สิ่งไม่มีชีวิต มีการเกิดดับด้วยหรือคะ

 
thilda
วันที่  15 ก.ค. 2556
หมายเลข  23183
อ่าน  1,392

ได้อ่านเรื่องรูปและค้นในเว็บอ่านแล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจค่ะ ที่เราเห็นเป็นสิ่งมีชีวิต คนหรือสัตว์นั้นยังพอเข้าใจ แต่สิ่งที่ไม่มีชีวิต อย่าง แก้วน้ำ รูปภาพ ฯลฯ มีการเกิดดับตลอดเวลาด้วยหรือคะ ดิฉันเข้าใจว่าหลังจากเกิดขึ้นแล้ว ก็มีแต่การเสื่อมลงไป จนดับสลายไปทั้งหมด เรียนขอคำอธิบายด้วยค่ะ กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 15 ก.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

รูปธรรม เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ไม่ใช่สภาพรู้ ตัวอย่างรูป เช่น ตา หู จมูก ลิ้น กาย รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นต้น รูปธรรมเกิดขึ้นตามสมุฏฐานของตนๆ แล้วก็ดับไปไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน รูปมีมากมายมีทั้งรูปที่เป็นภายในและภายนอก เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ทยอยกันเกิดทยอยกันดับ รูปแต่ละกลุ่มจะไม่ปะปนกัน กล่าวคือรูปที่เกิดจากกรรม ไม่ใช่รูปกลุ่มเดียวกันกับรูปที่เกิดจากจิต เป็นต้น และที่สำคัญ รูปจะไม่ปะปนกันกับนามธรรมอย่างเด็ดขาด อายุของรูปเท่ากับจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะ มีอายุที่ยาวนานกว่าจิต (และเจตสิก) เพราะจิตมีขณะย่อย ๓ อนุขณะ คือ ขณะที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป สั้นแสนสั้นจริงๆ ไม่มีใครที่จะสามารถหยุดยั้งความเป็นไปของสภาพธรรมได้เลย ความเป็นจริงของธรรม ก็เป็นเช่นนี้ ใครๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ซึ่งรูปทุกรูปจะต้องเกิดขึ้น และดับไป ตามสมุฏฐาน ที่เกิดของรูป ที่เป็นจิต กรรม อุตุ อาหาร ซึ่งรูปที่เป็น แก้วน้ำ รูปภาพ โต๊ะ เก้าอี้ เหล่านี้ ก็มีกลุ่มของรูปรวมกัน 8 รูป มีธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม สี กลิ่น รส โอชา ซึ่งเกิดจากอุตุ ความเย็น ความร้อน เป็นเหตุให้เกิด ซึ่งรูปก็มีการเกิดขึ้น และดับไป และเมื่อดับไปแล้วก็มีรูปใหม่เกิดขึ้นอีก ทยอยกันเกิด และ ดับไป ครับ เพราะฉะนั้น รูปที่เราเห็นว่าเป็นรูปภาพ แก้วน้ำ ไม่ได้มีรูปเดียว และรูปที่ดับไปแล้ว ก็มีรูปใหม่เกิดขึ้นต่อได้อีก อันมีอุตุ ความเย็น ความร้อนนั้นเป็นปัจจัยให้เกิดรูปใหม่ ส่วนรูปเก่าที่ดับไป ก็ไม่กลับมาใหม่อีกเลย แต่เป็นปัจจัยให้เกิดรูปใหม่ได้ ครับ และรูปใหม่ก็เกิดขึ้นและ ดับไป และก็เกิดรูปใหม่ขึ้นมาอีก ซึ่งไม่ใช่รูปเก่าที่ดับไป ครับ ซึ่งการจะเห็นการเกิดดับของรูปที่เกิดขึ้นและดับไป และเกิดขึ้นใหม่ จะต้องเห็นด้วยปัญญา ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า เห็นด้วยปัญญาระดับสูงที่เป็น วิปัสสนาญาน

ขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 15 ก.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรม หมายถึงสิ่งที่มีจริงๆ มีจริงในขณะนี้ ไม่ปราศจากธรรมเลย มีธรรมเกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอด ซึ่งไม่พ้นไปจากจิต (สภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธาน ในการรู้แจ้งอารมณ์) เจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต) และ รูปธรรม (สภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร ไม่ใช่สภาพรู้ ไม่ใช่ธาตุรู้)

สภาพธรรม ใหม่อยู่เสมอจริงๆ เพราะสภาพธรรมที่เกิดแล้วดับ ไม่กลับมาอีกเลย ไม่ใช่ใคร ไม่ใช่ของใคร เป็นแต่เพียงธรรมแต่ละหนึ่งๆ ที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไปเท่านั้น ซึ่งเป็นธรรมดาที่สภาพธรรมที่มีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง คือ จิต เจตสิกและรูป เมื่อเกิดขึ้นและก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา แม้แต่กล่าวว่า เป็นแก้วน้ำ เป็นรูปภาพ ถ้าไม่มีความเกิดขึ้นเป็นไปของรูปธรรมแล้ว ที่จะบัญญัติว่าเป็นแก้วน้ำ เป็นรูปภาพ ก็มีไม่ได้ ซึ่งเมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว ไม่มีเลยที่สภาพธรรมที่เกิดแล้วจะไม่ดับ เพราะล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดาทั้งนั้นเลย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 15 ก.ค. 2556

รูปเกิดดับ 17 ขณะ และ เมื่อรูปเก่าดับไป ก็มีรูปใหม่เกิดขึ้น ทยอยกันเกิดและดับไป ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Dhanyadol
วันที่ 16 ก.ค. 2556

ขออนุญาตแสดงความเห็น

เรื่องของภาษา ทำให้เข้าใจก็ได้ ทำให้เขวก็ได้ กรณีของคุณThilda คุณ Thilda ได้ความหมายของคำว่า เกิด-ดับ คือ เข้าใจคอนเซ็บต์ (concept) ของคำว่า เกิด-ดับ พอใช้กับสิ่งมีชีวิต ก็ชัดเจน แต่พอใช้กับสิ่งไม่มีชีวิตเช่น แก้วน้ำ ก็จะเกิดปัญหา คือ แก้วน้ำเกิด-ดับได้หรือ เห็นมีแต่การเสื่อมลงไปจนถึงดับสลายไป อันที่จริง ความเข้าใจของคุณThilda กับสภาวธรรม (หรือสภาพธรรม) ของรูป โอเค สามัญลักษณะของรูป คือ การเสื่อมสลายไปเพราะวิโรธิปัจจัย การเกิด-ดับ กับ การเกิด-การเสื่อมดับสลาย ในความหมายก็อย่างเดียวกัน มีความหมายเท่ากัน คำว่า รูป ในแง่คือในความหมายทางปรมัตถธรรม เป็นเช่นนี้ ก็คงต้องเสริมความเข้าใจในแง่การศึกษาว่า เราเรียนรู้สภาวธรรม ของสิ่งต่างๆ ไปทำไม เพื่ออะไร คำตอบก็คือ เพื่อการปฏิบัติธรรม เราเรียนรู้เรื่อง ขันธ์ ๕ เราเรียนรู้เรื่องอุปาทานขันธ์ ๕ เพื่อการปฏิบัติธรรม เรารู้ว่าสภาวธรรมของสรรพสิ่งไม่เที่ยงเพราะมันเกิดขึ้นแล้วเสื่อมสลายไปดับไป เช่นนี้ การยึดมั่นถือมื่อ (อุปาทาน) ทำได้หรือไม่ ก็ให้คำตอบในตัวว่า จะไปยึดมั่นถือมั่น ให้มันเป็นไปตามที่เราอยาก เราต้องการ ไม่ได้ ใครอยาก ใครต้องการให้มันเป็นไปตามอำนาจของเรา ก็จะต้องรับทุกข์ เพราะสภาวธรรมของขันธ์ ๕ มันไม่ยอมให้เราเข้าไปยึดมั่นถือมั่น เราเรียนรู้ปรมัตถ์ ช่วยส่งในด้านความเข้าใจ

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
thilda
วันที่ 16 ก.ค. 2556

ขอบพระคุณท่านอาจารย์และทุกท่านค่ะ พอเข้าใจแล้วค่ะ ถ้าเช่นนั้น ของไม่มีชีวิตที่มีอายุไม่เท่ากัน เช่น ขนม กับ ถุงพลาสติก ก็มีการเกิดดับ เกิดดับเหมือนกัน ช่วงเวลาของรูปหนึ่งๆ ตั้งแต่เกิดจนถึงดับคือ 17 ขณะจิตเท่ากัน รูปทยอยกันเกิดและดับสืบต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะดับไปทั้งหมดไม่มีการเกิดอีก (หมายถึงกลุ่มรูปที่รวมกันเป็นของนั้นๆ ) แต่ของทั้งสองมีจำนวนการเกิดดับต่างกัน ถุงพลาสติกอาจมีการเกิดดับเป็นระยะเวลานานกว่ามากๆ กว่าจะดับไปทั้งหมด สอบถามเพื่อความเข้าใจชัดเจน กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
govit2553
วันที่ 17 ก.ค. 2556

แต่สิ่งที่ไม่มีชีวิต อย่าง แก้วน้ำ รูปภาพ ฯลฯ

ขอถามเสริมจากเจ้าของกระทู้นะครับ ว่า

รูปพวกนี้อาศัย ปัจจัย อะไร ในการเกิดสืบต่อครับ

อนันตรปัจจัย ได้มั๊ย

สหชาตปัจจัย ได้มั๊ย

สมนันตรปัจจัย ได้มั๊ย

วิปากปัจจัย ได้มั๊ย

ปุเรชาตปัจจัย ได้มั๊ย

และปัจจัย อื่นๆ ครับ ....................... ได้มั๊ย หรืออย่างไรครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ