จะรู้ได้อย่างไรว่าเข้าใจธัมมะ - สนทนาธรรม ณ แพรวอาภาเพลส ราชบุรี
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ถอดคำบรรยายธรรม ของ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ณ แพรวอาภาเพลส ราชบุรี อังคาร ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๖
คุณจรัญ ฉลวยศรีเมือง (ผู้ดำเนินรายการ) ก็มีคำถาม หลากหลาย แต่ว่า ถ้าพูดถึง ธัมมะในชีวิตประจำวัน แล้วนี้ ก็พูดถึง การเห็น การได้ยิน การรู้กลิ่น การลิ้มรส และ การกระทบสัมผัส แม้กระทั่งการคิดนึก ต่างๆ มี หลายคำถาม ถามมาว่า เขาจะรู้ ได้อย่างไรว่า เขาเข้าใจ ธัมมะ อย่างเช่น ว่า ธัมมะ ต้อง ขณะนี้ หรือ เดี๋ยวนี้ อย่างนี้ เป็นต้น ครับ
ท่านอาจารย์สุจินต์ “ต้องเป็นผู้ตรง” คะ “เดี๋ยวนี้ มีอะไร”
คุณจรัญ ก็ “เห็น” นี่ครับ
ท่านอาจารย์สุจินต์ ค่ะ
คุณจรัญ ได้ยิน
ท่านอาจารย์สุจินต์ ก็กำลังพูด เรื่อง “เห็น”
คุณจรัญ ครับผม
ท่านอาจารย์สุจินต์ แล้วจะว่า จริง หรือ ไม่จริง
คุณจรัญ เห็นจริงครับ
ท่านอาจารย์สุจินต์ ฟังแล้วเข้าใจ แค่ไหน ถาม คนอื่น ได้ไหมคะ หรือว่า ขณะที่ กำลังฟัง เริ่มเข้าใจ คำว่า “ธัมมะ” คือ สิ่งที่มีจริง เริ่มเข้าใจ คำว่า “อนัตตา” สิ่งที่มีจริง เกิด เพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใครบันดาลได้เลย จึงไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร แล้วก็ไม่ใช่ใครด้วย เพราะเหตุว่า เพียงเกิดขึ้น “เห็น” แล้วดับไป หมดเลย ไม่กลับมาอีก แล้วจะเป็น “เรา” ได้อย่างไร นี่คือว่า “ฟังแล้ว เข้าใจ อย่างนี้ หรือเปล่า”
ถ้าเข้าใจ ก็รู้ว่า ได้เข้าใจแล้ว ถ้า ยังไม่เข้าใจ ยังสงสัย ก็รู้ว่า ยังไม่เข้าใจ จริงๆ เพียงแต่ ฟังแล้ว ก็ยังไม่แน่ใจ ว่า ขณะนี้ “ธัมมะ” ก็คือ ธรรมดาๆ สิ่งที่มีจริง ทั้งหมดนี่แหละ มิฉะนั้นแล้ว จะไปหา “ธัมมะ” อะไร ที่ไหน ลองหา “ธัมมะ” อื่น นอกจาก ชีวิตประจำวัน ทุกวัน มี"ธัมมะ” อื่น ที่ไหน เพราะฉะนั้น เป็น “การไตร่ตรอง” ฟัง “ธัมมะ” ที่จะ เป็นผู้ที่รอบรู้ เป็นผู้ที่เข้าใจ ก็ต่อเมื่อ “คิด” - “ไตร่ตรอง” - “พิจารณา” ว่า เป็นจริง หรือไม่ กำลังกำลังพูด เรื่องอะไร พูดเรื่อง “เห็น” - “เห็น” มีจริงๆ หรือเปล่า ถ้า “เห็น” ไม่มีเลย ไม่ต้องพูด ใช่ไหม ใน สิ่งที่ไม่มี แต่ว่า “เห็น” กำลังมี เพราะฉะนั้น ก็พูด เรื่อง ”เห็น”
จากการที่เคยเข้าใจ ว่า “เราเห็น” ก็รู้ว่า ความจริง “เห็น”เกิดแล้วดับไป แล้วไม่กลับมาอีก ทุกอย่าง เป็นอย่างนี้ แล้วจะมี “เรา” ได้ยังไง ถ้า “เห็น”เป็น “เรา” - “เห็น” ดับแล้ว ถ้า “ได้ยิน” เป็นเรา “ได้ยิน” ก็ดับไปแล้ว เพราะฉะนั้น จะมี “เรา” ได้ยังไง เพราะฉะนั้น ก็ไม่ต้องถามใครเลย เวลาที่ “ฟังแล้วก็ไตร่ตรอง” ก็สามารถ ที่จะ รู้ ได้ว่า เข้าใจ หรือ ไม่เข้าใจ แค่ไหน
คุณจรัญ ครับ