รูปพรหมภูมิ มีปฏิสนธิจิตหรือไม่

 
govit2553
วันที่  26 ก.ค. 2556
หมายเลข  23245
อ่าน  1,760

รูปพรหมภูมิ มีปฏิสนธิจิตหรือไม่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 26 ก.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

รูปพรหม เป็นบุคคลที่อบรมฌาน และ ฌานไม่เสื่อม ที่เป็นรูปฌาน ย่อมเกิดในรูปพรหม ซึ่งรูปพรหม มี 16 ภูมิ เพราะฉะนั้น รูปพรหมจึงมีมาก โดยมาก รูปพรหม เป็นบุคคลที่มีขันธ์ 5 คือ มี รูป และ มีนามด้วย ไม่ใช่มีเพียงแต่รูปเท่านั้น เพียงแต่ว่าที่ใช้คำว่า รูปพรหม หมายถึง ผู้ที่อบรม รูปฌาน แล้วไม่เสื่อม เกิดใน รูปพรหม ครับ ซึ่ง ตามที่กล่าวแล้ว รูปพรหมโดยมาก มีขันธ์ 5 อย่างเช่น สหัมบดีพรหม ที่เป็นรูปพรหม ลงมาอาราธนาให้พระพุทธเจ้าแสดงธรรม เป็นต้น ก็มีทั้งรูป และ นาม คือ มีขันธ์ 5 หากแต่ว่า ในรูปพรหม มีภพภูมิหนึ่ง ที่มีแต่รูป ไม่มีนามเลย เรียกว่า อสัญญสัตตาพรหม หรือ พรหมลูกฟัก ที่มักเรียกกัน ครับ

พรหมลูกฟัก หรืออสัญญสัตตาพรหม คือ พรหมที่มีเพียงแต่รูป ไม่มีนามธรรม คือ จิต เจตสิกเกิดขึ้นเลยครับ ซึ่งเกิดจากบุคคลที่อบรมสมถภาวนาจนได้ปัญจมฌาน แต่เป็นผู้ที่ปรารถนาที่จะไม่มีนามธรรมเพราะเห็นโทษว่าความคิด ความวุ่นวาย ความเดือดเนื้อร้อนใจเกิดขึ้นได้เพราะมีนามธรรม จึงอบรมจิตให้สงบโดยเบื่อหน่ายต่อนามธรรม (สัญญาวิราคะ) เมื่อฌานไม่เสื่อมหลังจากที่ตายแล้ว ทำให้มีรูปปฏิสนธิ คือ เมื่อจุติจิตเกิดเคลื่อนจากความเป็นมนุษย์แล้ว เกิดเป็นพรหมที่เป็นอสัญญสัตตาพรหม เป็นเพียงรูปปฏิสนธิเท่านั้น แต่ไม่ใช่นามปฏิสนธิครับ จึงไม่มีนามธรรมเกิดขึ้นเลยครับ มีแต่เพียงรูปเท่านั้นครับ ซึ่งเมื่อบุคคลนั้นตายด้วยอิริยาบถใด อสัญญาสัตตาพรหมก็มีอิริยาบถนั้นไปตลอดอายุ ซึ่งมีอายุ 500 กัป ซึ่งในขณะนั้นไม่มีการเกิดขึ้นของสภาพธรรมที่เป็นนามธรรมเลย แต่ก็อยู่ด้วยกำลังของกุศลที่เป็นฌาน เหมือนกับลูกศรที่ยิงออกไป หมดแรงเมื่อไหร่ก็ตกลงมา เมื่ออสัญญสัตตาพรหมจะจุติ ก็จุติด้วยรูปจุติเช่นกัน ไม่ใช่นามครับ

ดังนั้น จึงกล่าวสรุปตาม คำถามที่ถามว่า รูปพรหมที่มีแต่รูป ไม่มีนาม ที่เป็นอสัญญสัตตาพรหม มีปฏิสนธิจิต และ จุติจิตหรือไม่ คำตอบ คือ ไม่มีจิต เจตสิกเกิดขึ้น การเกิด จึงเป็นการเกิดขึ้น ของ รูปปฏิสนธิเท่านั้นแต่ ไม่มีปฏิสนธิจิต ซึ่งรูปปฏิสนธิมีกรรมเป็นปัจจัยให้เกิด เช่นเดียวกับ จุติจิตไม่เกิดขึ้นอีกเช่นกัน แต่ เคลื่อนจากความเป็อสัญญสัตตาพรหม ด้วยกรรมที่หมดแล้วนั่นเอง ที่เป็นรูปจุติ ครับ

อสัญญสัตตาพรหม เป็นภูมิที่ไม่มีนาม จึงไม่สามารถจะฟังพระธรรม อบรมปัญญาได้เพราะไม่มีการเกิดขึ้นของจิตเห็น จิตได้ยินเลยครับ พระโพธิสัตว์ทั้งหลายท่านจะไม่เกิดในภพภูมินี้เลยครับ

ตราบใดที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ อันเนื่องมาจากยังไม่สามารถดับกิเลสใดๆ ได้เลย นั้น สิ่งที่จะเป็นที่พึ่งได้จริงๆ คือ กุศลธรรม ธรรมที่ดีงามประการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปัญญา ความเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง เรื่องพรมหบุคคล เป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก ขณะนี้พวกเราได้เกิดในภูมิมนุษย์ ซึ่งเป็นภูมิที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญกุศลได้ทุกประการ ไม่มี-เว้นเลย และยังเป็นยุคที่พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังดำรงอยู่ จึงเป็นโอกาสที่ดียิ่งในชีวิตที่จะได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป ไม่ควรละเลยโอกาสที่มีค่าอย่างสูงสุดนี้ ดังข้อความตอนหนึ่งจากอักขณสูตร ดังนี้ ครับ

[เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ หน้าที่ ๔๕๔

"พระตถาคตเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ในกาลบางครั้งบางคราว การที่พระตถาคตเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ๑ การได้กำเนิดเป็นมนุษย์ ๑ การแสดงสัทธรรม ๑ ที่จะพร้อมกันเข้าได้ หาได้ยากในโลก ชนผู้ใคร่ประโยชน์ จึงควรพยายามในกาลดังกล่าวมานั้น ที่ตนพอจะรู้จะเข้าใจสัทธรรมได้ ขณะอย่าล่วงเลยท่านทั้งหลายไปเสีย"

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 26 ก.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ที่ยังมีการเกิดท่องเที่ยววนเวียนไปในสังสังสารวัฏฏ์ ก็เพราะว่ายังไม่ได้ดับเหตุที่จะทำให้มีการเกิด นั่นก็คือ อวิชชา และ ตัณหา เมื่อยังมีอวิชชาและตัณหาอยู่ ก็ยังต้องเกิดวนเวียนไปในสังสารวัฏฏ์ เป็นไปตามเหตุปัจจัย แม้จะได้เกิดในพรหมภูมิ ก็ยังไม่พ้นจากทุกข์ เมื่อว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ไม่มีคน ไม่มีสัตว์ มีแต่ธรรมเทานั้นที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่

รูปพรหมภูมิ มี ๑๖ ชั้น การเกิดในรูปพรหมภูมิ เป็นด้วยผลของการอบรมเจริญรูปฌาน เมื่อฌานไม่เสื่อมก่อนจุติ ก็ทำให้เกิดในรูปพรหมภูมิตามควรแก่ระดับของฌานที่ได้ เกิดเป็นรูปพรหม นั้น ที่มีทั้งรูปทั้งนาม ก็มีหรือเฉพาะที่ได้รูปปัญจมฌาน ทำให้เกิดความเบื่อหน่ายในนามธรรม ก็ทำให้เกิดเป็นอสัญญสัตตาพรหม มีเฉพาะรูปธรรมอย่างเดียว ไม่มีนามธรรมเกิดขึ้นเป็นไปเลยตลอดระยะเวลาที่เป็นอสัญญสัตตาพรหมก็มี เพราะฉะนั้น ผู้ที่เกิดในรูปพรหมภูมิ (ยกเว้น อสัญญสัตตาพรหม เท่านั้น) มีนามธรรม และ รูปธรรมเกิดขึ้นเป็นไป ดังนั้น มีปฏิสนธิจิต มีภวังคจิต และในที่สุดก็มีจุติจิต และมีรูปธรรมเกิดขึ้นเป็นไป ด้วย แต่เฉพาะผู้ที่เป็นอสัญญาสัตตาพรหมเท่านั้น ที่ไม่มีนามธรรม

ที่น่าพิจารณา คือ สำหรับผู้ที่เกิดในอสัญญสัตตาพรหมภูมิ มีรูปปฏิสนธิอย่างเดียว เกิดขึ้นด้วยกำลังของฌานขั้นที่ ๕ เพราะเห็นโทษในนามธรรม เมื่อเคลื่อนจากภูมินั้น มีรูปจุติอย่างเดียว ไม่มีจิตและเจตสิก ส่วนจิตและเจตสิกไม่มีปัจจัยจึงไม่เกิดขึ้น เมื่ออสัญญสัตตาพรหมหมดอายุย่อมมีปัจจัยให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นในภูมิที่มีขันธ์ ๕ กล่าวคือ มีทั้งนามธรรมและรูปธรรม ได้

ถ้าจะกล่าวถึงรูปพรหมภูมิแล้ว เป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก สิ่งที่จะเป็นประโยชน์ คือ
ขณะนี้ ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มีสภาพธรรม คือ จิต เจตสิก รูป เกิดขึ้นเป็นไปควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาให้เข้าใจสภาพธรรมเหล่านี้ ตามความเป็นจริง เพราะจิต เจตสิกและรูป ไม่ได้อยู่ในตำรา แต่มีจริงทุกขณะ ซึ่งจะต้องอาศัยการฟัง การศึกษา สะสมปัญญาไปตามลำดับ ธรรม เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แต่ไม่เหลือวิสัยสำหรับผู้ที่ตั้งใจศึกษา เพื่อความเข้าใจจริงๆ เพราะสิ่งที่สามารถรู้ได้ สามารถเข้าใจได้ ก็คือสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้ นั่นเอง พร้อมกันนั้น จะมุ่งที่จะฟังพระธรรมอย่างเดียว ไม่ได้ ก็จะต้องไม่ประมาทในการสะสมความดีประการต่างๆ ด้วย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 26 ก.ค. 2556

รูปพรหม มีจิต เจตสิกด้วย ในบางภพภูมิ อสัญญสัตตาพรหม ไม่มีจิต เจตสิกเกิดขึ้นเฉพาะรูป เกิดจากกรรม ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
govit2553
วันที่ 26 ก.ค. 2556

ขอถามต่อครับ..

เมื่อสิ้นสุดกำลังของฌาน ในอสัญญสัตตาพรหม รูปจุติ แล้ว การจะเกิดปฏิสนธิจิต ณ ภพภูมิใดอาศัย เหตุปัจจัยใดครับ เพราะ ช่วงที่เป็นอสัญญสัตตาพรหม ไม่มีจิตสุดท้ายก่อนจุติ การจะไปเกิด ที่ภพภูมิใด อาศัยอะไรเป็นเกณฑ์ครับ เพราะเท่าที่ได้เรียนรู้มา จิตสุดท้ายก่อนตาย เป็นตัวกำหนดภพภูมิ ว่าจะไปเกิดที่ไหน

ขอความกระจ่าง ด้วยครับ ถ้าทราบ ขอบคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Lamphun
วันที่ 26 ก.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 26 ก.ค. 2556

เรียนความเห็นที่ 4 ครับ

การเกิด ใหม่ของการสินอายุ ของอสัญญสัดตาพรหม ก็เพราะอาศัยกรรมเป็นป้จจยสําคัญ ถึงแม้ไม่มีชวนจิตสุดท้าย แต่ก็ยังมีกรรมแต่ก็ยังมีกรรมอื่นๆ ในอดีตชาติเป็นปัจจัยสําคัญ ทำให้กำหนดว่าจะเกิดเป็นอะไรในชาติหน้า ครับ ดังนั้น ในอสัญญสัตตาพรหม จึงมีกรรมเป็นป้จจัยสําคัญ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nopwong
วันที่ 27 ก.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
isme404
วันที่ 29 ก.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ