแล้ว ก็ไม่ต้องคิดกังวลเรื่องอาบัติ เพราะเป็นคฤหัสถ์ ไม่มีอาบัติ

แล้ว ก็ขอให้เป็นคนดีและฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ สะสมความเข้าใจถูก

เห็นถูก ยิ่งขึ้น ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความโดยตรงจากพระวินัยปิฎก ครับ

พูดเกี้ยวหญิง อาบัติสังฆาทิเสส [มหาวิภังค์]

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nickyul
วันที่ 6 มิ.ย. 2556

ขอบคุณ คุณ khampan.a มากๆ เลยนะครับ ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงแรกๆ ของการบวชครับ

ตอนนี้สึกออกมาแล้วทำให้มีสติ มากขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวันครับ ได้ไหว้พระสวดมนต์

ในชีวิตประจำวัน มีสมาธิในการเรียนมากขึ้นครับ ขอบคุณมากๆ ครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 6 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การจะผิดอาบัติ สังฆาทิเสส ในข้อเกี้ยวสตรีนั้น สังฆาทิเสส เป็นอาบัติหนัก เพราะ

ฉะนั้น จะต้องเป็นการเกี้ยวจีบ ที่มีกำลัง คือ มุ่งที่อวัยวะเพศของผู้หญิง โดยการพูด

อวัยวะเพศ และประการที่สำคัญที่สุด จะต้องอาบัติหรือไม่ ในข้อสังฆาทิเสส ก็

พิจารณาที่เจตนาของพระภิกษุด้วย หากมีเจตนาเกี้ยว ด้วยจิตที่เป็นอกุศล ก็ต้อง

อาบัติได้ แม้จะไม่พูดถึงอวัยวะเพศ แต่มีการจีบด้วยวาจา ก็ต้องอาบัติต่ำลงมาได้ ที่

ไม่ใช่อาบัติสังฆาทิเสส

สิ่งที่น่าพิจารณา คือ เพศสตรี เป็นเพศที่เป็นข้าศึก ศัตรู กับพระภิกษุ เพราะฉะนั้น

ทางที่ดีที่สุด คือ การไม่ติดต่อ การไม่พูดคุยตอบ เพราะย่อมจะเอื้อต่อการยินดี และ

ผิดพระวินัยได้ แต่ ถ้าต้องพูดคุย พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า เธอจงมีสติในการพูดคุย

สนทนา

อย่างไรก็ดี แม้กรณีนี้ จะไม่ผิดพระวินัย ในข้อสังฆาทิเสส แต่ ก็จะต้องเป็นบท

เรียนที่จะพิจารณาว่า ไม่ควรพูดคุย สนทนากับสตรี และ ในชีวิตที่เป็นเพศบรรพชิต

ก็ควรศึกษาพระธรรมวินัย เพื่อประโยชน์ในการรักษาพระวินัยอย่างถูกต้อง และเป็น

ผู้เห็นโทษในการผิดพระวินัย และ ปลงอาบัติอย่างถูกต้อง พร้อมๆ กับการศึกษา

พระธรรม ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ครับ และเมื่อสึกออกมาแล้ว ก็ขอให้ศึกษา

พระธรรมเป็นสำคัญจากเวปนี้ได้ครับ ขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ