อกุศลจิตเกิดผ่านทางทวารใดปสาทของทวารนั้นต้องรับอกุศลวิบากผิดหรือถูกครับ
อกุศลจิตเกิดผ่านทางทวารใดปสาทของทวารนั้นต้องรับอกุศลวิบากผิดหรือถูกครับ
กระผมฟังจากMP3 พระอภิธรรมพื้นฐานประมาณตอน 70 กว่าอาจารย์ช่วยให้รายละเอียดด้วยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อกุศลจิต เกิดไ้ทั้งทามโนทวาร และ ทางปัญจทวาร โดยเกิด ที่ชวนจิต 7 ขณะ เป็นต้น
ครับ ซึ่ง ชวนจิตก็มีทั้งทางปัญจทวาร และ ทางมโนทวาร
ส่วน ปสาทรูป นั้น เป็นรูปที่มีความผ่องใส ทำหน้าที่ รับกระทบ รูป ที่เป็น สิ เสียง
กลิ่น รส สิ่งที่กระทบสัมผัส เพียงทำหน้าที่รับกระทบ แต่ ไม่รู้อะไร เพราะรูป ไม่ว่า
รูปใด ก็ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น ครับ
ดังนั้น ปสาทรูป 5 ไม่ได้ทำหน้าที่ รับอกุศลวิบาก แต่ สภาพธรรมที่ทำหน้าที่รับ
อกุศลวิบาก คือ จิต เจตสิก ที่เป็นชาติวิบาก คือ ทวิปัญจวิญญาณจิต 10 ดวง ใน
ขณะนั้น เช่น การเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การรู้กระทบสัมผัส ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่ว่าจะกล่าวถึงอะไรก็ไม่พ้นไปจากชีิวิตประจำวัน ซึ่งเป็นธรรมที่มีจริง แต่ถ้าไม่ได้
ฟังไม่ได้ศึกษา แม้จะมีธรรมทุกขณะ ก็ไม่สามารถจะเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็น
จริงได้เลย สิ่งที่กล่าวถึงนั้น คือ อกุศลจิต แล้วคืออะไร คือ จิตที่มีอกุศลเจตสิก
เกิดร่วมด้วย กล่าวคือ มีโลภะเกิดร่วมด้วย หรือ มีโทสะ เกิดร่วมด้วย หรือ แม้ไม่มี
โลภะ กับโทสะ เกิดร่วมด้วย ก็มีโมหะเกิดร่วมด้วย แต่ทุกขณะที่อกุศลจิตเกิดขึ้นนั้น
จะไม่ปราศจากโมหะ เลย เพราะเกิดทั่วไปกับอกุศลจิตทุกประเภท ซึ่งจำแนกประ
เภทของอกุศลจิตแล้ว มีประเภทใหญ่ๆ คือ โลภมูลจิต (จิตที่มีโลภะเป็นมูล)
โทสมูลจิต (จิตที่มีโทสะเป็นมูล) และ โมหูลจิต (จิตที่มีโมหะเป็นมูล) ซึ่งล้วนแล้ว
แต่เป็นอกุศลจิตที่เกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวัน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นไปมาก กว่ากว่า
กุศลจิต อย่างเทียบกันไม่ได้เลย อกุศลจิต เกิดได้ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก
ทางลิ้น ทางกาย และ ทางใจ เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยไม่อยู่ในอำนาจบังคับ
บัญชาของใครทั้งสิ้น
ส่วนการรับผลของกรรม ที่เรียกว่า วิบาก นั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดมาก เราไม่สามารถ
จะรู้ได้ว่า กรรมใด จะให้ผลเมื่อใด และขณะที่รับผลของกรรมอยู่นี้ เป็นผลของกรรม
อะไร ในชาติไหน แต่ที่พอจะเข้าใจได้คือ ถ้าได้รับสิ่งที่ดีที่น่าปรารถนาน่าใคร่น่า
พอใจ นั้นเป็นผลของกุศลกรรม ในทางตรงกันข้าม ถ้าได้รับสิ่งที่ไม่ดี ไม่น่าปรารถนา
ไม่น่าใคร่ไม่น่าพอใจ เป็นผลของอกุศลกรรม เหตุย่อมสมควรแก่ผล สำหรับทางที่
จะได้รับผลของกรรมหลักๆ แล้ว ไม่พ้นไปจากทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น
ทางกาย ในขณะที่ได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส นั่นเอง ซึ่งต้อง
มีปสาทรูปเป็นที่เกิดของวิบากจิตประเภทนั้นๆ กล่าวคือ จิตเห็น มีจักขุปสาทรูป
เป็นที่เกิดจิตได้ยิน มีโสตปสาทรูปเป็นที่เกิด จิตได้กลิ่น มีฆานปสาทรูปเป็นที่เกิด
จิตลิ้มรสมีชิวหาปสาทรูปเป็นที่เกิด จิตรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสทางกาย มีกายปสาทรูป
เป็นที่เกิด ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...