เราจะรู้ว่าเรามี หิริโอตับปะ เมื่อใด

 
fouron
วันที่  12 มิ.ย. 2556
หมายเลข  23045
อ่าน  1,126

หิริโอตับปะ เกิดขึ้นเมื่อใด ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 12 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

หิริและโอตตัปปะเป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นเจตสิก เป็นเจตสิกฝ่ายดี หิริ คือ

ความละอายต่อบาป ส่วนโอตตัปปะ คือ ความเกรงกลัวต่อบาป หิริและโอตตัปปะ

เกิดกับจิตที่ดีทุกประเภทและเกิดกับจิตที่ดีทุกระดับ

ดังนั้น ขณะที่กุศลจิตเกิดจะต้องมีหิริและโอตตัปปะเกิดร่วมด้วยเสมอครับ และ

เกิดกับกุศลจิตทุกระดับด้วย ซึ่งขณะที่ให้ทาน รักษาศีล เจริญสมถภาวนาและเจริญ

วิปัสสนา และขณะที่มรรคจิต ผลจิตเกิดก็ต้องมี หิริ โอตตัปปะเกิดร่วมด้วยครับ อัน

แสดงถึงว่า หิริและโอตตัปปะ นั้นมีหลายระดับ ตามระดับของจิต ตามระดับของกุศล

จึงกล่าวสรุปได้ว่า ขณะใดที่จิตที่ดีเกิดขึ้น มี กุศลจิตทุกประเภท ทุกระดับ ไม่ว่า

ให้ทาน รักษาศีล เจริญสมถภาวนา วิปัสสนาภาวนา ล้วนแล้วแต่ เกิด หิริ และ

โอตตัปปะเจตสิก เสมอ ครับ

แต่ การจะรู้่า หิริ โอตัปปะเกิดเมื่อไหร่ ขณะใด ก็ต้องด้วยปัญญาระดับสูง ที่เป็น

การเจริญวิัปัสสนา ที่ สติเกิดระลึกรู้ลักษณะของ หิริ หรือ โอตตัปปะที่กำลังเกิดขึ้น

ย่อมจะรู้ลักษณะของหิริ และ โอตตัปปะได้จริงๆ ในขณะนั้น ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แมวทไวไลท์
วันที่ 13 มิ.ย. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 13 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประโยชน์จากการได้ยินได้ฟังพระธรรม คือ เข้าใจถูกเห็นถูก ว่า มีแต่ธรรม เท่านั้นที่เกิดขึ้นเป็นไป ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เมื่อประมวลแล้ว ก็ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมที่เป็นนามธรรม กับ รูปธรรม ไม่พ้นไปจากนี้เลย แต่ก็ไม่รู้จนกว่าจะได้

ฟังพระธรรมที่พระสัมมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

ความเป็นจริงของธรรม เป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น จะเห็นได้ว่า ขณะที่กุศลจิตเกิดขึ้นเป็นไปนั้น จะไม่ปราศจากธรรมฝ่ายดี ๒ อย่าง คือ หิริ ความละอายต่อบาป และโอตตัปปะความเกรงกลัวบาป เกรงกลัวผลของบาป

ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งพอจะเข้าใจได้ว่า การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น มีเมตตา ความเป็นมิตรเป็น

เพื่อนกับผู้อื่น หวังดี ไม่หวังร้าย การไม่โกรธผู้อื่น การให้อภัยความประพฤติไม่ดีของผู้อื่น

การวิรัติงดเว้นจากทุจริตกรรมประการต่างๆ ตลอดจนถึงการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม

อบรมเจริญปัญญา เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้น นั้น ล้วนเพราะหิริโอตตัปปะ เกิดขึ้นทำ

กิจหน้าที่ทั้งนั้น ซึ่งจะตรงกันข้ามกับขณะที่เป็นอกุศลอย่างสิ้นเชิง เพราะขณะใดก็ตาม

ที่จิตเป็นอกุศล ขณะนั้นปราศจากหิริโอตตัปปะ

ในขณะที่หิริโอตตัปปะเกิดขึ้นนั้น คุ้มครองให้จิตไม่เป็นอกุศล และในขณะที่กุศลจิต

เกิดขึ้นเป็นไปนั้น ไม่เป็นไปเพื่อความทุกข์ ความเดือดร้อน ทั้งแก่ตนและแก่บุคคลอื่น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 13 มิ.ย. 2556

หิริ โอตับปะ เป็นธรรมที่คุ้มครองโลก ขณะที่งดเว้นไม่ทำชั่วขณะนั้นก็มีหิริโอตับปะ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
papon
วันที่ 6 ก.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nong
วันที่ 8 ก.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
fouron
วันที่ 16 ก.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ