สนทนาธรรม ณ แพรวอาภาเพลส ราชบุรี - ธัมมะในชีวิตประจำวัน

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  7 ก.ค. 2556
หมายเลข  23145
อ่าน  1,050

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถอดคำบรรยายธรรมของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ณ แพรวอาภาเพลส ราชบุรี เมื่อ วันอังคารที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๖

คุณจรัญ ฉลวยศรีเมือง - ผู้ดำเนินรายการ

ท่านอาจารย์สุจินต์ ธัมมะ เป็น สิ่งที่มีจริงๆ แต่ว่าโดยมาก พอได้ยิน คำว่า ธัมมะ นี่ค่ะ เราก็เป็นผู้ที่ไม่ละเอียด คือ ยังไม่ทันที่จะรู้ว่า ธัมมะคืออะไร เราก็คิดว่า เราจะศึกษาธัมมะ หรือ เราจะฟังธัมมะ แต่ว่าตามความเป็นจริง ต้องทราบว่า เกือบจะกล่าวได้ทีเดียว ว่าตั้งแต่เกิดจนตาย เราพูดคำที่เราไม่รู้จัก เช่น ธัมมะ ก็เคยได้ยิน แล้วก็เคยพูด แต่ถ้าถามว่า ธัมมะ คือ อะไร ก็ยาก ที่มีใครจะตอบได้

บางคนก็ตอบว่า คือ กุศลธรรม คือ อะไรอีกตั้งหลายอย่าง แต่ว่าตามความเป็นจริง ธัมมะ คำเดียว ไม่ใช่ภาษาไทย แต่เป็นคำที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัส เป็นภาษามคธี ซึ่งดำรงพระศาสนา จึงใชัคำว่า ภาษาบาลี หรือ ปาลี ด้วยเหตุนี้ คนไทย ก็ควรที่จะได้เข้าใจ คำที่เป็นภาษาอื่นให้ถูกต้อง โดยเฉพาะ คือ คำว่า ธัมมะ

ธัมมะ หมายความถึง สิ่งที่มีจริง แค่นี้ เราก็จะเห็นความลึกซึ้งแล้ว ว่า ถ้าจะถามว่า ขณะนี้ อะไร เป็น สิ่งที่มีจริง ก็คงจะตอบกันไป ต่างคนต่างตอบ เช่น โต๊ะมีจริง เก้าอี้มีจริง คนมีจริง แต่ถ้าเป็นสิ่งที่มีจริงอย่างนี้ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คงจะไม่ต้องทรงแสดงอะไรที่ยิ่งกว่านี้ แต่ให้ทราบว่า ธัมมะ หมายความถึง สิ่งที่มีจริง แม้ในขณะนี้ ก็มี แต่เป็นสิ่งที่คนอื่นไม่สามารถจะรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงนั้นได้

ด้วยเหตุนี้ จากการที่ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมี หลังจากที่ได้มีการเกิดดับของสภาพธัมมะในชีวิตประจำวัน แต่ละพระชาติ ทำให้ขณะที่เป็นพระโพธิสัตว์ ก็คิดไตร่ตรองว่า ขณะนี้ สิ่งที่กำลังปรากฏที่ว่า มีจริงๆ คือ อะไร แล้วใครจะเคยคิดอย่างนี้บ้าง เกิดมาแล้ว มีทุกสิ่งทุกอย่าง ในชีวิตประจำวัน แต่ไม่เคยคิดเลยว่า แล้วสิ่งที่มีจริงๆ ขณะนี้ คืออะไร แต่พระโพธิสัตว์ เป็นผู้ที่รู้ว่า สิ่งที่มีจริง เป็น สิ่งที่สามารถที่จะรู้ความจริงได้แน่นอน เพราะ มี ความจริงของสิ่งนั้น

ด้วยเหตุนี้ จึงทรงบำเพ็ญพระบารมีนะคะ เพื่อที่จะได้รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ซึ่งทุกคนที่สนใจธัมมะ รู้ว่า พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ความจริง ซึ่งกำลัง มี ในขณะนี้ เพราะฉะนั้น การฟังพระธรรม ก็คือว่า ก่อนอื่น เข้าใจว่า ไม่ใช่ สิ่งที่เราจะต้องไปค้นคว้าแสวงหา แต่ว่า มีแล้ว ตั้งแต่เกิด และ ขณะนี้ ก็มี ต่อไปก็มี แต่ฟังเพื่อให้เข้าใจถูก ตามความเป็นจริง ว่า ความเห็นของชาวโลก กับ ความเห็นของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่างกันอย่างไร เช่น ในขณะนี้ อะไรมีจริง เห็นมีจริง เป็นธัมมะ ในภาษาบาลี คือ สิ่งที่มีจริง ได้ยิน ทุกคนกำลังได้ยิน ขณะนี้ที่พูดถึง ได้ยิน รู้ตรง ที่ได้ยิน ว่าได้ยิน มีจริงๆ ขณะนั้น ได้ยิน ก็เป็น ธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง อย่างหนึ่ง

เพราะฉะนั้น ตั้งแต่เกิดนะคะ ธัมมะแต่ละหนึ่ง เกิดโดยเหตุโดยปัจจัย สืบต่อมา จนกระทั่ง ถึงขณะนี้ ก็เป็นธัมมะ ไปจนกว่าจะถึง ขณะที่จากโลกนี้ไป ก็ไม่มีคน ไม่มีสิ่งที่เที่ยง เพราะ ถ้าเราพูดถึง คน เราพูดถึงสิ่งที่เที่ยง เหมือนกับว่า คนนี้ เกิดมา ตั้งแต่เด็ก จนโต จนแก่ จนเจ็บ จนตาย แต่ว่า ถ้าไม่มี ธัมมะเลย ก็ไม่มีอะไร ตั้งแต่เกิด แล้วก็แก่ แล้วก็เจ็บ แล้วก็ตาย

เพราะฉะนั้น ก่อนอื่น ให้ทราบว่า ธัมมะ เป็น สิ่งที่ละเอียดยิ่ง การฟังก็คือว่าเป็นผู้ที่ตรง ว่า ได้เข้าใจแต่ละคำที่ได้ฟังแล้วนี่ค่ะ มากน้อยแค่ไหน

เพราะฉะนั้น ก็ขอเริ่ม จากคำว่า ธัมมะ เป็น คำธรรมดา ทุกคนพูดทุกวัน แต่ให้เข้าใจให้ถูกต้องว่า ธัมมะ คือ สิ่งที่จริง ทุกอย่าง ซึ่งมีจริง เพราะ เกิดแล้ว ปรากฏว่ามี แล้วก็ดับไป นี่คือ เริ่ม ความลึกซึ้งของสิ่งที่มี ขณะนี้ สิ่งที่มี ไตร่ตรอง มี เพราะเกิดขึ้น แล้วก็ดับไป ไม่มี สิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งเกิดแล้วไม่ดับไป เลย แต่ว่า เพราะ การเกิดดับสืบต่อนี่ เร็วมาก จึงไม่สามารถ ที่จะ เข้าใจถูก ตามความเป็นจริง ว่า สิ่งที่ปรากฏ ในขณะนี้ ปรากฏชั่วคราว สั้นมาก เพราะว่า ในขณะที่เห็น ดูเสมือนว่า กำลังได้ยินด้วย แต่ว่าตามความเป็นจริง สิ่งใด ที่จะปรากฏ ปรากฏทีละอย่าง จะพร้อมกันไม่ได้ เช่น เสียง กับ ได้ยิน หรือว่า สิ่งที่กำลังปรากฏทางตา กับ เสียง ไม่ใช่อย่างเดียวกันเลย เพราะฉะนั้น จะปรากฏพร้อมกัน ไม่ได้เลย แต่ละหนึ่ง ก็คือว่า สิ่งหนึ่งปรากฏ แล้วก็ดับไป แล้ว อีกสิ่งหนึ่ง ก็ปรากฏ แล้วก็ดับไป สืบต่อ

ตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในที่นี้ จนกระทั่งเข้ามาอยู่ในที่นี้ จนกำลังได้ฟังแต่ละคำ แล้วก็เห็น แล้วก็คิด ทั้งหมด เป็น ชั่วขณะ ที่ละเอียดมาก เล็กน้อยมาก ลึกซึ้งมาก เพราะฉะนั้น การศึกษาพระธรรมเนี่ย ที่จะให้ได้ประโยชน์และความเข้าใจจริงๆ ก็คือว่า ไม่เผิน ศึกษาทีละคำ ให้เข้าใจจริงๆ เพราะฉะนั้น ธัมมะ คือ สิ่งที่มีจริง ทุกกาละ ที่กำลังปรากฏ เมื่อวานนี้จริง ใช่ไหมคะ แต่ว่า วันนี้ เมื่อวานนี้ หายไปไหนหมด

เพราะฉะนั้น ขณะนี้ เห็นเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เห็นเมื่อเช้านี้ แล้วก็ไม่ใช่เห็นที่จะเห็นต่อไปในตอนเย็น หรือ ในเวลาที่หลังจากที่ออกไปจากที่ในห้องนี้แล้ว เพราะฉะนั้น ทุกอย่าง ก็เป็นแต่เพียง สิ่งที่มีจริง ชั่วคราว ก็เป็นเรื่องใหญ่ เพียงตั้งต้น เล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ แต่ก็จะไปสู่ ความเข้าใจ ทุกอย่าง ที่มีจริง ในชีวิตได้ค่ะ

จาก ใหญ่ราชบุรี อาทิตย์ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pat_jesty
วันที่ 8 ก.ค. 2556

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nongnooch
วันที่ 8 ก.ค. 2556

การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 8 ก.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เป็นประโยชน์มาก ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณผู้ใช้นามว่า ใหญ่ราชบุรี เป็นอย่างยิ่ง ครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เข้าใจ
วันที่ 8 ก.ค. 2556

ขอขอบพระคุณ และขอกราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
raynu.p
วันที่ 8 ก.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
mon-pat
วันที่ 9 ก.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 11 ก.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
jaturong
วันที่ 11 ก.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 8 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ