ควรเรียนรู้

 
WS202398
วันที่  10 มิ.ย. 2556
หมายเลข  23034
อ่าน  873

เราควรเรียนรู้เฉพาะสิ่งที่ถูกอย่างเดียวหรือเรียนรู้ทั้งสิ่งที่ถูกและผิด


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 10 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

หากเข้าใจความเป็นอนัตตา ที่บังคับบัญชาไม่ได้ ก็จะเข้าใจว่า ไม่มีใครที่สามารถที่จะเลือกได้ที่จะเรียนรู้สิ่งที่ถูกอย่างเดียว เรียนรู้สิ่งที่ผิดอย่างดียว หรือ เรียนรู้สิ่งที่ถูกและสิ่งที่ผิด เพราะแล้วแต่ว่าเหตุปัจจัยของแต่ละคนที่จะได้มีโอกาส ได้ศึกษา รับฟัง สิ่งที่ถูกหรือสิ่งที่ผิด

ซึ่งในความเป็นจริง สิ่งที่ควรเรียนรู้ คือ สิ่งที่ถูก เพราะจะนำมาซึ่งความเข้าใจถูกต้อง ส่วน สิ่งที่ไม่ควรเรียนรู้ คือ ความเห็นผิด ความไม่ถูกต้อง เพราะจะนำมาซึ่งความเข้าใจที่ผิดได้ แต่ไม่มีใครเลือกได้เลยว่าจะได้เรียนรู้ ได้ฟัง สิ่งที่ถูก หรือสิ่งที่ผิด

โดยมากก็จะเข้าใจว่า เมื่อได้เรียนรู้สิ่งที่ผิด ก็จะทำให้เข้าใจถูกได้ อันนี้เป็นวิชาการทางโลก ซึ่งอาศัยประสบการณ์การไตร่ตรองที่ไม่ใช่ปัญญาในพระพุทธศาสนา ก็สามารถเรียนรู้ อาศัยสิ่งที่ผิด และกลับมาคิดถูกได้ ข้อนี้เป็นไปได้ แต่สำหรับการศึกษาในพระพุทธศาสนา แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการศึกษาทางโลก เพราะเป็นเรื่องของปัญญา ความเห็นถูกที่จะต้องค่อยๆ สะสม และผู้นั้นจะต้องสะสมมาที่มีความเข้าใจถูกด้วย ดังนั้น หาก เรียนรู้ฟังสิ่งที่ผิด ศึกษาสิ่งที่ผิด ก็ย่อมสะสมความเห็นผิด ความเห็นผิด ไม่สามารถทำให้เกิดปัญญา เกิดความเห็นถูกได้ และไม่สามารถอาศัยการเรียนรู้จากการทำสิ่งที่ผิด หรือ มีความเห็นผิด และจะกลับมาคิดเองด้วยความเห็นถูกได้เอง หากไม่ได้ฟังสิ่งที่ถูก ครับ ซึ่งผู้ที่จะคิดเองได้ คิดถูกได้โดยไม่ต้องฟังความเห็นถูกจากใคร คือ พระพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าเท่านั้น ส่วนสาวกทั้งหลายที่หมายถึงผู้ฟัง ก็ยังจะต้องฟัง ต้องศึกษาพระธรรม จากผู้ที่มีความเห็นถูก สมดังในพระไตรปิฎกที่แสดงไว้ว่า ความเห็นถูกมีได้ด้วยการฟังสิ่งที่ถูกต้อง

ดังนั้น มงคลข้อที่ ๑ คือ การไม่คบคนพาลที่ไม่เป็นหตุแห่งความเจริญ เพราะคนพาลย่อมแนะนำสิ่งที่ผิด และ ให้ฟังสิ่งที่ผิด ทำให้ปุถุชนผู้หนาด้วยกิเลส และมีความไม่รู้ และ ความเห็นผิดอยู่แล้ว ไหลไปตามความเห็นผิดนั้น การได้เรียนรู้สิ่งที่ผิด ทำให้เกิดความเห็นผิดและความไม่รู้มากขึ้น อกุศลเหล่านี้จะทำให้เกิดความเห็นถูกย่อมเป็นไปไม่ได้ ต่อเมื่อได้ฟังสิ่งที่ถูก ความเข้าใจถูกจากบัณฑิตทั้งหลาย ย่อมทำให้เกิดความเห็นถูก และ ละความเห็นผิด และ ความไม่รู้ได้ ครับ

มงคลข้อที่ ๒ คือ การคบบัณฑิต ย่อมเป็นปัจจัยให้เรียนรู้สิ่งที่ถูก แม้ผู้นั้นจะเรียนรู้สิ่งที่ถูกอย่างเดียว ย่อมเป็นสิ่งที่ประเสริฐ เพราะทำให้เกิดปัญญา ปัญญาความเห็นถูกที่เกิดขึ้น ย่อมจะรู้ในทางที่ถูกด้วย และ รู้ในทางที่ผิดด้วยว่าเป็นอย่างไร แม้จะไม่เคยเรียนรู้สิ่งที่ผิด แต่ปัญญาที่เป็นความเห็นถูก ก็ย่อมรู้ว่าทางผิดเป็นอย่างไร เพราะเกิดความเห็นถูกแล้วนั่นเอง ครับ

ดังนั้น เครื่องตรวจสอบว่าเดินมาถูกทางในพระพุทธศาสนาหรือไม่ คือ เริ่มที่จะเข้าใจว่าหนทางที่ถูกคืออย่างไร และ หนทางที่ผิด คือ อย่างไรด้วย เพราะสามารถแยกออกในหนทางแต่ละหนทาง และ เดินในทางที่ถูก และ ละหนทางที่ผิด เพราะปัญญาที่เกิดขึ้นย่อมรู้ทางที่ถูก และ ทางที่ผิดด้วย ครับ

สิ่งที่ควรเรียนรู้ในพระพุทธศาสนา ซึ่งไม่สามารถคิดเองได้ คือ ความเห็นถูกที่เป็นพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง และ สิ่งที่ไม่ควรเรียนรู้ คือ ความไม่ถูกต้อง ความเห็นผิด เพราะย่อมทำให้สะสมสิ่งที่ผิด และ สะสมกิเลสมากขึ้น ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 10 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งที่ถูก เป็นสิ่งที่ถูก สิ่งที่ผิด เป็นสิ่งที่ผิด ไม่ปะปนกัน สำหรับสิ่งที่ถูกต้องนั้น

ก็ต้องเป็นกุศลธรรม เป็นธรรมฝ่ายดี แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ผิดแล้ว ไม่พ้นไปจากอกุศล

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น แสดงถึงสิ่งที่มีจริงโดยละเอียดโดย

ประการทั้งปวง ทรงแสดงทั้งกุศลธรรม ทรงแสดงทั้งอกุศลธรรม เพื่อประโยชน์

คือความเข้าใจถูกเห็นถูก เมื่อเข้าใจถูกเห็นถูกแล้ว ก็จะอุปการะเกื้อกูลให้ไม่ละเลย

โอกาสของกุศล แม้จะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม และหลีกออกห่างจากสภาพธรรมที่

เป็นอกุศลธรรม เพราะได้เข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ได้เห็นโทษเห็นภัยตามความเป็น

จริงว่า อกุศลเป็นสภาพธรรมที่ไม่ดี ให้ผลเป็นทุกข์ ไม่นำมาซึ่งคุณประโยชน์ใดๆ

เลย และที่สำคัญเมื่อเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ก็จะไม่หลงผิดว่า อกุศล เป็น กุศล

พระธรรมที่ได้ฟังได้ศึกษาก็ย่อมเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกอย่างแท้จริง

ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 10 มิ.ย. 2556

เราต้องสะสมความเห็นถูก เจริญปัญญา ละความเห็นผิด ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
WS202398
วันที่ 10 มิ.ย. 2556

ขอบพระคุณสำหรับคำตอบครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
แมวทไวไลท์
วันที่ 13 มิ.ย. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
kinder
วันที่ 13 มิ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ดรุณี
วันที่ 16 มิ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ดิฉันมีความคิดเห็นส่วนตัวว่า

คนส่วนใหญ่บนโลกนี้จะชอบเอาวิธีเข้าใจวิชาทางโลก ไปปนกับวิชาทางธรรมค่ะ

2ด้านนี้คู่ขนานกัน คือ ตามกระแสกิเลส กับ ทวนกระแสกิเลส วิชาทางโลกต้องลงมือทำ และไตร่ตรองวิชาทั้งผิดและถูก เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านความเป็นอยู่และเลี้ยงชีพอย่างเชี่ยวชาญในชาติๆ นึงก็เท่านั้นเอง แต่วิชาทางธรรมนั้น หากไปเสพคุ้นธรรมที่บิดเบือน จิตผู้เสพ มีแต่จะน้อมตาม เพราะเสพธรรมของคนพาล ย่อมเกิดอโยนิโสมนสิการ สถาพธรรมะที่เปลี่ยนแปลงไปตามความเห็นผิดนั้น คนเราไม่ทันได้ลงมือทำอะไร แต่ทำในใจแบบไม่แยบคายไปแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตให้แย่ลงได้ นี่คือความประมาท

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
nong
วันที่ 17 มิ.ย. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ