การบรรลุธรรมขั้นโสดาปัตติมรรค
ขออนุโมทนาสาธุ ท่านวิทยากรและสมาชิกทุกท่านค่ะ
วันนี้ขอกราบเรียนคำถามธรรมดังนี้ค่ะ
๑ เมื่อเป็นมนุษย์นั้น ปฏิสนธิจิต ของเราคือจิตใดคะ
๒ เป็นมนุษย์มาฟังธรรมอ่านธรรม ที่ถูกต้อง ตามที่ท่านอสุจินต์สอนสั่งนั้น จิตของเรานี้จะไปบรรลุธรรมขั้นโสดาปฏิมัคคจิต ปฐมฌานได้อย่างไร เพียงแต่ฟังธรรม อย่างเดียวหรือต้องสร้างบุญอื่นๆ อะไรอีกบ้าง
๓ การฟังธรรม ของมนุษย์นั้น จิตของเขาอยู่ที่จิตใด ใน จิต๘๙ (จิตทั้งหมดมี๑๒๑ เป็นจิตพระอริยะบุคคล ๔๐จิตคือ มรรคจิต๒๐ ผละจิต๒๐ ถูกต้องใช่ไหมคะ) แล้วจิตนั้นของมนุษย์จะไปสู่โสดาปัตติมัคจิตปฐมฌานเป็นขั้นๆ อย่างไร จากจิตใดไปสู่จิตใด จนกว่าจะถึงโสดาปัตติมรรคจิตปฐมฌานจิต
๔ ดิฉันชื่นชอบการนำเสนอธรรมของบ้านธัมมะมาก ขอส่งกำลังใจมาด้วย ณ ที่นี้ค่ะ
อนุโมทนาสาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
๑ เมื่อเป็นมนุษย์นั้น ปฏิสนธิจิต ของเราคือจิตใดคะ
ในภพภูมิ มนุษย์ ปฏฺสนธิจิตของมนุษย์ ด้วย มหากุศลวิบาก 8 ดวง หรือ
อุเบกขาสันตีรณ กุศลวิบาก ทำให้เกิดเป็นมนุษย์ที่พิการตั้งแต่กำเนิด ครับ
๒ เป็นมนุษย์มาฟังธรรมอ่านธรรม ที่ถูกต้อง ตามที่ท่านอ.สุจินต์สอนสั่งนั้น จิตของ
เรานี้จะไปบรรลุธรรมขั้นโสดาปฏิมัคคจิต ปฐมฌานได้อย่างไร เพียงแต่ฟังธรรม
อย่างเดียวหรือต้องสร้างบุญอื่นๆ อะไรอีกบ้าง
หากเราเข้าใจว่า ทุกอย่างเป็นแต่เป็นการทำหน้าที่ของธรรม คือ จิต เจตสิกที่เกิดขึ้น
จึงไม่มีเราที่ปฏิบัติ แต่ เป็น จิตที่ดีที่ประกอบด้วยปัญญาเกิดขึ้น ทำหน้าที่ปฏิบัติ รู้
ความจริง ดังนั้น อาศัยการฟัง การศึกษาพระธรรม ย่อมเป็นปัจจัยให้เกิด กุศลจิตที่
ประกอบด้วปัญญา และ เมือ่ปัญญาเจริญมากขึ้น ก็ย่อมถึงการบรรลุธรรมได้ คือ เกิด
มรรคจิต ซึ่งกว่าจะถึงตรงนั้น ก็มีการสะสมปัญญามามากแล้ว ในอดีตชาติ ทำให้เห็น
ว่า ในสมัยพุทธกาล มีบุคคลที่ฟังธรรม แล้วบรรลุมากมาย มีท่านอนาถะ นางวิสาขา
เป็นต้น ซึ่งท่านเหล่านี้ก็สะสมปัญญามาในอดีตชาติมามากแล้ว และ เมื่อมีโอกาสได้
ฟังพระธรรมอีก ก็เกิดปัญญาพิจารณา และ เกิดปัญญารู้ความจริงของสภาพธรรมที่
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาได้ จนถึงการบรรลุธรรม ดังนั้น การฟังธรรม ศึกษา
พระธรรม จึงเป็นปัจจัยให้บรรลุธรรมได้ เพราะ เกิดปัญญาเกิดความเห็นถูก อันมีการ
สะสมปัญญา และ ความดีต่างๆ ในอดีตชาติมามากแล้วเป็นปัจจัย ซึ่ง ก็ต้องสะสมบุญ
อื่นๆ มาจากอดีตชาติแล้วด้วย เช่น ทาน ศีล ที่เป็น บารมี 10 ครับ
๓ การฟังธรรม ของมนุษย์นั้น จิตของเขาอยู่ที่จิตใด ใน จิต๘๙ (จิตทั้งหมดมี๑๒๑ เป็น
จิตพระอริยะบุคคล ๔๐จิตคือ มรรคจิต๒๐ ผละจิต๒๐ ถูกต้องใช่ไหมคะ) แล้วจิตนั้นของ
มนุษย์จะไปสู่โสดาปัตติมัคจิตปฐมฌานเป็นขั้นๆ อย่างไร จากจิตใดไปสู่จิตใด จนกว่า
จะถึงโสดาปัตติมรรคจิตปฐมฌานจิต
- ขณะที่ฟังธรรม ขณะที่เข้าใจ ก็เกิดมหากุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญา และ เมื่อ
อาศัยการฟังมากขึ้น เกิด กุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญามากขึ้น ในขั้นการฟัง ย่อมถึง
ปฏิบัติ คือ ขณะที่สติปัฏฐานเกิดรู้ความจริงของสภาพธรรมในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่
เรา และ เมื่อมีการเกิดสติปัฏฐานบ่อยๆ ย่อมถึงปัญญาที่มีกำลัง เกิด วิปัสสนาญาณ
ในแต่ละขั้น ซึ่งมีทั้งหมด 16 ขั้นไปตามลำดับ จนถึง มรรคจิต ผลจิตดับกิเลส ถึง
ความเป็นพระอริยบุคลได้ ครับ
สมดังพระพุทธพจน์ที่ว่า ต้องอาศัยการฟังธรรม พิจารณาธรรมโดยแยบคาย และ
การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม คือ ปัญญาเกิดในขณะที่ฟังธรรมนั่นเอง ย่อมถึง
ความเป็นพระโสดาบันครับ
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 279
๕. ทุติยสาริปุตตสูตร ว่าด้วยองค์ธรรมเครื่องบรรลุโสดา
[๑๔๒๗] ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถามท่านพระสารีบุตรว่า ดูก่อนสารีบุตรที่เรียกว่า โสตาปัตติยังคะ * ๆ ดังนี้ โสตาปัตติยังคะเป็นไฉน. [๑๔๒๘] ท่านพระสารีบุตรกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญโสตาปัตติยังคะ คือ สัปปุริสสังเสวะ การคบสัตบุรุษ ๑ สัทธรรมสวนะฟังคำสั่งสอนของท่าน ๑ โยนิโสมนสิการ กระทำไว้ในใจโดยอุบายที่ชอบ ๑ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑. [๑๔๒๙] พ. ถูกละๆ สารีบุตร โสตาปัตติยังคะ คือ สัปปุริสสังเสวะ ๑ สัทธรรมสวนะ ๑ โยนิโสมนสิการ ๑ ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ๑. ฯลฯ
--------------------------------------
๔ ดิฉันชื่นชอบการนำเสนอธรรมของบ้านธัมมะมาก ขอส่งกำลังใจมาด้วย ณ ที่นี้ค่ะ
ขออนุโมทนาที่สนใจในธรรมเช่นกัน ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
-สิ่งสำคัญคือความเข้าใจถูกเห็นถูก การเกิดเป็นมนุษย์ เป็นผลของกุศลกรรม เป็นผลของความดีที่ได้กระทำแล้ว จิตที่กระทำกิจปฏิสนธิในภูมิมนุษย์ ต้องเป็นมหาวิบาก ๘ ดวงหนึ่งดวงใด แต่ถ้าเป็นบุคคลผู้พิการ บ้าใบ้ บอดหนวกตั้งแต่กำเนิด เป็นผลของกุศลอย่างอื่น ที่เป็นอุเบกขาสันตรีณกุศลวิบาก ซึ่งทั้งหมดนั้น ก็เป็นความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรม ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ไม่มีคนสัตว์ ที่ไปเกิด แต่เป็นธรรมเท่านั้นที่เกิดขึ้นเป็นไป การเกิดในภูมิมนุษย์ จะแตกต่างจากการเกิดในอบายภูมิอย่างสิ้นเชิง เพราะการเกิดในอบายภูมิ เป็นผลของอกุศลกรรม
-หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญาเท่านั้นที่จะเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก ขัดเกลากิเลส มีความไม่รู้ และความเห็นผิด เป็นต้น จนกว่าจะสามารถดับได้จนหมดสิ้น ซึ่งจะขาดการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมไม่ได้เลยทีเดียว ผู้ที่ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสตามลำดับขั้น ล้วนได้ดำเนินตามหนทางนี้มาแล้วทั้งนั้น เป็นหทางเดียว และ ทนทางเดิมจริงๆ ทางอื่นไม่มี เพราะทางอื่นนอกจากนี้ เป็นหนทางแห่งความเห็นผิด ไม่ได้เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมและปัญญาเลย
-ขณะที่ได้ฟังพระธรรมเข้าใจ เป็นกุศลธรรม เป็นการสะสมปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยาก การฟังพระธรรมในแต่ละครั้ง ประโยชน์ก็คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูกที่ค่อยๆ เจริญขึ้น ขณะนี้ยังไม่ต้องกล่าวถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไกลมาก แต่ขณะนี้ได้เริ่มสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกมากน้อยแค่ไหนนี้ คือ สิ่งที่สำคัญ
-ความดี ควรค่าแก่การชื่นชมอนุโมทนา ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตาม ก็ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณhomenumber5ด้วยที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...