สัตว์ในภพภูมิอื่นๆ สามารถทำบุญและทำกรรมได้หรือไม่

 
pheejad
วันที่  29 มิ.ย. 2556
หมายเลข  23106
อ่าน  4,234

นอกจากมนุษย์ทีทำได้ทั้งบุญทั้งบาป สัตว์ในภพภูมิอื่นๆ ทั้งอบายภูมิโดยเฉพาะสัตว์เดียรัจฉาน เทวดา พรหม อรูปพรหม สามารถทำบุญและบาปได้หรือไม่ครับ

ขอขอบพระคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 30 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ชึ้นชื่อว่า สัตว์ คือ สิ่งที่มีชีวิตที่เกิดจากกรรม และ เมอื่เกิดแล้ว โดยมาก สัตว์

ก็มีจิต เจตสิกและรูป อย่างเช่น มนุษย์ เทวดา สัตว์เดรัจฉาน รูปพรหม เป็นต้น

ก็มีจิต เจตสิก รูป ซึ่ง หากเราเข้าใจความจริงว่า บุญ และ บาป ก็คือ จิต และ

เจตสิกที่เกิดขึ้นทำหน้าที่เป็นบุญ และ เป็นบาป ในขณะนั้น เพราะฉะนั้น สิ่งมีชีวิต

ใดที่มี จิต เจตสิก ก็สามารถทำบุญ และ ทำบาปได้ ครับ อย่างเช่น มนุษย์ ก็ทำ

บุญ และ ทำบาปได้ เพราะ มี จิต เจตสิกที่เกิดขึ้น เป็นบุญ และ เป็นบาป เช่น

ให้ทาน รักษาศีล ฟังธรรม ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เป็นต้น เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ เป็น

การทำบุญ ทำบาปที่เป็นการเกิดขึ้นของจิต เจตสิก ครับ แม้สัตว์เดรัจฉาน ก็มี

จิต เจตสิก เมื่อเป็นเช่นนั้นก็สามารถทำบุญ ทำบาปได้ มีการฆ่าสัตว์อื่น มีการ

ทำบุญอื่น มีจิตคิดหวังดี ช่วยเหลือ เป็นต้น ดั่งเช่น พระโพธิสัตว์ทีเกิดเป็นสัตว์

ประเภทต่างๆ ท่านก็ทำกุศลประการต่างๆ ด้วย ครับ โดยนัยเดียวกัน เทวดา

ทั้งหลายก็มี จิต เจตสิกก็ทำบุญ และ บาปได้ รูปพรหมก็มีจิต เจตสิก ก็มีจิต

เจตสิก ก็ทำบุญ และ บาปได้ ยกเว้นแต่ อสัญญสัตตาพรหม ที่เป็นภูมิที่มีแต่รูป

ไม่มี จิต เจตสกในชาตินั้น ชาติที่เป็นอสัญญสัตตาพรหมที่ไม่มีจิต เจตสิก จึงไม่มี

การทำบุญ และ ทำบาป เพราะไม่มีการเกิดขึ้นของจิต เจตสิกในขณะที่เป็น

อสัญญสัตตาพรหม ครับ ส่วน อรูปพรหมก็มีการเกิดขึ้นของกุศล อกุศลจิตได้

เพราะ มีการเกิดขึ้นของจิต เจตสิก แม้ไม่มีการเกิดขึ้นของรูป ครับ

ส่วน อบายภูมิ ที่เป็น สัตว์นรก โดยมากเกิดการทุกข์ทรมาน จึงเกิดการทำกุศล

และ อกุศลโดยยาก ครับ

ทุกอย่างก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย ตามภพภูมิ ตามการสะสมของแต่ละบุคคล

สำหรับเราแล้ว ก็ควรสะสมความดีในชาติที่เกิดเป็นมนุษย์ ที่ได้เกิดในภพภูมิที่

ประเสริฐ อันสามารถเจริญอบรมปัญญา ศึกษาพระธรรมได้ ขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 30 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งที่ควรพิจารณา คือ อะไรเป็นบุญ อะไรเป็นบาป ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็น

ไปของธรรมที่เป็นนามธรรมเลย ขณะใดที่กุศลจิตเกิดขึ้น ก็เป็นบุญ เป็นไปเพื่อชำระขัด

เกลาอกุศล ส่วน บาป เป็นอกุศลธรรม ซึ่งได้แก่ขณะที่อกุศลจิตเกิดขึ้นเป็นไป ซึ่งมีหลาย

ระดับมาก ระดับที่มีกำลังกล้าก็สามารถที่จะประทุษร้ายเบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อนได้

ทั้งหมดล้วนเป็นธรรมที่มีจริง ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดในภพภูมิใด ตราบใด

ที่ยังมีกิเลสอยู่ ก็ย่อมเป็นเหตุให้กระทำในสิ่งที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ตามการสะสมของแต่ละ

บุคคลเพราะเมื่อกล่าวโดยสภาพธรรมแล้ว ก็ไม่มีคน ไม่มีสัตว์ มีแต่ธรรมเท่านั้น บุญ เป็น

บุญ บาป เป็น บาป ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตาม ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้

การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็จะเป็นไปเพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจถูกเห็นถูก และ

มั่นคงในความเป็นจริงของธรรม ว่า มีแต่ธรรมเท่านั้นที่เกิดขึ้นเป็นไปเกิดแล้วก็ดับไป

ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 30 มิ.ย. 2556

สัตว์เดรัจฉาน กุศลเกิดได้ เช่น พระโพธิสัตว์เกิดเป็นกระต่าย ก็สละชีวิตให้ทานค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pheejad
วันที่ 30 มิ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nongnooch
วันที่ 1 ก.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
one_someone
วันที่ 1 ก.ค. 2556

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chutinun2253
วันที่ 22 พ.ค. 2562

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ