พระธาตุที่มีผู้แสดงไว้ว่าเป็นของหลวงปู่หลวงตาเป็นพระอรหันต์จริงหรือ

 
ดวงทิพย์
วันที่  24 ก.ค. 2556
หมายเลข  23239
อ่าน  1,777

เห็นภาพในอินเตอร์เน็ตค่ะ เห็นพระธาตุที่ตั้งอยู่ที่วัดอโศการาม สมุทรปราการอะค่ะ ว่าเป็นของหลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงตาศิษย์หลวงปู่มั่น เป็นความจริงไหมคะที่ท่านเหล่านั้นเป็นพระอรหันต์ เราจะมีวิธีพิจารณาอย่างไรดีคะ

กราบขอบพระคุณสำหรับคำตอบค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 24 ก.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธาตุ ก็คือ ส่วนที่เป็นกระดูก ที่เกิดจากการเผาศพแล้ว เพราะฉะนั้น ไม่ได้ หมายความว่า จะต้องเป็นพระอริยเจ้าเท่านั้น จึงจะมีพระธาตุ มีกระดูกที่เกิดจากการ เผาศพ แม้ปุถุชนก็มีกระดูกที่เป็นธาตุ คือ ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ประชุมรวมกัน ที่เป็น รูปธาตุด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่ากระดูกของใครที่ควรจะเคารพ สักการะ ควรแก่การบูชา ก็ต้องสรีระ กระดูกของผู้ที่มีคุณธรรม มีพระอริยเจ้าขั้นต่างๆ ทั้งพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และ พระอรหันต์ พระอัครสาวก พระปัจเจกพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า อันเป็นผู้ควรแก่การบูชา ด้วยการระลึกถึงพระคุณ แต่ไม่ใช่เพื่อการได้ ลาภ สักการะ เป็นสำคัญ เพราะฉะนั้น จึงไม่ได้มีความเป็นพิเศษว่า กระดูกของผู้มี คุณธรรม จะต้องมีสีสันต่างๆ แปลกๆ ที่สมมติว่าอย่างนี้คือ พระธาตุ เพราะพระธาตุ ในความหมายที่อธิบายแล้ว ก็คือ การประชุมของสภาพธรรม ที่เป็นรูปธรรม เป็นรูป ธาตุเท่านั้น

ที่สำคัญไม่ได้หมายความว่า คุณธรรม จะวัดกันที่รูปร่างลักษณะของกระดูก ที่ สมมติว่าเป็นพระธาตุ เพราะ คุณธรรม เป็นสิ่งที่เป็นนามธรรม ไม่สามารถเห็นได้ ด้วย ตา แต่ต้องเห็นได้ ด้วยปัญญา ส่วนกระดูก ที่สมมติว่าเป็นพระธาตุ ก็เป็นเพียงสี สิ่งที่ ปรากฏทางตาเท่านั้นครับ เพราะคุณธรรม คือ ปัญญา เป็นคุณธรรมภายใน ที่รู้ได้ด้วย ปัญญา ด้วยการสนทนา เป็นต้นครับ

ปัญญา คุณธรรมต่างหาก เป็นตัวตัดสิน ว่าผู้ใดมีคุณธรรม หรือ ไม่มีคุณธรรมไม่ใช่ เพียงลักษณะภายนอก ของสิ่งหลงเหลือยู่จากร่างกายที่ปราศจากจิต วิญญาณ

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 453

ข้อความบางตอนจาก ชฎิลสูตร [๓๕๖]

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนมหาบพิตร

พระองค์เป็น คฤหัสถ์บริโภคกาม ครอบครองเรือน บรรทมเบียดพระโอรสและพระชายา ทาจุรณจันทน์อันมาแต่แคว้นกาสี ทรงมาลาของหอมและเครื่องลูบไล้ ยินดี เงินและทอยากที่จะรู้เรื่องนี้ว่า คนพวกนี้เป็นพระอรหันต์ หรือคนพวกนี้ บรรลุอรหัตตมรรค

ดูก่อนมหาบพิตร ปัญญาพึงรู้ได้ด้วยการสนทนา ก็ปัญญานั้นจะพึงรู้ ได้ด้วยกาลนาน ไม่ใช่ด้วยกาลเล็กน้อย ผู้ใส่ใจจึงจะรู้ได้ ผู้ไม่ใส่ใจก็ไม่รู้ ผู้ มีปัญญาจึงจะรู้ได้ ผู้มีปัญญาทรามก็ไม่รู้.


เพราะฉะนั้น การเห็นเป็นพระธาตุ ตา เพียงเห็นสีเท่านั้น ซึ่งเพียงสิ่งที่ปรากฎทางตา ไม่ได้เป็นเครื่องวัดว่า จะเป็นพระอรหันต์ มีคุณธรรมอย่างไร เพียงแค่สีที่ปรากฎ แต่ การเห็นด้วยตา คือ ปัญญา ย่อมสามารถแยะแยะความจริงได้ว่า ผู้นั้น มีคุณธรรม อย่างไร

เพราะ คุณธรรม เป็นสภาพธรรมที่เป็นนามธรรม ไม่สามารถเห็นด้วย ตาเนื้อ แต่เห็น ด้วยปัญญา ครับ

ประโยชน์ของการเห็นสิ่งหนึ่ง สิ่งใด มี สรีระ ที่ปราศจากวิญญาณ ที่เรียกว่ากระดูก เป็นต้น เพื่อการระลึกถึงความจริงของชีวิตว่า แม้เราก็ไม่พ้นจากความตาย ควรที่ จะไม่ประมาทกับชีวิต จึงเจริญกุศล อบรมปัญญา เท่าที่ชีวิตที่เหลือยู่ ในขณะที่เกิด เป็นมนุษย์ เพราะไม่ว่าใครก็ไม่พ้นจากความตาย การเห็น ด้วยการพิจารณาอย่างนี้ ย่อมจะเป็นประโยชน์กับชีวิตที่สุด ครับ

ขออนุโมทนา

เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ

พระธาตุ

จะอธิบายให้ผู้ที่เชื่อว่าดูพระอรหันต์จากกระดูก (กลายเป็นพระธาตุ) อย่างไร?

พระธาตุบอกความเป็นอรหันต์ใช่ไหม

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 25 ก.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถ้ามีความเข้าใจพระธรรมอย่างถูกต้องแล้ว จะไม่หวั่นไหวไปกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ แตกตื่นกันไปเอง ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่จะมั่นคงในความเป็นจริง ในเหตุในผลว่า การเป็นพระอริยบุคคล ไม่ใช่อยู่ที่กระดูก แต่อยู่ที่การอบรมเจริญปัญญา ดำเนินตาม หนทางที่ถูกต้อง ถ้าไม่ได้ดำเนินตามหนทางนี้แล้ว ไม่สามารถจะเป็น พระอริยบุคคล ขั้นต่างๆ ได้เลย แม้พระโสดาบันก็เป็นไม่ได้ ถ้าไม่มีปัญญา คงไม่ต้องกล่าวถึง พระ อริยบุคคลขั้นสูงสุด คือ พระอรหันต์

เมื่อได้ทราบเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง ก็ยิ่งเป็นเครื่องเตือนใจ ให้เป็นผู้ไม่ประมาทในการศึกษาพระธรรมให้ยิ่งขึ้นต่อไป เพราะความเข้าใจ ถูกเห็นถูก จะเป็นที่พึ่ง ไม่ให้ตกไปในฝ่ายผิด และ ยังจะสามารถเกื้อกูลผู้อื่น ให้ได้มี ความเข้าใจถูกเห็นถูกตามไปด้วย เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน อีกประการหนึ่งที่ควรจะได้พิจารณา คือ ไม่ว่าจะเป็นบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ เมื่อละจากโลกนี้ไป ร่างกายมีวิญญาณไปปราศ แล้วหาประโยชน์มิได้ ในที่สุด ก็จะต้องเน่าเปื่อยผุพังไม่ช้าก็เร็ว เป็นเพียงรูปธรรม ที่เกิดเพราะอุตุ เท่านั้น

ในขณะนี้กำลังมีชีวิตอยู่ ก็ควรที่จะรู้ความจริงว่า วันหนึ่งเราก็จะต้องตายตายเหมือน กับคนที่ตายไปแล้วนั่นแหละ จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง แต่ในขณะที่กำลังมีชีวิตอยู่ ก็ ควรที่จะได้พิจารณาว่า การที่จะจากโลกนี้ไปนั้น จะจากไปด้วยปัญญาที่อบรม จน กระทั่งเจริญขึ้น หรือว่า จะจากไป โดยที่ว่าไม่สนใจฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เลย?

บุคคลผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ได้ศึกษาพระธรรม ก็ย่อมจะได้รับประโยชน์จากพระธรรม ตามระดับขั้น ของความเข้าใจของตนเอง ดังนั้นพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรง แสดงไว้ดีแล้วเท่านั้น ที่จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริง และ จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ใฝ่ใจ ศึกษาเห็นประโยชน์ พร้อมทั้ง มีความจริงใจที่จะน้อมประพฤติปฏิบัติตาม เพื่อละคลาย ขัดเกลากิเลสในชีวิตประจำวันเท่านั้น ดังนั้น แทนที่จะไปคิดถึงเรืองอื่น ก็ควรจะได้เห็น ประโยชน์ของการเข้าใจพระธรรม ซึ่งจะเข้าใจได้ ก็ด้วยการฟัง การศึกษา ด้วย ความละเอียดรอบคอบ จริงๆ

ข้อความตอนหนึ่งจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เตือนใจดีมาก คือ

"ถ้าเป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฟังพระธรรม ยังไม่ได้พิจารณาพระธรรม ยังไม่ได้อบรม เจริญ ปัญญา ก็ลองคิดดูว่า ชาตินี้ทั้งชาติ จะจบลงอย่างไร ก็ต้องไปกับด้วยกิเลส ที่หนาขึ้นๆ ทุกวัน แต่ถ้ามีโอกาสได้ฟัง ละคลายความไม่รู้ อบรมเจริญกุศลทุกประการ เพิ่มขึ้น ก็เป็นชาติที่มีประโยชน์ เมื่อกระดูกทุกชิ้นยังรวมกันอยู่ ยังไม่กระจัดกระจาย ก็ควรที่จะ ให้เป็นประโยชน์ ในการที่จะได้เกิดปัญญาเพิ่มขึ้น"

อ้างอิงจาก ...

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๙๕

... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 25 ก.ค. 2556

เราไม่ใช่พระอรหันต์จึงไม่รู้ว่าใครเป็นพระอรหันต์ และสมัยนี้ก็ไม่มีพระอรหันต์ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ดวงทิพย์
วันที่ 25 ก.ค. 2556

ค่ะ โดยส่วนตัวแล้วเวลาเห็นพระธาตุที่มีความใสความสวยงามนั้น ในใจก็คิดว่า เออหนอเราเองก็ไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นไม่ได้ไปเก็บเถ้ากระดูกของพระที่ถูกเผาเมื่อวานนี้ (โดยทราบมาว่าจะมีเฉพาะลูกศิษย์ใกล้ชิดเท่านั้นที่จะเป็นผู้ไปเก็บเถ้ากระดูก) แล้ว วันรุ่งขึ้นก็จะมีข่าวว่ากระดูกเป็นพระธาตุ และพระธาตุสามารถเพื่มจำนวนได้อีก ก็ ได้ยินมาโดยตลอด คนที่เล่าบางทีก็เป็นเพื่อนแพทย์ด้วยค่ะ แต่ก็มีพระบางรูปท่าน บอกว่าเอาขวดสไปรท์โยนไปก็เป็นพระธาตุแล้วค่ะ

ตอนนี้ชัดเจนแล้วค่ะ เรามีหน้าที่สะสมความเห็นถูกจากวาจาสัจจะที่ยังมีให้ได้ยิน

สาธุๆ ๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nopwong
วันที่ 26 ก.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
papon
วันที่ 26 ก.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ch.
วันที่ 26 ก.ค. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
guy
วันที่ 26 ก.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
orawan.c
วันที่ 26 ก.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Parinya
วันที่ 29 ก.ค. 2556

ผมได้อ่าน (จะอธิบายให้ผู้ที่เชื่อว่าดูพระอรหันต์จากกระดูก ... กลายเป็นพระธาตุ อย่างไร?) ดีมาก และคำตอบตอนบน ของอาจารย์คำปั่นท่านเขียนว่า ... "ถ้ามีความเข้าใจ พระธรรมอย่างถูกต้องแล้ว จะไม่หวั่นไหวไปกับเหตุการณ์ต่างๆ ". ท่านเตือนสติให้เข้าใจ พระธรรมครับ

ก็ขออนุโมทนาด้วย

ปริญญา

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ดวงทิพย์
วันที่ 30 ก.ค. 2556

คนมักคิดกันอย่างนี้ว่า ถ้าเรารู้ว่าท่านใดกระดูกเป็นพระธาตุใสๆ สวยๆ มีรูปร่างดังแก้ว ที่งดงาม แสดงว่าท่านนั้นเป็นพระอรหันต์ เสร็จแล้วจะตามด้วยการไปหาหนังสือ เทป ซีดี เอ็มพีสาม เข้าเวป เพื่อฟังสิ่งที่ท่านนั้นๆ สอนธรรม โดยลึกๆ คือพยายามเลือกครูที่ เลิศที่สุด ... โดยมิได้เฉลียวใจเลยว่า ครูที่เลิศที่สุดคือใคร และอยู่ที่ไหน ... ..จนกว่าจะ ถึงวาระนั้น ของแต่ละคนจริงๆ ค่ะ เคยเป็นมาก่อนค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ