ศีลข้อปาณาติบาต

 
เจริญในธรรม
วันที่  28 มิ.ย. 2556
หมายเลข  23096
อ่าน  3,433

การผิดศีลข้อนี้มีองค์ประกอบอยู่ 5 โดย 1 ใน 5 คือสัตว์มีชีวิต ผมเรียนถามว่าคำว่าสัตว์มีชีวิตคือสัตว์ทุกชนิดที่มีชีวิตหรือแม้สัตว์เซลเดียว

1. มด มีเจตนาฆ่าบาป
2. เชื้อไวรัสและที่มองไม่เห็น เจตนาฆ่าบาปไหม
3. มดตัวเล็กๆ 1 ตัว ตายไป สามารถไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้นหรือไม่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 28 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

++1ใน5คือสัตว์มีชีวิต ผมเรียนถามว่าคำว่าสัตว์มีชีวิตคือสัตว์ทุกชนิดที่มีชีวิตหรือ

แม้สัตว์เซลเดียว

++1.มด มีเจตนาฆ่าบาป?

องค์ของปาณาติบาต คือ สัตว์มีชีวิต รู้ว่าสัตว์มีชีวิต มีจิตคิดจะฆ่า

มีความพยายามในการฆ่าและ สัตว์ ตาย ด้วยความพยายามนั้น

สัตว์มีชีวิต ต้องเกิดจากกรรม มีชีวิตินทรีย์ เช่น มนุษย์ สัตว์ดิรัจฉาน เป็นต้น

พวกแบคทีเรีย เห็ดรา ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต เพราะไม่ได้เกิดจากกรรมเป็นสมุฏฐาน

ความเป็นจริงของสภาพธรรมเป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ที่กล่าวว่าเป็น

มด ก็คือสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากกรรม การเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานเป็นผลของอกุศลกรรม

มีจิต เจตสิก และรูป เกิดขึ้นเป็นไป เมื่อว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ก็ไม่มีมด มีแต่ธรรม

เท่านั้นที่เกิดขึ้นเป็นไป จากคำถามที่ว่า มด มีเจตนาฆ่าบาป? น่าจะมุ่งหมายถึงว่า

มีเจตนาฆ่ามด บาปไหม?

ก็ต้องพิจารณา ว่า มดเป็นสัตว์มีชีวิต ถ้าเรามีเจตนาฆ่ามด เช่น เหยียบให้ตาย เอา

ไฟเผา เป็นต้น ก็เป็นบาป เป็นอกุศลกรรม เป็นเหตุที่จะทำให้เกิดผลที่ไม่ดี ในภาย

หน้าได้ จนถึงกับนำเกิดในอบายภูมิได้ ซึ่งจะประมาทไม่ได้เลยทีเดียว

++ 2.เชื้อไวรัส และที่มองไม่เห็น เจตนาฆ่าบาปไหม?

เชื้อไวรัส ไม่ใช่สิ่งที่มีชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากกรรม การทำลายเชื้อไวรัส ไม่ได้

เป็นบาปแต่ประการใด เพราะไม่ใชการฆ่าสัตว์มีชีวิต

++3.มดตัวเล็กๆ 1 ตัว ตายไป สามารถไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้นหรือไม่

สัตว์ดิรัจฉาน เมื่อตายไปแล้ว สามารถเกิดในสุคติภูมิได้ ขึ้นอยู่กับกรรมที่จะให้

ผลนำเกิดเป็นสำคัญ เพราะถ้าเป็นผลของกุศลกรรม ก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิได้

เป็นความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรม ที่ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น

แต่ก็เป็นสิ่งที่ยากมากกับการได้เกิดในสุคติภูมิ ตามข้อความจากพระไตรปิฎก

พระสุตตันตปิฎก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ ๒๐๕

สัตว์ที่จุติจากกำเนิดสัตว์เดียรัจฉานกลับมาเกิดในมนุษย์ มีเป็นส่วนน้อย สัตว์

ที่จุติจากกำเนิดสัตว์เดียรัจฉาน ไปเกิดในนรก เกิดในกำเนิดสัตว์เดียรัจฉาน เกิดใน

ปิตติวิส้ย มากกว่าโดยแท้, สัตว์ที่จุติจากกำเนิดสัตว์เดียรัจฉานไปเกิดในเทพยดา

มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่จุติจากกำเนิดสัตว์เดียรัจฉานไปเกิดในนรก เกิดในกำเนิดสัตว์

เดียรัจฉาน เกิดในปิตติวิสัย มากกว่าโดยแท้.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 28 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

1 ใน 5 คือสัตว์มีชีวิต ผมเรียนถามว่าคำว่าสัตว์มีชีวิตคือสัตว์ทุกชนิดที่มีชีวิต

หรือไม่แม้สัตว์เซลเดียว

สัตว์ใดที่เกิดจากรรม เป็นเหตุให้เกิด มี จิต เจตสิก เป็นต้นชื่อว่า สัตว์มีชีวิต ครับ

1.มด มีเจตนาฆ่าบาป?

มดมีจิต เจตสิก มีการคิดนึก มีการเห็น ได้ยินเป็นต้น เมื่อมดมีจิต เจตสิก เจตนาฆ่า

คือ เจตนาเจตสิกที่เกิดกับ จิตที่เป็นอกุศลจิต เพราะฉะนั้น มด จึงมีเจตนาฆ่า และเมื่อ

มีการฆ่า สัตว์นั้นตาย มดก็ชื่อว่าทำบาป เป็นปาณาติบาต ครับ ซึ่งเราทั้งหลายก็เคย

เกิดเป็นมด มาแล้วมากมายนับชาติไม่ถ้วน หากแต่ว่า กุศลกรรมให้ผลในบางคราวก็

ทำให้เกิดเป็นมนุษย์ แต่เมื่อเกิดเป็นมด ก็มีการทำบาปโดยมาก ซึ่งจะเห็นได้จากการ

ใช้ชีวิตของมด ที่หาอาหาร และ ฆ่าสัตว์อื่นเป็นธรรมดา ซึ่งขณะนั้นก็มีเตนาฆ่า ถ้าไม่

มีเจตนาฆ่า ก็คงไม่ฆ่าแน่นอน ครับ

ส่วนถ้ามนุษย์ มีเจตนาฆ่าสัตว์มีชีวิต ไม่จำกัดเฉพาะมด หากสัตว์นั้นตายเพราะเจตนา

ฆ่าคนที่ฆ่าก็เป็นบาป เป็นปาณาติบาต ครับ

2.เชื้อไวรัส และที่มองไม่เห็น เจตนาฆ่าบาปไหม?

ไวรัส ที่เกิดจากอุตุเป็นเหตุให้เกิด ไม่ได้มีกรรมเป็นเหตุให้เกิด ไม่ใช่สัตว์มีชีวิต มี

เจตนาฆ่าในไวรัสนั้น ไม่บาป ครับ

3.มดตัวเล็กๆ 1 ตัวตายไป สามารถไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้นหรือไม่

พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า สัตว์ที่ตายจากการเป็นสัตว์เดรัจฉาน จะกลับไปเกิดใน

สุคติภูมิ มีเป็นส่วนน้อย แต่ กลับไปเกิดในอบายภูมิ มีสัตว์เดรัจฉาน เป็นต้น มีมากกว่า

มาก เปรียบเหมือน แผ่นดิน กับฝุ่นที่เล็บสัตว์ที่กลับมาเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้น อย่างเช่น

เกิดในสคติภูมิ มีมนุษย์ เป็นต้น มีน้อยมาก เปรียบได้ดั่งกับฝุ่นที่ปลายเล็บ แต่โดยมาก

สัตว์กลับมาเกิดในภพภูมิที่ต่ำ มีมากกว่า เปรียบเท่าจำนวนแผ่นดิน ครับ

แต่ก็ยังมีโอกาสที่สัตว์เดรัจฉาน จะกลับมาเกิดในภพภูมิที่สูงกว่าก็ได้ครับ แต่มี

โอกาสน้อย เพราะโดยมาก สัตว์เดรัจฉาน ใช้ชีวิตในการทำบาปเป็นส่วนมาก แต่หาก

มีเหตุปัจจัยพร้อม กุศลกรรมใด กุศลกรรมหนึ่งให้ผล ก็ทำให้มาเกิดในภพภูมิที่สูงกว่า

ได้ ครับ

การเกิดในภพภูมิต่างๆ มีความไม่แน่นอนเลย พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงเปรียบว่า

เปรียบเหมือนการโยนท่อนไม้ไปบนอากาศ บางคราวตอนปลายก็ตกลงมา บางคราว

ปลายอีกด้านหนึ่งก็ตกลงมาก่อน บางคราวตรงกลางก็ตกลงมาก่อน การเกิดในภพภูมิ

ของสัตว์โลกก็เช่นกัน ไม่แน่นอนเลย บางคราวก็เกิดในสุคติภูมิ บางคราวก็เกิดใน

อบายภูมิ

เมื่อเห็นถึงความไม่แน่นอนอย่างนี้ ควรที่จะเห็นค่าของการเกิดเป็นมนุษย์ ด้วยการ

ศึกษาอบรมปัญญา เจริญกุศลทุกๆ ประการ ตามกำลังของปัญญาเท่าที่ทำได้ ในขณะ

ชีวิตที่เหลือน้อย ครับ ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nongnooch
วันที่ 29 มิ.ย. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
papon
วันที่ 29 มิ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ponchario
วันที่ 29 มิ.ย. 2556

แบคทีเรีย ไวรัส ไม่ถือเป็นสิ่งมีชีวิต ฟังดูแปลกๆ นะครับ เพราะเราก็รู้อยู๋ว่ามันมีชีวิต มันแพร่พันธ์ได้ เคลื่อนไหวได้ แล้วเรารู้ได้อย่างไรว่า สัตว์ประเภทใดไม่ได้เกิดจากกรรม? หนอนบางประเภทก็เคยจากอุตุได้ แต่บางประเภทก็ไม่ได้ ดังนั้น คำว่าสัตว์เดรัจฉาน ที่กล่าวถึงข้างต้น มีขอบเขตขนาดไหนครับ เพราะทางวิทยาศาสตร์ก็แบ่งสัตว์ ออกเป็นหลายประเภทมาก อย่างพวกพยาธิ จะจัดเป็นสัตว์เดรัจฉานได้หรือยัง เป็นต้น เอาอะไรเป็นเกณฑ์จัดว่า มีชีวิต หรือ เป็นสัตว์เดรัจฉาน ใคร่เรียนถามเพิ่มเติมครับ ขอบคุณมาก...

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ